Fujifilm เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ Fujifilm X Half ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงกล้องดิจิทัลธรรมดา แต่เป็นการนำเสนอแนวคิดใหม่ที่ผสานรวมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เข้ากับประสบการณ์ การถ่ายภาพแบบฟิล์มในอดีตอย่างลงตัวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำลองกล้องฟิล์มแบบ Half-frame ที่สามารถสร้างภาพในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร Techhub อยากพามาดูเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังกล้องนี้กันครับ
1. การจำลอง Half-frame ด้วยเซ็นเซอร์ดิจิทัล
โดยหัวใจสำคัญของ X Half คือความสามารถในการถ่ายภาพแบบครึ่งเฟรม ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งแตกต่างจากการครอปภาพทั่วไปอย่างสิ้นเชิง โดยกล้องจะทำการประมวลผลและจัดเรียงภาพให้ได้สัดส่วนภาพแบบ Half-frame ตั้งแต่เริ่มต้น แทนที่จะเป็นภาพเต็มเฟรมปกติ แล้วมาครอปทีหลัง ซึ่งสามารถถ่ายภาพ 2 ช็อตต่อกัน หรือจะสร้างเป็นภาพนิ่งภาพแรก แล้วถ่ายวีดีโอถัดไปก็ได้ ทำให้เรามีไอเดียถ่ายภาพเพิ่มมากขึ้น
- การประมวลผลภาพแบบ Half-frame จะมีการประมวลผลแบบ Real-time กล้องใช้ชิปประมวลผลภาพที่สามารถประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์เพื่อสร้างภาพสองภาพในสัดส่วน Half-frame ได้ทันที (เช่น 1:1.66 หรือ 1:1.77) พร้อมกับการแสดงผลบนหน้าจอเพื่อแสดงผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับภาพจริง
- Optimal Sensor Utilization แม้จะเน้นการจำลองสัดส่วน Half-frame แต่เซ็นเซอร์ดิจิทัลที่ใช้ยังคงมีความละเอียดเพียงพอที่จะให้คุณภาพของภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดที่ดีในแต่ละครึ่งเฟรมนั้นๆ โดยไม่รู้สึกว่าถูกจำกัดคุณภาพ
2. Film Simulation อัลกอริทึมแห่งสีสันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฟิล์ม
ความโดดเด่นของ Fujifilm คือ Film Simulation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เลียนแบบการตอบสนองของสีสัน คอนทราสต์ และเกรนของฟิล์ม Fujifilm ในตำนานชนิดต่างๆ เทคโนโลยีนี้เป็นผลจากการวิจัยและพัฒนาอย่างยาวนานของ Fujifilm โดยมีจุดเด่นคือ
- การวิเคราะห์สเปกตรัมของฟิล์ม โดย Fujifilm ทำการวิเคราะห์คุณสมบัติทางสเปกตรัมของฟิล์มแต่ละชนิดอย่างละเอียด ตั้งแต่การตอบสนองต่อแสงสีต่างๆ (Red, Green, Blue) ไปจนถึงลักษณะของเกรนและคอนทราสต์ในสภาวะแสงที่แตกต่างกัน
- การสร้าง Lookup Tables (LUTs) และอัลกอริทึมเฉพาะ ข้อมูลเหล่านี้ถูกแปลงเป็นอัลกอริทึมและ Look-Up Tables (LUTs) ที่ซับซ้อนภายในหน่วยประมวลผลของกล้อง ทำให้เมื่อผู้ใช้เลือก Film Simulation ใดๆ กล้องจะทำการปรับแต่งข้อมูลสีที่ได้จากเซ็นเซอร์ดิจิทัลให้มีลักษณะเฉพาะตามฟิล์มนั้นๆ ทันที
- การจำลองเกรนดิจิทัล X Half มีฟังก์ชันการจำลองเกรนดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นเพื่อเลียนแบบลักษณะเฉพาะของเกรนฟิล์ม ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสุนทรียะแบบอนาล็อกให้กับภาพถ่ายดิจิทัล.
3. “X filter” และเอฟเฟกต์เฉพาะ การประมวลผลภาพขั้นสูงเพื่อความสร้างสรรค์
นอกเหนือจาก Film Simulation แล้ว X Half ยังมาพร้อมกับฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์พิเศษที่ใช้การประมวลผลภาพขั้นสูงเพื่อจำลองความผิดพลาดหรือคุณลักษณะเฉพาะของกล้องฟิล์มเก่าๆ เช่น
- Light Leak (แสงรั่ว) จำลองเอฟเฟกต์แสงรั่วที่มักเกิดขึ้นกับกล้องฟิล์มที่มีปัญหาการซีลแสง โดยการสร้างพื้นที่ที่มีสีส้ม แดง หรือขาวสว่างแบบสุ่มในภาพ
- Halation (แสงฟุ้ง) จำลองปรากฏการณ์ที่แสงสว่างจ้าทะลุผ่านชั้นอิมัลชั่นของฟิล์มแล้วสะท้อนกลับ ทำให้เกิดแสงเรืองๆ รอบแหล่งกำเนิดแสง
- Expired Film (ฟิล์มหมดอายุ) ใช้การปรับสี โทน และคอนทราสต์ เพื่อเลียนแบบลักษณะเฉพาะของฟิล์มที่เก็บไว้นานเกินไป ซึ่งมักจะมีสีเพี้ยนหรือมีมิติของสีที่แตกต่างออกไป
4. Integration with Mobile Ecosystem การเชื่อมต่อไร้สายเพื่อการแชร์ภาพ
เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัล X Half รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth และ Wi-Fi เพื่อทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน “X half” บนสมาร์ทโฟน:
- ผู้ใช้สามารถโอนภาพที่ถ่ายจากกล้องไปยังสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว
- การปรับแต่งเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งองค์ประกอบของภาพ Half-frame ได้ เช่น การเปลี่ยนสีเส้นแบ่งระหว่างสองภาพ, การปรับขนาด, หรือการสลับตำแหน่งของภาพซ้าย-ขวา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้ายตามที่ต้องการ
- Social Sharing Optimization มีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพสไตล์ Half-frame ที่ไม่เหมือนใครนี้ไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
Fujifilm X Half ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของเทคโนโลยีที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงสเปกตัวเลขที่สูงขึ้น แต่เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้งานของคน มีหลากหลายและมีเอกลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น
กล้องตัวใหม่นี้เปิดราคาอยู่ที่ 25,990 ครับ ซึ่งหากใครสนใจกล้องภาพสไตล์ฟิล์ม ตัวนี้ค่อนก็ข้างน่าสนใจเลย
ที่มา
งานแถลงข่าวแล้ว Fujifilm X Half
