[เครื่องมือหลัก] เป็นที่ทราบกันดีว่า AI ถูกนำมาช่วยงานหลากหลาย เป็นเครื่องมือหลักที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ตัวอย่างเช่นการพัฒนาเกม ที่ปัจจุบันต้องสู้กับกับต้นทุนที่พุ่งสูง และงบประมาณที่จำกัดมากขึ้น AI จึงกลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็น แต่ก็แลกกับความเสี่ยงที่ตามมามากมายเช่นกัน
รายงานจาก Google Cloud และ The Harris Poll ได้สำรวจนักพัฒนาเกมทั้งหมด 615 คน จากทั้งสหรัฐฯ , เกาหลีใต้ , นอร์เวย์ , ฟินแลนด์ และสวีเดน เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนและต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผลสำรวจพบ 87% ใช้ AI Agent ช่วยพัฒนาเกม ทั้งประมวลผลข้อความ , โค้ด , เสียง และวิดีโอในปริมาณมหาศาล โดยล้วนเป็นงานที่เคยต้องใช้เวลาทั้งนั้น
ผลสำรวจยังเผยอีก 94% พบนักพัฒนาเกมเชื่อ AI ช่วยลดต้นทุนการพัฒนาได้ และหวังให้ช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิตเกมฟอร์มยักษ์ และเกมที่มี Live-Service ให้บริการในระยะยาวด้วย
ปัจจุบันเกมมีความซับซ้อนมากขึ้น และผู้เล่นก็ต้องการความประณีตที่สูงขึ้น การใช้ AI ช่วยลดงานที่ซ้ำซาก ก็ทำให้นักพัฒนาไปมุ่งกับงานที่มีความสำคัญสูงกว่าได้มากขึ้น เช่น การออกแบบและการสร้างเนื้อหาเกม
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังเผยอีกว่า 1 ใน 4 ของนักพัฒนา ต้องดิ้นรนในการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในเมื่อนำเครื่องมือ AI มาช่วยแล้ว ก็ต้องให้ประสิทธิภาพการพัฒนาเกมที่มากตาม และอีก 64% แสดงความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากยังมีคำถามว่า “ใครเป็นผู้ถือสิทธิ์ในเนื้อหาที่สร้างโดย AI”
ปัญหาถัดมาคือ AI อาจเข้ามาแทนที่มนุษย์ได้ เกิดการเลิกจ้าง หรือกดดันให้ลดค่าจ้างลงได้อีก และยังนำมาซึ่งการต่อสู้ทางกฎหมาย เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลฝึกฝนและทรัพย์สินทางปัญญานี้เอง
แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่ความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมที่มีต่อ AI โดยรวมก็ยังไปในเชิงบวก นักพัฒนาจำนวนมากมองว่าระบบอัตโนมัติเหล่านี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษานวัตกรรม ท่ามกลางแรงกดดันด้านงบประมาณ บางคนคาดการณ์ว่าการนำ AI มาใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น อาจช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับสตูดิโอพัฒนาเกมขนาดเล็กได้มากขึ้น
ที่มา : Techspot