รีวิว : TP-Link Omada EAP225-Wall ติดตั้งง่าย วางระบบทันใจ ผ่านสาย LAN เส้นเดียว

Access Point หรืออุปกรณ์ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ผ่านสาย LAN ประโยชน์ของมันหลายคนคงคุ้นเคยกันดี แต่รีวิวนี้ จะทำให้เราได้เห็นประโยชน์อีกด้านของ Access Point เมื่อมันมาพร้อม Power Over Ethernet หรือ PoE เทคโนโลยีจ่ายไฟผ่านสาย LAN ไม่ต้องหาที่ติดตั้งปลั๊กไฟ AC ให้วุ่นวายอีกต่อไป

รีวิวนี้พบกับ TP-Link Omada EAP225-Wall อุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi Access Point แบบฝังกำแพง มาพร้อม PoE ช่วยให้ติดตั้งตัวอุปกรณ์ได้ง่าย วางระบบได้ทันใจ และสามารถควบคุมอุปกรณ์พร้อม ๆ กัน ได้ทุกที่ทุกเวลา (เมื่อใช้ร่วมกับ Omada Cloud Controller) เหมาะสำหรับใครที่อยากทำระบบ Wi-Fi ในโรงแรมหรือออฟฟิศขนาดเล็ก มาพร้อมความเร็วระดับ AC1200 แบบ Dual-Band ทั้งคลื่น 2.4GHz กับ 5GHz และมี MU-MIMO สุดท้ายฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยระดับองค์กรมากมาย

สเปก TP-Link Omada EAP225-Wall

  • การเชื่อมต่อ : IEEE 802.11n/g/b/ac
  • ความเร็วสูงสุด : AC1200 แบ่งเป็น 2.4 GHz + 300Mbps กับ 5 GHz + 867Mbps
  • เสาสัญญาณ : 2 Dual-Band Antennas, 2.4GHz: 2 x 3dBi, 5GHz: 2 x 4dBi
  • พอร์ต : LAN x 4 และ WAN x 1
  • ระบบความปลอดภัย : Captive Portal Authentication, Access Control, Wireless Mac Address Filtering, Wireless Isolation Between Clients, SSID to VLAN Mapping, Local LAN port based VLAN, Rogue AP Detection, 802.1X Support, 64/128/152-bit WEP / WPA / WPA2-Enterprise, WPA-PSK / WPA2-PSK
  • ฟีเจอร์ : 16 SSIDs(Up to 8 SSIDs on each band), Enable/Disable Wireless Radio, Automatic Channel Assignment, Transmit Power Control (Adjust Transmit Power on dBm), QoS(WMM), Load Balance, Rate Limit, Reboot Schedule, Wireless Schedule, Wireless Statistics based on SSID/AP/Client
  • ขนาด :143 × 86 × 19.7mm
  • การใช้พลังงาน : 9 watts or 25.5 watts including PoE Out
  • Power Supply : 802.3af/802.3at PoE

แกะกล่อง

เนื่องจากตัวอุปกรณ์ใช้ PoE จึงไม่จำเป็นต้องใช้ Adapter ต่อไฟเลี้ยง และแถมมาในกล่อง ตัวกล่องจึงมาแบบแบน ๆ เรียบ ๆ มาเลย ซึ่งภายในก็มีแค่ TP-Link Omada EAP225-Wall กับ ตัวช่วยยึดกำแพง และ ชุดคู่มือ เท่านั้น

วัสดุและดีไซน์

หน้าตาของ TP-Link Omada EAP225-Wall ก็มาแบบเรียบ ๆ คลีน ๆ ในร่างพลาสติกสีขาวล้วนสะอาดตา คือไม่มีลวดลายอะไรทั้งนั้น และมีรูปร่างเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ ขนาดไม่หนามาก ซึ่งดีไซน์แบบนี้เอง หากกำแพงที่ติดตั้งเป็นสีขาว ตัวอุปกรณ์จะกลมกลืนไปกับกำแพงเลย ชนิดหากไม่สังเกตดี ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่ามี Access point ติดตั้งอยู่บนกำแพง

นอกจากไม่มีลวดลายอะไรแล้ว ไฟ LED แสดงสถานะ ก็มีแค่ดวงเดียวเท่านั้น

ซึ่งหากใครไม่ชอบ ก็จะมีปุ่มเปิดปิดไฟ LED ดังกล่าวมาให้ด้วย

ตรงขอบใต้ล่างก็มีช่อง LAN หรือ Ethernet ให้ 3 พอร์ต โดยรองรับความเร็ว 10/100Mbps มีช่องหนึ่งเป็น PoE หรือ PoE OUT ที่สามารถจ่ายไฟผ่านสาย LAN ได้ เอาไว้สำหรับต่อกับอุปกรณ์อื่นที่มีช่อง PoE In หรือช่องจ่ายไฟเข้า เช่น กล้อง IP Camera, อุปกรณ์ Sensor, หลอด LED อัจฉริยะ เป็นต้น

ส่วนช่อง PoE In เป็นยังไง ก็ดูที่ด้านหลังของ TP-Link Omada EAP225-Wall เลย ตัวอุปกรณ์จะมีช่อง PoE แบบจ่ายไฟเข้าอยู่ช่องเดียวเท่านั้น ซึ่งเราสามารถนำสาย LAN มาต่อแทนสาย AC หรือสายเสียบไฟเลี้ยงได้เลย แต่มีข้อแม้ว่า สาย LAN ที่นำมาต่อนั้น จะต้องมีต้นทางจากช่อง PoE OUT ซึ่งดูรายละเอียดได้ในหัวข้อ ‘การใช้งาน’ อีกทีครับ

ตามชื่อ TP-Link Omada EAP225-Wall เลย คือตัวอุปกรณ์ถูกออกแบบให้ติดตั้งกับกำแพง ซึ่งในกล่องจะแถมตัวช่วยยึดกำแพงมาให้ด้วย จุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเดินสาย LAN ภายในห้องหรืออาคารของใครของมันแล้ว สำหรับใครไม่สะดวกใช้ตัว Range Extender จริง ๆ ก็จะใช้วิธีเดินสาย LAN จากภายในกำแพง แล้วใช้ Access Point เป็นตัวช่วยแทน แต่ข่าวดีคือ TP-Link Omada EAP225-Wall ต่อแค่เฉพาะสาย LAN เท่านั้น ไม่ต้องเดินสาย AC ต่อไฟเลี้ยงให้เหนื่อยแต่อย่างใด

การใช้งาน

ต้องบอกก่อนว่า TP-Link Omada EAP225-Wall มันเป็นอุปกรณ์สำหรับองค์กร เหมาะสำหรับใช้ในอาคาร ไม่ก็ร้านกาแฟ ร้าน Workspace ที่มีพื้นที่กว้าง ๆ ซึ่งเวลาใช้งานจริง มักจะใช้พร้อมกันหลายตัว กระจายไปตามจุดต่าง ๆ และเพื่อให้รองรับอุปกรณ์ Access Point ได้มากกว่าหนึ่งตัว อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีเลยคือ PoE Switch ที่ทำหน้าที่ทั้งจ่ายไฟ PoE OUT และควบคุมอุปกรณ์ดังกล่าวทั้งหมด

ทั้งนี้ตัว TP-Link Omada EAP225-Wall ต้องใช้ไฟเลี้ยงจากช่อง PoE เท่านั้น จึงต้องไปยืมกล่อง PoE Switch ต่อกับ Modem Router ที่บ้าน และนำมาใช้ร่วมกับตัว TP-Link Omada EAP225-Wall ให้สามารถใช้งานได้ แต่ถ้าอยากควบคุมการตั้งค่าบน Web หรือ Mobile App ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน Cloud ก็ต้องใช้ร่วมกับ TP-Link OC200 Cloud Controller

หน้าตา TP-Link OC200 Cloud Controller

ตัวอย่างการใช้งาน TP-Link Omada EAP225-Wall จำนวนมากหลาย ๆ ตัวในห้องกว้าง และรับไฟเลี้ยงพร้อมสัญญาณผ่านช่อง PoE จากกล่อง PoE Switch ตัวเดียว โดยรองรับทั้งมาตรฐาน 802.3af กับ 802.3at

การตั้งค่าใช้งานครั้งแรก ให้เราติดตั้งแอพฯ TP-Link Omada ก่อน จากนั้นก็ต่อ Wi-Fi จากตัว TP-Link Omada EAP225-Wall ตั้งค่าชื่อและรหัสใช้งานใหม่ รอสักครู่ เท่านี้ก็เข้าสู่หน้าตั้งค่าของตัวอุปกรณ์แล้ว รวดเร็วทันใจมาก ๆ

ในหน้าตั้งค่าตัวอุปกรณ์ หลัก ๆ ก็มีหน้าดูสถานะการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์อื่น ๆ หรือสั่ง Block การเชื่อมต่อได้

ประสิทธิภาพ

ในการเทสประสิทธิภาพ ก็เหมือนเคยคือเทสความแรงและความเสถียรของสัญญาณ Wi-Fi โดยรอบนี้ผมจะติดตั้งตัว TP-Link Omada EAP225-Wall ที่ห้องทำงาน ส่วนตัวผมมาอยู่ห้องนอนฝั่งตรงข้าม

ลองเทสความแรงของสัญญาณ Wi-Fi จากระยะไกลของตัว TP-Link Omada EAP225-Wall ทั้งคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz ก็อยู่ระดับพอใช้งานได้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมันไม่ใช่ Router Wi-Fi สเปกสูง แต่เป็น Access Point ตัวหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้แบบเป็นชุดมากกว่า สุดท้ายลองวัดความเร็วหรือความเสถียรของสัญญาณ Wi-Fi ผ่านคลื่น 5 GHz ก็ได้ความเร็วน่าพอใจอยู่ที่ 78 Mbps จากเน็ต 100/30 Mbps ที่ใช้บริการ ส่วนความเสถียรก็มีแกว่งตามระยะห่างครับ

ส่วน Wi-Fi ภายในห้องทำงานที่มี TP-Link Omada EAP225-Wall ติดตั้งอยู่เป็นไงบ้าง

ตามนี้เลยครับ TP-Link Omada EAP225-Wall กระจายคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz ได้แรงแซงทะลุ Modem Router ที่อยู่ใกล้กันเรียบร้อย ดังนั้นมั่นใจได้ 100% เลยว่า คนที่อยู่ในห้องนี้ ก็สามารถเล่นเน็ตได้ 100% เต็มแน่นอน

สรุป

อาจต้องยอมรับว่า ในรีวิวนี้เรายังไม่ได้เห็นคุณค่าที่แท้จริงของ TP-Link Omada EAP225-Wall ทั้งหมด อย่างที่กล่าวไปคือ มันเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในองค์กร ที่เน้นการใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ ตัว และการควบคุมพร้อมกันทั้งหมดในคราวเดียว เหมาะสำหรับใครที่มีแผนวางระบบอินเทอร์เน็ตในอาคารหรือห้องกว้าง โดยใช้ Access Point เป็นตัวเลือก

ซึ่ง TP-Link Omada EAP225-Wall ก็มีข้อดีตรงที่มีช่อง PoE In และ PoE Out ในตัวเดียว ทำให้เอาไปต่อยอดใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เน็ตเวิร์คอื่น ๆ ได้ง่าย ด้านการตั้งค่าผ่านแอพฯ ก็ไม่ยากและรวดเร็วใช้ได้ ดีไซน์ก็ไม่หวือหวา แต่ก็ดูดี

ด้านประสิทธิภาพการปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ตัวอุปกรณ์มาพร้อมเสา 2 เสาแบบ Dual Band ที่ปล่อยได้ทั้งคลื่น 2.4GHz และ 5GHz ความเร็ว AC1200 ก็ใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง สุดท้ายราคาของ TP-Link Omada EAP225-Wall ก็อยู่ที่ประมาณ 2 พันบาท เท่านั้นครับ