อัปเกรดครั้งใหญ่ เร่งสปีด SSD หลัง BitLocker ทำเครื่องหน่วง

เร่งสปีด SSD

BitLocker ฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูลสุดแกร่งของ Microsoft ที่อยู่คู่กับ Windows มานาน กำลังจะได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ หลังจากที่โดนผู้ใช้งานบ่นมาตลอดว่า เปิดแล้วเครื่องช้า หรือทำให้ SSD ราคาแพงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ปัญหาของ BitLocker ในปัจจุบัน คือปกติแล้วเวลาเราเปิด BitLocker เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล ตัวระบบจะใช้ CPU ในการประมวลผลการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล

แต่ปัญหา เมื่อเราใช้ SSD ยุคใหม่แบบ NVMe ที่มีความเร็วสูงมาก CPU ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างมหาศาลเพื่อไล่ตามความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลให้ทัน ผลที่เกิดขึ้นคือ ทำให้เกิดอาการคอขวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดต่อวิดีโอไฟล์ใหญ่, การเขียนโค้ดโปรแกรม และการเล่นเกม

ล่าสุด Microsoft ประกาศเปิดตัวระบบ Hardware-accelerated BitLocker ที่จะย้ายภาระการทำงานจาก CPU ไปไว้ที่ Crypto Engine หรือหน่วยประมวลผลเฉพาะทางที่อยู่ในชิปเซ็ต แทน

ประโยชน์ที่จะได้รับคือ

1.ความเร็วสูงสุด ข้อมูลจาก Microsoft ระบุว่า SSD ที่เปิด BitLocker แบบใหม่จะวิ่งได้เร็วเกือบเท่ากับตอนไม่ได้เข้ารหัสเลยทีเดียว
2.ประหยัดทรัพยากร ลดการกินสเปก CPU ลงหลายเท่าตัว ทำให้เครื่องลื่นขึ้น
3.ความปลอดภัยสูงขึ้น มีการใช้ Hardware Wrapping เพื่อซ่อนกุญแจรหัส (Encryption Keys) ให้ปลอดภัยจากการถูกเจาะผ่านซอฟต์แวร์

ต้องมีสเปกเครื่องแค่ไหนถึงจะได้ใช้?
แม้ซอฟต์แวร์จะพร้อมใช้งานแล้วใน Windows 11 (เวอร์ชัน 24H2 และ 25H2) แต่ในฝั่งฮาร์ดแวร์ยังมีข้อจำกัดอยู่

ปัจจุบันรองรับเฉพาะระบบ Intel vPro ที่ใช้ซีพียู Intel Core Ultra Series 3 รุ่นใหม่เท่านั้น และต้องเข้ารหัสผ่านอัลกอริทึม XTS-AES-256 ซึ่ง Microsoft แย้มว่ากำลังขยายการรองรับไปยังผู้ผลิตชิปรายอื่น (เช่น AMD หรือ Qualcomm) ในอนาคต

ที่มา

techspot