อยากสอย Huawei P30 Series จำเป็นต้องใช้รุ่น Pro ไหม ?

สืบเนื่องจากผู้เขียนได้ตัว Huawei P30 มารีวิวแล้ว รอติดตามได้เร็ว ๆ นี้ (ตอนแรกขอรุ่น Pro แต่คิวเต็ม )
ดังนั้นบทความนี้ เลยขอโชว์เจ้า Huawei P30 รุ่นไม่ Pro นี้ มีดีกว่า P30 Pro ยังไงบ้างมันซะเลย ฮ่า ฮ่า เชื่อว่าหลายคงคงมีคำถามนี้อยู่ในใจเหมือนกัน เพราะทั้ง 2 รุ่นมีราคาที่ห่างกันถึง 10,000 บาท ฉะนั้นระหว่าง Huawei P30 และ Huawei P30 Pro จะมีความแตกต่างกันมากแค่ไหน เดี๋ยวมาดูกันเลยครับ ใครอยากได้แบบไหนลองดูกันได้เลยครับ

ดูรายละเอียดตัว Huawei P30 Series ได้ที่

ปิดตัว Huawei P30 Series กล้องหลัง 4 ตัวคุณภาพจัดเต็ม และพลังซูมถึงดวงดาว

1.Huawei P30 มีช่องเสียบหูฟังนะ

รู้หรือไม่ ตัวรุ่น P30 Pro ไม่มีรูเสียบ 3.5 mm นะเออ แต่ในรุ่น P30 มี เหมาะสำหรับใครที่มีหูฟังแบบมีสายอยู่ แต่ไม่อยากทิ้ง หรือไปหาซื้อตัว Bluetooth Adapter ให้เสียเงินเพิ่มเติม กับอยากฟังเพลงไปด้วยและชาร์จไฟไปด้วยเป็นต้น

2.Huawei P30 กับ P30 Pro ใช้ซีพียู Kirin 980 เหมือนกัน

อาจมีคำครหาอยู่เหมือนกันว่า ทำไม Huawei P30 Series ถึงใช้ซีพียู Kirin 980 แบบเดียวกับ Mate 20 Series (บางคนอาจรอ Mate 30 Series เลยก็มี) ยังดีที่ตัว Kirin 980 ใน P30 Series มีการปรับปรุงเรื่อง AI กับประสิทธิภาพบางส่วน และอย่างที่ทราบกันคือ Huawei P30 กับ P30 Pro ใช้ Kirin 980 เหมือนกัน ฉะนั้น P30 ก็มีสเปกแรงไม่แพ้ P30 Pro เลยนั้นเอง (ยกเว้นแรม 6GB น้อยกว่า P30 Pro ที่มี 8GB)

3.หน้าจอของ Huawei P30 จับถนัดมือกว่า P30 Pro

ตรงนี้ขอส่วนตัวนิด ๆ เนื่องจากแอดเคยลองจับสมาร์ทโฟนที่จอโค้งมาหลายรุ่น อาทิ Samsung S9+, Mate 20 Pro และ OPPO Find X ปัญหาที่แอดเจอเวลาถือใช้งานบ่อย ๆ คือ นิ้วหรืออุ้งมือชอบไปโดนขอบโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้การ Touch หน้าจอผิดเพี้ยนไปบ้าง เอาตัวอย่างที่ชัดเจนสุดก็คือการเล่นเกม บ่อยครั้งที่แอดเผลอไปกดปุ่มหรือหน้าเมนูอื่น ๆ ของตัวเกม จนสุดท้ายแอดต้องหากรอบมาใส่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กลับมาที่ Huawei P30 ตัวหน้าจอจะไม่โค้งเหมือน P30 Pro โดยมีขนาดหน้าจอที่ 6.1 นิ้ว ต่างจากรุ่น Pro ที่มีขนาด 6.47 นิ้ว ทำให้แอดมองว่า มันจับถนัดมือกว่านั้นเอง

อนึ่งตัว P30 และ P30 Pro ใช้จอ OLED ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080) สัดส่วน 19.5:9 เหมือนกันนะ

4.กล้อง 3 ตัว ก็เปรี้ยวได้

จริงอยู่ที่สเปกกล้องของ P30 Pro เหนือชั้นกว่า P30 มาก ๆ ไหนจะมีเลนส์ซูมที่มีความละเอียดมากกว่า กับซูมแบบ Digital ได้ถึง 50 เท่า (ในขณะที่ P30 ซูมได้ 30 เท่า) และสุดท้ายมีกล้องเทพ TOF ตัวที่ 4 อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ตัว P30 ก็ยังมีเซ็นเซอร์ SuperSpectrum ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในที่มืดได้ดี และมีกล้องหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซลเหมือนกัน ส่วน 2 เลนส์ที่เหลือก็มี เลนส์ Ultra Wide Angle 16 ล้านพิกเซล และเลนส์ซูม 8 ล้านพิกเซล  แบ่งเป็น Optical Zoom x 3, Hybrid Zoom x 5 และ Digital Zoom x 30 สำหรับสมาร์ทโฟนราคา 20,000 ต้น ๆ การที่มีกล้องระดับนี้ ก็ถือว่าโหดแล้วครับ

5.ราคา Huawei P30 ถูกกว่า P30 Pro ถึง 10,000 บาท

สุดท้ายนี้ตัว Huawei P30 มีราคาอยู่ที่ 21,990 บาท ส่วนรุ่น P30 Pro อยู่ที่ 31,990 บาท อย่างที่ได้อ่านกันไป เราจะเห็นแล้วว่าตัว Huawei P30 Series ทั้ง 2 รุ่น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หรืออยากดูแบบชัด ๆ ก็ลองดู ‘เทียบสเปก P30 และ P30 Pro’ ในหัวข้อถัดไปได้ สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทุกคน และต้องยอมรับว่าในรุ่น P30 Pro ยังไงก็คือรุ่น Pro ตามชื่อ ใครอยากได้แบบไหนลองดูกันได้เลยครับ

เทียบสเปก P30 และ P30 Pro