Benz กลับลำ คืนปุ่มกดแบบดั้งเดิม ใช้แทนหน้าจอสัมผัส

Benz กลับลำ

อาจจะไม่ตรงกลุ่มแหละ …

หลังจากที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกหันไปใช้ จอสัมผัส ในการควบคุมฟังก์ชันเกือบทุกอย่างในรถมานานกว่าทศวรรษ ล่าสุด Mercedes-Benz ได้ประกาศเตรียมหันหลังให้กับเทรนด์นี้ และนำ ปุ่มกดแบบดั้งเดิม กลับมาใช้อีกครั้ง โดยจะเริ่มในปี 2026 เป็นต้นไป

เหตุผลสำคัญคือ มีข้อมูลและงานวิจัยชี้ชัดว่าการใช้จอสัมผัสขณะขับรถนั้น อันตรายกว่า ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ ใช้งานยุ่งยาก และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าการใช้ปุ่มกดที่คุ้นเคย

ทำไม ‘จอสัมผัส’ ถึงกลายเป็นปัญหา? แม้ว่าจอสัมผัสจะทำให้ห้องโดยสารดูทันสมัยและช่วยลดต้นทุนให้ผู้ผลิต แต่ก็มีข้อเสียหลาย ๆ อย่างตามมาทั้ง

1.ใช้งานช้าและอันตราย โดยจากการทดสอบโดยนิตยสารรถยนต์ของสวีเดน พบว่าผู้ขับขี่ในรถรุ่นเก่าที่มีปุ่มกดสามารถปรับแอร์หรือวิทยุได้ในเวลาเพียง 10 วินาที แต่ในรถรุ่นใหม่ที่เป็นจอสัมผัสกลับต้องใช้เวลานานถึง 23-44 วินาที ซึ่งเป็นการละสายตาจากถนนที่นานเกินไป

2.สร้างความหงุดหงิด เพราะการจะปรับอะไรเล็กๆ น้อยๆ เช่น เพิ่มเสียงแอร์ อาจต้องกดเข้าไปในเมนูหลายชั้น ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกยุ่งยาก

3ปัญหาด้านความทนทาน โดยจอสัมผัสมีโอกาสเสียได้ อย่างที่ Tesla เคยต้องเรียกคืนรถกว่า 158,000 คันในปี 2021 เพราะปัญหาจอดับ

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ Mercedes-Benz ค่ายอื่นก็คิดเหมือนกัน
– Volkswagen ยอมรับว่าการใช้จอสัมผัสสร้างความหงุดหงิดให้ลูกค้า และประกาศจะนำปุ่มกดกลับมาใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ
– Hyundai นำปุ่มกดกลับมาใช้ในรถหลายรุ่นแล้ว เช่น Ioniq 5 หลังจากพบว่าระบบสัมผัสล้วนทำให้ผู้ขับขี่กังวลและตัดสินใจช้าลงในสถานการณ์คับขัน
– Toyota, Honda, Nissan ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นหลายค่ายไม่เคยทิ้งปุ่มกดไปทั้งหมด แต่เลือกใช้การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างปุ่มและหน้าจอมาโดยตลอด

นอกจากนี้ กฎความปลอดภัยใหม่ในยุโรปเป็นอีกแรงผลักดัน ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป สถาบันทดสอบความปลอดภัยของยุโรป จะปรับลดคะแนนความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ไม่มีปุ่มกดสำหรับควบคุมฟังก์ชันที่จำเป็น เช่น ไฟเลี้ยว, ระบบปรับอากาศ หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ซึ่งถือเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องหันกลับมาติดตั้งปุ่มกดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จอสัมผัส จะยังไม่หายไปไหน แต่อนาคตจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากขึ้น นอกจากนี้ Mercedes-Benz ยังลงทุนพัฒนาระบบ สั่งงานด้วยเสียง AI ซึ่งมีการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในรถบางรุ่น และอาจกลายเป็นทางออกที่ดีที่สุดในอนาคต ที่ทำให้เราไม่ต้องเลือกระหว่างปุ่มกดกับจอสัมผัสอีกต่อไป

อย่างว่าแหละนะ การปรับแอร์ มันก็ไม่ควรไปกดตรงหน้าจออย่างเดียว เป็น Hybird จะดีที่สุด ที่มีทั้งปุ่มกดเป็น shortcut ที่สามารถกดเปลี่ยนได้ทันที แต่ Infotainment ก็ใช้เป็นหน้าจอแบบเดิมก็ได้

ที่มา

techspot