แรงไม่พอ เพิ่มอีกชิปสิ เจาะสเปก Apple M1 Ultra แรงทะลุมิติ

จะทำยังไงให้ชิป M1 Max แรงได้อีก ? ทีมพัฒนา Apple “ก็เอาชิปใส่ไปอีกตัวสิ” ในงาน Apple Peek Performance ที่ผ่านมา Apple ได้ประกาศเปิดตัว M1 Ultra ชิปประมวลผลระดับ Desktop ตัว Top รุ่นใหม่ ปลดล็อคขุมพลังแก่ชาว Creator ได้ยิ่งขึ้น

“ชิปประมวลผลที่ทรงพลังที่สุดในโลก”

M1 Ultra มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า “Ultra Fusion” หรือง่าย ๆ คือการนำชิป M1 Max สองตัว มาใส่ใน SoC ร่างเดียวเลยนั้นเอง ส่งผลให้มีประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 3.8 เท่า ประสิทธิภาพ GPU เร็วขึ้น 4.5 เท่า และประสิทธิภาพ Neural Engine (หรือชิป AI) เร็วขึ้น 3.0 เท่า และยังมาพร้อมแบนด์วิดท์ระดับ 2.5TB/s กับหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเป็น 800GB/s

“ประสิทธิภาพโดยรวมเร็วกว่าชิป M1 ถึง 8 เท่า”

  • M1 Max : [CPU 10-Core] [GPU 32-Core] [Neural Engine 16-Core] [Ram 64GB/MAX]
  • M1 Ultra : [CPU 20-Core] [GPU 64-Core] [Neural Engine 32-Core] [Ram 128GB/MAX]

จุดนี้จะเห็นชัด ๆ เลยว่า มันคือการนำ M1 Max สองตัวมาประกอบร่างกันจริง ๆ ทั้งหมดก็เกิดจาก Ultra Fusion ซึ่งเป็นชื่อเรียกเทคโนโลยีการเชื่อมต่อชิปสองตัวเข้าด้วยกันนี้เอง ส่งผลให้มีสเปกเพิ่มเป็น 2 เท่า แต่ประสิทธิภาพกลับพุ่งขึ้นหลายเท่า เช่นประสิทธิสูงกว่าชิป M1 ถึง 8 เท่า

“ประหยัดพลังงานในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน”

นอกจากประสิทธิภาพแล้ว M1 Ultra แม้จะมี M1 Max สองชิปในตัวเดียว แต่ส่วนนี้ทาง Apple เคลมเลยว่า “ประหยัดพลังงานในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน” อย่างใน M1 Ultra ที่มี CPU แบบ 20-core ก็มีแบ่งเป็น Core ประสิทธิภาพ 16-core และ Core ประหยัดพลังงาน 4-Core

ส่วนนี้ทาง Apple ได้ยกตัวอย่างเทียบกับ ‘ CPU ฝั่ง PC ระดับสูงสุด’ โดยตัว M1 Ultra แรงเทียบเท่า แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 100W ด้านชิป GPU ก็แรงเทียบได้กับ ‘GPU ฝั่ง PC ระดับสูงสุด’ แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 200W เมื่อใช้พลังงานน้อย ก็ทำให้ประหยัดไฟขึ้น และช่วยให้พัดลมทำงานเงียบขึ้นนั้นเอง จนสามารถยัดในเคลื่อง Desktop ฝั่ง Apple อย่าง Max Studio ที่มีขนาดพอ ๆ กับ Mac Mini ได้เลยนั้นเอง

“เล่นไฟล์วิดีโอ ProRes 422 ระดับ 8K ได้สูงสุดถึง 18 สตรีม”

คำถามยอดฮิต M1 Ultra เหมาะกับใคร ? ย้อนกลับไปตอนเปิดตัวชิป M1 Pro กับ M1 Ultra ทาง Apple ก็บอกชัดเจนเลยว่า ทั้งสองชิปคือเครื่องมือสำหรับผู้ใช้ที่เป็น Creator โดยเฉพาะ สำหรับตัว M1 Ultra ก็เช่นกัน ซึ่งก็ช่วยให้รับงานสาย Creator ได้ใหญ่กว่าเดิม สรุป M1 Ultra ก็ยังเป็นประมวลผลสาย Creator หรือ Pro User เช่นเคย หากแต่มีประสิทธิภาพ (กับราคา) ที่ทำให้เหล่า Creator รู้สึกอยากร้องไห้ได้เช่นกัน

M1 Ultra ใช้ครั้งแรกใน Max Studio ซึ่งมาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 139,900 บาท

รายละเอียดตัว Max Studio
https://www.apple.com/th/shop/buy-mac/mac-studio

ที่มา : AppleNewsroom