เจาะลึกที่มาดีไซน์สุดล้ำของ “Galaxy Z Fold2 5G” นวัตกรรมสมาร์ทโฟนแห่งอนาคตจากซัมซุง พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้

พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ สำหรับ Galaxy Z Fold2 5G (กาแลคซี่ ซี โฟลด์ 2 5G) นวัตกรรมสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันที่ 3 จากซัมซุง ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดล้ำพร้อมฟังก์ชันการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานกว่าที่เคย ต่อยอดจากรุ่นบุกเบิกอย่าง Galaxy Fold ด้วยวิศวกรรมการออกแบบขั้นสูง ทั้งดีไซน์หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ยังคงความเพรียวบาง พร้อมมอบสัมผัสสุดลักซ์ชัวรี่ด้วยวัสดุระดับพรีเมียมและเฉดสีไอคอนิกแห่งปี

ยกระดับประสบการณ์ผ่านหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น

หน้าจอทั้งสองของ Galaxy Z Fold2 ได้ถูกพัฒนาให้มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ โดยจอหลักขนาด 7.6 นิ้วด้านในมาพร้อมขอบจอที่บางลงกว่า 27% และไร้รอยบากของกล้อง ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 12% เช่นเดียวกับจอด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงความเพรียวบางของตัวเครื่องไว้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์หน้าจอขนาดใหญ่ของแท็บเล็ตและความคล่องตัวของสมาร์ทโฟนในเครื่องเดียว ซึ่งเป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่แท้จริงของสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้

เปรียบเทียบพื้นที่หน้าจอของ Galaxy Fold (ซ้าย) และ Galaxy Z Fold2 (ขวา)

ดีไซน์ที่ตอบรับกับการใช้งาน

สำหรับดีไซน์ภายนอก ซัมซุงได้คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ดังนั้น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์และทีมดีไซน์จึงต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อออกแบบสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ให้สะดวกต่อการพกพา (Portability) และต่อการใช้งาน (Usability) มากที่สุด จึงเป็นที่มาของดีไซน์ที่มีสัดส่วนลงตัวยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ซัมซุงยังถ่ายทอดความคลาสสิกผ่านดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่งของลวดลายเส้นตรง โดยยังคงความโค้งมนบริเวณรอบนอกเพื่อให้รับกับรูปมือ สามารถใช้งานได้คล่องตัวด้วยมือเดียว

ความเรียบหรูที่ชวนลุ่มหลงกับสีใหม่ ‘Mystic Bronze’

กว่าจะมาเป็นเฉดสีที่ทุกคนพูดถึงอย่างสี Mystic Bronze นั้น ทีมออกแบบ CMF Design ของซัมซุงต้องทำการศึกษาและวิจัยถึงธีมสี วัสดุ และผิวสัมผัสของผลิตภัณฑ์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Global Color Experts ซึ่งในปีนี้ Mystic Bronze ได้ถูกยกเป็นเฉดสีหลักของ Galaxy Z Fold2 5G และสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ ในไลน์อัพล่าสุดของซัมซุง เพราะเป็นเฉดสีที่มีความโดดเด่น สวยงามไม่เหมือนใคร แต่ยังความคลาสสิกเรียบหรู อีกทั้งซัมซุงยังใช้เทคนิคเคลือบผิวสัมผัสขั้นสูงที่เรียกว่า Haze Finish เพื่อดึงเอกลักษณ์ความงามของสีทองแดง (Copper) ให้ออกมาอย่างสมจริงบนผิวแมทต์ซาติน ทั้งบริเวณตัวเครื่องและฐานของกล้องหลัง สะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวที่แผ่นด้านหลังของตัวเครื่องอีกด้วย

นอกจากนี้ ซัมซุงยังมอบประสบการณ์ที่เอ็กซ์คลูซีฟไปอีกขั้น ด้วยบริการสั่งทำ Galaxy Z Fold2 5G แบบพิเศษเฉพาะตัว ผ่านการเลือกสีบานพับของตัวเครื่องเองได้ (Hinge customization) เพื่อสร้างความโดดเด่นและบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ของผู้ใช้จากตัวเลือกของสีบานพับสุดพรีเมียมทั้ง 4 ได้แก่ Metallic Red, Metallic Silver, Metallic Gold, และ Metallic Blue สามารถมิกซ์แอนด์แมชท์เข้ากับสีหลักทั้ง 2 อย่าง Mystic Bronze และ Mystic Black โดยซัมซุงได้เปิดให้บริการนี้ใน 21 ประเทศเท่านั้น รวมถึงประเทศไทย ผู้ที่สนใจสามารถสั่งทำโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ทาง Samsung.com

ประสบการณ์เหนือระดับแบบ Galaxy Z Fold2 5G ตั้งแต่แรกสัมผัส

อีกหนึ่งรายละเอียดที่ซัมซุงตั้งใจออกแบบเพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกสัมผัส คือดีไซน์ของแพคเกจจิ้งด้านนอก โดยซัมซุงได้แฝงลูกเล่นที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ Galaxy Z Fold2 5G ไว้อย่างแยบยล ไม่ว่าจะเป็น ทิศทางการเปิดกล่องออกตามแนวด้านข้างเช่นเดียวกับลักษณะการกางเครื่อง หรือลวดลายกราฟฟิกบนกล่องที่คล้ายคลึงกับภาพ Lock Screen รวมถึงการจัดวาง Layout ของแผ่นพับคู่มือที่แบ่งออกเป็น 2 คอลัมน์แนวตั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับหน้าจอของ Galaxy Z Fold2 5G

ซัมซุงยังตั้งใจบ่งบอกความเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ตระกูล ‘Galaxy Z’ ผ่านดีไซน์โลโก้ตัว ‘Z’ ที่ปรากฏบนกล่องชั้นนอก ซึ่งคล้ายคลึงกับดีไซน์บนกล่องของรุ่นก่อนอย่าง Galaxy Z Flip โดยได้เพิ่มลูกเล่นให้สนุกขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่แรกสัมผัส

ซัมซุงพร้อมวางจำหน่าย Galaxy Z Fold2 5G อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ ใน 2 เฉดสีสุดคลาสสิกอย่าง Mystic Bronze และ Mystic Black ที่ Samsung Experience Store หรือทาง Samsung.com และออนไลน์สโตร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย ในราคา 69,900 บาท พร้อมกันนี้ยังมีบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยการสั่งทำ Galaxy Z Fold2 5G แบบพิเศษ เลือกสีบานพับของตัวเครื่องได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เฉพาะที่ Samsung.com เท่านั้น