5 เหตุผล ที่ทำให้ AI ไม่มีวันแทนที่ Google Search

ปัจจุบัน OpenAI กลายมาเป็นคู่แข่งของ Google อย่างเต็มตัว จากการเปิดตัว ChatGPT Search ที่ทำให้คนค้นหาข้อมูลได้โดยใช้ AI ทำให้ไม่ต้องเข้า Google อีกต่อไป แน่นอนว่า Google ก็คงไม่อยู่เฉยแหละนะ ล่าสุดเห็นกำลังทดสอบปุ่ม AI Mode ในหน้า Google เพื่อให้เราสามารถใช้ AI ค้นหาข้อมูลได้เช่นกัน

แต่มันจะแทนที่การค้นหาแบบดั้งเดิมได้จริงๆ หรือ?  ผมยังไม่เชื่อนะ ลองมาดู 5 เหตุผลว่า ทำไม AI Search จะยังไม่สามารถแทนที่การค้นหาแบบดั้งเดิมบน Google ได้ ในเร็ว ๆ นี้

1. Google มีหน้าตาการใช้งานที่เรียบง่ายกว่า

หนึ่งในเหตุผลที่ Google ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือความง่ายในการใช้งาน หน้าตาการใช้งานถือเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการออกแบบ เราเพียงแค่ป้อนคำค้นหาของเราแล้วกด Enter ก็จะได้รับผลการค้นหา เมื่อเราได้รับผลการค้นหา มันจะถูกจัดวางในลักษณะที่ง่ายต่อการค้นหาและใช้งาน ไม่ต้องพูดถึง AI นี่คือเหตุผลที่ Google โดดเด่นกว่าเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ส่วนใหญ่

ในทางตรงกันข้าม เครื่องมือค้นหา AI จำเป็นต้องมีช่วงการเรียนรู้ เราต้องเรียนรู้วิธีเริ่มการสนทนา และหน้าตาการใช้งานของแอปก็ค่อนข้างจะเทอะทะกว่าเล็กน้อย องค์ประกอบเหล่านี้เพิ่มความยาก ทำให้หลายคนรู้สึกว่าลำบากมากว่าการใช้ AI ในการช่วยค้นหา

2.เปลี่ยนนิสัยคน ยากกว่าที่คิด

แม้ว่าเครื่องมือค้นหา AI จะได้รับการยอมรับในวงกว้าง แต่ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะเปลี่ยนนิสัยที่ฝังรากลึกของผู้คนครับ โดยเฉพาะกับคนในกลุ่ม Gen X จนถึง Gen Z ซึ่ง Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นสำหรับหลายๆ คนมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 หลายคนเติบโตมากับการใช้ Google และโซเชียลมีเดียในการค้นหาข้อมูลเพียงอย่างเดียว

และแม้ว่าจะโน้มน้าวให้คนจำนวนมากเปลี่ยนได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเปลี่ยนตาม ตัวอย่างเช่น บางคนยังคงอ่านหนังสือพิมพ์และดูเคเบิลทีวี แม้ว่าจะมีสื่อรูปแบบที่ทันสมัยกว่าเกิดขึ้นในปัจจุบันแล้วก็ตาม วิธีเดียวที่เราจะเปลี่ยนนิสัยของคนส่วนใหญ่ได้ คือการนำเสนอสิ่งที่ใช้งานง่ายกว่าและทำงานได้ดีกว่าสิ่งที่มีอยู่แล้ว ซึ่งผมไม่มั่นใจว่าเครื่องมือ AI จะทำเช่นนั้นได้ขนาดไหนครับ

3.AI ไม่ง่าย สำหรับบางคน

ณ จุดนี้ หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับโปรแกรมอย่าง ChatGPT Search ผมเชื่อว่า มีเพียงไม่กี่คนที่เคยใช้งานจริง หากไม่มีผู้คนจำนวนมากเริ่มใช้ เครื่องมือค้นหา AI ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะมาแทนที่การค้นหาแบบดั้งเดิมของ Google ได้อย่างสมบูรณ์ และหลายคน อาจรู้สึกเบื่อหน่ายกับการพูดถึง AI ตลอดเวลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณว่าเราอาจจะถึงจุดอิ่มตัวของ AIการได้รับการยอมรับในวงกว้างนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ หากผู้คนมองว่าแอปเหล่านี้เป็นเพียงกระแสความนิยมชั่วครั้งชั่วคราว

4.Google ดีกว่าสำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริง

เวลาที่เราใช้ AI  ระบบจะมีการเตือนเสมอว่า ให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เพราะข้อมูลที่ได้จาก AI อาจผิดพลาด

ในความคิดของผม Google ยังคงเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงนะ และก็รู้สึกสบายใจกว่าในการตรวจสอบคำกล่าวอ้างต่างๆ แม้ว่า Google จะไม่ได้สมบูรณ์ แต่ AI ก็ขึ้นชื่อในเรื่องการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

5. การค้นหาด้วย AI บางครั้งก็ล้าสมัย

หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของฉันกับการค้นหาด้วย AI คือบางครั้งผลลัพธ์ก็ไม่เป็นปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น บางครั้ง ผมค้นหาคำต่างๆ และได้รับแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้อัปเดตมาหลายปีแล้ว  จุดอ่อนคือข้อมูลแทบจะไม่เรียล อย่างเช่น ผมต้องการข้อมูลเกมที่อัปเดตเมื่อ 3 วันก่อน แต่ AI กลับบอก ไม่เจอข้อมูลดังกว่า แต่เว็บ Official มีประกาศแล้ว ทั้ง ๆ ที่ผมก็ใช้ AI เวอร์ชั่นที่ Advance ที่บอกว่า อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์

แน่นอนว่า การค้นหาของ Google จะได้รับการอัปเดตเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นบทความหรือวิดีโอที่เผยแพร่ล่าสุดปรากฏที่ด้านบนของหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ความทันสมัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อทำการค้นคว้า และจนกว่าเครื่องมือ AI จะตามทัน พวกมันก็จะยังคงเป็นรองเสมอ

ต้องยอมรับว่า แอปค้นหา AI นั้นเข้ามามีบทบาทของตัวเองในระบบนิเวศการค้นหา แต่พวกมันอาจจะไม่สามารถแทนที่การค้นหาแบบดั้งเดิมของ Google ได้อย่างสมบูรณ์ เหตุผลเพราะ Google ใช้งานง่ายกว่า และบางคนก็มีนิสัยใช้มันมาตลอดชีวิต การค้นหาด้วย AI จะเข้ามาแทนที่บางฟังก์ชัน แต่ไม่ใช่การทดแทนโดยตรงสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างครับ

คนอื่นล่ะ คิดยังไง ?