HPE (NYSE: HPE) ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในกลุ่มผลิตภัณฑ์ NVIDIA AI Computing by HPE ซึ่งรองรับลูกค้าองค์กร ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานของ AI โดยความก้าวหน้าในครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการผสานรวมกับ NVIDIA AI Enterprise พร้อมนำโมเดล NVIDIA AI และ NVIDIA Blueprints รุ่นใหม่ล่าสุดมาสู่ HPE Private Cloud AI เพื่อช่วยให้นักพัฒนา สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ HPE ยังเตรียมจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute ที่มาพร้อมระบบประมวลผลที่เร่งความเร็วด้วย NVIDIA Blackwell เพื่อยกระดับการทำงานของเวิร์กโหลดของ Generative AI, Agentic AI และ Physical AI
เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute ที่ขับเคลื่อนด้วย GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell
เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute ที่ขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell จะพร้อมวางจำหน่ายได้ตรงตามกำหนดการออกสู่ตลาด ที่รองรับการการติดตั้ง NVIDIA RTX PRO บนเซิร์ฟเวอร์สองรุ่น ได้แก่
- เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant DL385 Gen11: รองรับ GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition GPUs ได้สูงสุด 2 ตัว ในขนาด 2U RTX PRO Server form factor พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีหน้าที่ตอบสนองต่อความต้องการด้าน AI ขององค์กรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute DL380a Gen12: รองรับ GPU NVIDIA RTX PRO 6000 ได้สูงสุด 8 ตัว ในขนาด 4U ตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเริ่มจัดส่งได้ตั้งแต่เดือนกันยายน
เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับเวิร์กโหลดที่หลากหลาย และตอบสนองต่อความต้องการด้านไอทีขององค์กรที่เพิ่มสูงขึ้นในด้านประสิทธิภาพการประมวลผลที่เร่งความเร็วด้วย GPU โดยเซิร์ฟเวอร์นี้จะมอบทั้งความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ทั่วทั้งองค์กร พร้อมยกระดับความความก้าวหน้าในด้านผลผลิต ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการดำเนินงานไปสู่อีกขั้น เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute Gen12 มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นผ่าน HPE Integrated Lights Out (iLO) 7 Silicon Root of Trust และ Secure Enclave ที่ป้องกันการงัดแงะ อีกทั้งยังใช้เฟิร์มแวร์ที่ทนทานต่อการโจมตีจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ มีระบบดูแลจัดการเซิฟร์เวอร์อัตโนมัติแบบรวมศูนย์ ที่ออกแบบมาให้ทำงานบนคลาวด์ (cloud-native) โดยเฉพาะ ผ่าน HPE Compute Ops Management ที่ช่วยลดชั่วโมงการทำงานในการจัดการเซิร์ฟเวอร์ของฝ่ายไอทีได้มากถึง 75% และลดเวลาหยุดทำงานของระบบ (Downtime) ลงถึง 4.8 ชั่วโมงต่อเซิร์ฟเวอร์ต่อปี[i] เวิร์กโหลดเป้าหมายของเซิร์ฟเวอร์นี้ประกอบด้วย Generative AI และ Agentic AI รวมถึง Physical AI เช่น หุ่นยนต์และเคสการใช้งานทางอุตสาหกรรม การประมวลผลภาพ เช่น การตรวจสอบติดตามการควบคุมคุณภาพและยานยนต์ไร้คนขับ ระบบจำลอง (Simulation) การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ โมเดลจำลองเสมือนจริง (Digital Twin) และแอปพลิเคชันขององค์กร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ HPE ยังได้ประกาศเปิดตัว HPE Private Cloud AI รุ่นใหม่ ที่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้ ซึ่งจะรองรับ GPU NVIDIA RTX PRO 6000 บนซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute Gen12 พร้อมความสามารถในการปรับขยายขนาดสำหรับ GPU ทุกรุ่น รวมถึงการจัดการแบบปิด ที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับภายนอกองค์กร (Air-gapped) และรองรับการใช้งานผู้ใช้หลายราย (Multi-tenancy) ในระดับองค์กรได้
HPE Private Cloud AI เพิ่มการรองรับโมเดลให้เหตุผล (Reasoning Models) และบลูพริ้นต์วิดีโอใหม่จาก NVIDIA
HPE Private Cloud AI เป็นโซลูชัน AI Factory แบบครบวงจรสำหรับองค์กร ที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA จะรองรับโมเดล NVIDIA Nemotron models เวอร์ชันล่าสุดสำหรับ Agentic AI โมเดลภาษาภาพ (VLM) Cosmos Reason สำหรับ Physical AI และหุ่นยนต์ รวมถึง NVIDIA Blueprint for Video Search and Summarization (VSS 2.4) เพื่อสร้าง Video Analytics AI Agents ที่สามารถสกัดข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าจากข้อมูลวิดีโอจำนวนมหาศาล ทั้งนี้ จากความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่องของ HPE และ NVIDIA ทำให้ HPE Private Cloud AI ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถปรับใช้ NVIDIA NIM Microservices สำหรับโมเดล AI ล่าสุดและ NVIDIA Blueprints ได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ผ่าน HPE AI Essentials
จากการผสานรวมระบบที่ล้ำลึกที่สุดด้วยการประมวลผล ระบบเครือข่าย และซอฟต์แวร์ NVIDIA AI ทำให้ HPE Private Cloud AI ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่ และรวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังสามารถควบคุมข้อมูลได้เป็นอย่างดี ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชันประสิทธิภาพสูงนี้เพื่อจัดการกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการปรับใช้โมเดล AI (AI Inferencing) และเร่งกระบวนการผลิตงาน AI
ขับเคลื่อนการปฏิวัติ AI ร่วมกัน (AI Revolution Together)
เชอรี วิลเลียมส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Private Cloud และ Flex Solutions ของ HPE กล่าว “HPE มุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพองค์กรด้วยเครื่องมือที่พวกเขาต้องมี เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในยุค AI ซึ่งความร่วมมือระหว่างเรากับ NVIDIA ยังคงผลักดันขีดความสามารถของนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ของ Generative AI, Agentic AI และ Physical AI พร้อมกับตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของเวิร์กโหลดขององค์กร ด้วยการผสมผสานของเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant และสมรรถนะในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นของ HPE Private Cloud AI เราจึงช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ก้าวสู่อนาคตของ AI ได้อย่างมั่นใจและคล่องตัว”
จัสติน บัวทาโน รองประธานฝ่าย Enterprise AI ของ NVIDIA กล่าวว่า “องค์กรต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทันกับความต้องการของ AI สมัยใหม่ ด้วย GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell ในเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant ขนาด 2U องค์กรสามารถเร่งประสิทธิภาพการทำงานได้แทบทุกเวิร์กโหลด บนแพลตฟอร์มเดียวที่พร้อมใช้งานในระดับองค์กร”
การวางจำหน่าย
เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant DL385 Gen11 และ HPE ProLiant Compute DL380a Gen12 ที่มาพร้อม GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition เปิดให้สั่งซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ และจะเริ่มจัดส่งทั่วโลกในวันที่ 2 กันยายน 2568
การรองรับโมเดล NVIDIA Nemotron, Cosmos Reason และ NVIDIA Blueprint สำหรับ VSS 2.4 ของ HPE Private Cloud AI จะพร้อมให้บริการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
HPE Private Cloud AI รุ่นถัดไป ที่มาพร้อม GPU NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition จะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
เกี่ยวกับ HPE
HPE (NYSE: HPE) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับองค์กร ที่รวบรวมพลังของ AI คลาวด์และระบบเครือข่ายเพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ในฐานะผู้บุกเบิกในด้านความเป็นไปได้ นวัตกรรมและความเชี่ยวชาญของเราได้ช่วยยกระดับวิถีการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คน เราช่วยให้ลูกค้าของเราในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นข้อมูลเพื่อการคาดการณ์ล่วงหน้า และเพิ่มผลลัพธ์ในระดับสูงสุด ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ท้าทายที่สุด