เทรนด์ Data Backup มาแรง Synology สร้างสตอเรจระดับองค์กร เน้นปลอดภัย

เทรนด์ Data Backup

Synology ได้ให้มุมมองว่าเทรนด์ Data Backup กำลังมาแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับ ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ล้ำค่า การเติบโตของข้อมูลอย่างมหาศาลทั่วโลก ทำให้ประเด็นเรื่องการจัดการและปกป้องข้อมูลกลายเป็นวาระสำคัญ

ทำไมเทรนด์ Data Backup ถึงสำคัญขึ้นในปัจจุบัน?

ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้องค์กรและบุคคลทั่วไปหันมาให้ความสำคัญกับการสำรองข้อมูลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แรนซัมแวร์ (Ransomware) โดยเฉพาะกับเคสโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี

คุณธัชวรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคอาเซียนของ Synology ชี้ว่า เหตุการณ์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หลายองค์กรตระหนักถึงความจำเป็นในการปกป้องข้อมูล ประกอบกับการทำงานแบบ Work From Home ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่เพิ่มช่องโหว่ให้ผู้ไม่หวังดีโจมตีข้อมูลได้ง่ายขึ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียข้อมูลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเงิน แต่อาจหมายถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร การหยุดชะงักของธุรกิจ หรือข้อมูลสำคัญที่ไม่สามารถเรียกคืนได้

นอกเหนือจากภัยคุกคามแล้ว ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง การใช้งานอุปกรณ์ IoT, การทำธุรกรรมออนไลน์, และการสร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิทัล ทำให้เรามีข้อมูลที่ต้องจัดเก็บและปกป้องมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ไม่ใช่แค่ Backup แต่ต้อง Recovery ได้จริง

รหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประเทศไทย เสริมว่า การมีไฟล์สำรองข้อมูลเป็นเพียงขั้นตอนแรก แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ความสามารถในการกู้คืนข้อมูล ได้อย่างรวดเร็วและสมบูรณ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์เสียหาย ภัยธรรมชาติ หรือการโจมตีทางไซเบอร์ องค์กรจำเป็นต้องมีแผนการกู้คืนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดระยะเวลาที่ระบบหยุดทำงาน และลดปริมาณข้อมูลที่อาจสูญหายไประหว่างเกิดเหตุจนถึงจุดที่กู้คืนได้
นี่คือจุดที่ระบบสำรองภายในองค์กร หรือ Private Cloud ยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่า Public Cloud จะมีข้อดีหลายประการ แต่ Private Cloud มอบการควบคุมข้อมูลทั้งหมดให้แก่องค์กร ทำให้สามารถบริหารจัดการความปลอดภัย กำหนดนโยบายการเข้าถึง และที่สำคัญคือ สามารถออกแบบกระบวนการสำรองและกู้คืนข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของตนเองได้อย่างเต็มที่ การกู้คืนข้อมูลจากระบบสำรองภายในองค์กร (On-Premise) หรือ Private Cloud มักจะทำได้รวดเร็วกว่าการดึงข้อมูลจำนวนมหาศาลกลับมาจาก Public Cloud โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งหากต้องการความรวดเร็วที่เพิ่มขึ้น ก็จะมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

Synology จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล สู่แพลตฟอร์มโซลูชันครบวงจร

Synology ได้พัฒนาจากผู้ให้บริการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่าย (NAS – Network Attached Storage) สู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันครบวงจร โดยมีหัวใจสำคัญคือ DiskStation Manager (DSM) ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่ายและทรงพลัง รันบนอุปกรณ์ NAS ทุกรุ่น ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างทัดเทียมกัน

โซลูชันเด่นที่ตอบโจทย์ความท้าทายด้านข้อมูล

Data Backup & Protection ถือเป็นโซลูชันที่มาแรงที่สุด Synology มีทั้ง Backup Appliance ที่ออกแบบมาเพื่องานสำรองข้อมูลโดยเฉพาะ และโซลูชัน Active Backup ที่ช่วยสำรองข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง (PC, Server, Virtual Machine, Cloud Services) โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์เพิ่มเติม ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากเมื่อเทียบกับการใช้ Public Cloud ในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมีข้อมูลหรือผู้ใช้จำนวนมาก (บางกรณีประหยัดได้ถึง 8 เท่า)

PDPA และ Data Governance  ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการข้อมูลและควบคุมการเข้าถึงตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ด้วยฟีเจอร์ Audit Log และ Secure SignIn ที่รองรับ Multi-Factor Authentication (MFA)

File Sharing & Private Cloud (Synology Drive) ให้ประสบการณ์ Private Cloud ที่ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของข้อมูล 100% สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ตอบโจทย์ทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ตั้งแต่ SME ถึง Enterprise และผู้ใช้ทั่วไป

Synology ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะตลาดองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกลุ่ม SME ซึ่งมีการเติบโตสูงเช่นกัน โดยโซลูชันของ Synology ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ แม้ในภาครัฐที่มีนโยบาย Cloud First Policy โซลูชัน Private Cloud ของ Synology ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากตอบโจทย์เรื่องความลับของข้อมูลและ RTO ที่รวดเร็ว

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป Synology ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เน้นความง่าย เช่น BeeStation (Private Cloud ส่วนตัวที่ตั้งค่าง่าย) และ BeeDrive (External SSD พร้อมซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลอัตโนมัติ)

BeeStation Plus สามารถสำรองข้อมูลความทรงจำจากโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ คลังภาพบนคลาวด์ และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกทั้งหมดมาไว้ในที่เดียวโดยอัตโนมัติ ด้วย AI ในตัวที่ประมวลผลบนอุปกรณ์โดยตรง (Local AI) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพบุคคลหรือวัตถุต่างๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องส่งข้อมูลใดๆ ไปยังคลาวด์

ไฟล์ส่วนตัว งานของโรงเรียน และโปรเจกต์ต่างๆ ก็สามารถจัดระเบียบได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะมาจากคลาวด์ไดรฟ์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก หรือคอมพิวเตอร์ BeeStation Plus จะรวบรวมทุกอย่างไว้ด้วยกันเพื่อให้การเรียกดูง่ายขึ้น การค้นหาที่ชาญฉลาดขึ้น และการแบ่งปันที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

โฮมเธียเตอร์ที่ขับเคลื่อนโดย Plex Media Server

BeeStation Plus มาพร้อมกับการรองรับ Plex Media Server ในตัว ทำให้สามารถเปลี่ยนคอลเลกชันสื่อของผู้ใช้ให้กลายเป็นคลังสตรีมมิ่งส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย จัดเก็บภาพยนตร์เรื่องโปรด รายการทีวี และวิดีโอที่ถ่ายเองไว้ในที่เดียว และเพลิดเพลินกับการเข้าถึงได้อย่างราบรื่นผ่านทีวี โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต ไม่ว่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านหรือระหว่างเดินทาง

ปฏิวัติวงการ Enterprise Storage ด้วย PAS7000 Series

ใน Computex 2025 Synology ได้เปิดตัว PAS7000 Series สตอเรจระดับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับข้อมูลปริมาณมหาศาล และการทำงานที่ต้องการความเร็วสูง (สูงสุด 2,000,000 IOPS) ด้วยเทคโนโลยี NVMe และ CPU ประสิทธิภาพสูงจาก AMD จุดเด่นสำคัญคือ

การดำเนินงานต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity) ด้วย Active-Active Dual Controller, การบำรุงรักษาโดยไม่กระทบระบบงาน (Non-Disruptive Operations)

การปกป้องข้อมูลขั้นสูง RAID Triple Parity และ การคัดลอกข้อมูลแบบซิงโครนัส (Synchronous Replication) ที่ช่วยให้ RPO เข้าใกล้ศูนย์ และ RTO สั้น

ความปลอดภัยหลายระดับ การเข้ารหัสข้อมูล, การควบคุมสิทธิ์, MFA, และคุณสมบัติ Immutability ป้องกันข้อมูลจาก Ransomware

การจัดการข้อมูลอัจฉริยะ  Smart Data Tiering และ Deduplication
PAS7000 Series เหมาะสำหรับงาน VDI, ฐานข้อมูลความเร็วสูง, การพัฒนา AI/ML และธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานต่อเนื่อง

ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและอนาคต

Synology ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย โดยมีทีม PSIRT (Product Security Incident Response Team) และโครงการ Bug Bounty ซึ่งผู้บริหาร Synology ยืนยันว่า ตัวระบบนั้นมีความปลอดภัยมาก เรามีทีมที่พยายามแฮกโปรดักส์ของตัวเองอยู่ทุกวันเพื่อหาช่องโหว่ Zero-day หากเจอ จะออกแพทซ์อัปเดตภายใน 24 ชั่วโมง และ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เรายังไม่เคยมีข่าวการถูกเจาะระบบที่เกิดจากช่องโหว่ของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ Synology ยังได้ได้เปิดตัว C2 Surveillance โซลูชันกล้องวงจรปิดบนคลาวด์ (Video Surveillance as a Service – VSaaS) ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่ายดาย รวดเร็ว และไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีหลายสาขา

จุดเด่นของ C2 Surveillance คือการติดตั้งที่สะดวกในไม่กี่นาที สามารถเพิ่มกล้องได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าลิขสิทธิ์ และมีระบบบันทึกภาพต่อเนื่องแม้เครือข่ายล่ม โดยจะบันทึกลง microSD การ์ดพร้อมตัวเลือกสำรองข้อมูลขึ้นคลาวด์ได้

โซลูชันนี้ยังช่วยให้จัดการกล้องจากทุกสาขาได้จากส่วนกลาง มีฟังก์ชัน AI ที่ใช้งานง่าย รองรับการประหยัดแบนด์วิดท์ และมีความปลอดภัยสูงด้วยการเข้ารหัสข้อมูลและผ่านมาตรฐานสากล เช่น ISO 27001 และ SOC 2 Type II โดย C2 Surveillance จะพร้อมให้บริการภายในปลายปีนี้

สรุปได้ว่า ในโลกที่ข้อมูลมีความสำคัญยิ่งยวด การมีกลยุทธ์การสำรองและกู้คืนข้อมูลที่แข็งแกร่งไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความอยู่รอดและความสำเร็จของทั้งบุคคลและองค์กร Synology ได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความท้าทายเหล่านี้ และนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยให้ทุกคนสามารถจัดการ ปกป้อง และใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ซึ่งโซลูชัน Private Cloud ยังคงมีบทบาทสำคัญในการมอบการควบคุมและความยืดหยุ่นที่จำเป็นในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน.