MarTech สัญชาติไทย ใช้ AI เลือก Influencer  วัดความคุ้มค่า ที่จับต้องได้

ในยุคที่ตลาด Influencer Marketing และสื่อ Publisher ในไทยมีมูลค่าแตะ 5,000 ล้านบาท คำถามที่แบรนด์และนักการตลาดถามกันมากที่สุด อาจไม่ใช่ยอดวิวเท่าไหร่อีกต่อไป แต่คือจ่ายไปแล้วได้อะไรกลับมา

วันนี้เราจะพาไปเจาะลึก “Ideaslabs” บริษัทไทยแท้ ที่กำลังปฏิวัติวงการด้วยการ Reposition ตัวเองจากเอเจนซี่โฆษณาทั่วไป สู่การเป็น Data & Technology Company เต็มตัว โดยใช้ AI และ Data เข้ามาแก้ Pain Point ใหญ่ของวงการ คือการวัดความคุ้มค่าที่จับต้องได้จริง

นายธนาคม พิศิษฐานนท์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอเดียแล็บส์ จำกัด (ideaslabs) MarTech สัญชาติไทย กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุคโควิดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การชอปปิงออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ ทำให้เป้าหมายของการซื้อสื่อโฆษณาเปลี่ยนจากการสร้างการรับรู้ ไปสู่การซื้อจริงผ่าน Influencer 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และวิดีโอสั้นกลายเป็นเครื่องมือหลักที่วัดผลยอดขายได้ทันที ทำให้แบรนด์ต่างๆ ลดความสำคัญของอย่างยอดไลก์หรือยอดผู้ติดตาม แต่หันมาโฟกัสที่ Action per Impression หรือสัดส่วนคนที่เห็นโฆษณาแล้วเกิดการกระทำต่อ (เช่น กดตะกร้า, ทักแชท, หรือซื้อสินค้า)

นี่คือจุดที่ Ideaslabs มองเห็นโอกาสและกระโดดเข้ามาเล่นในสนาม Performance Marketing อย่างเต็มตัว โดยเน้นผลลัพธ์ที่วัดเป็นยอดขายหรือ Action ได้จริง ไม่ใช่แค่การมองเห็น

Micro & Nano Influencer กองทัพมดที่ทรงพลังกว่าดารา

Young Asian seller girl showing woman clothes and making video live streaming online at home. Online market with social media concept.

เทรนด์ที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้คือ การเปลี่ยนเม็ดเงินจากดาราเบอร์ใหญ่ มาสู่ Micro และ Nano Influencer ที่ผู้ติดตามหลักพันถึงหลักหมื่น

ทำไมต้องเป็นกลุ่มนี้?

  • ความจริงใจ คนกลุ่มนี้เปรียบเสมือน เพื่อนป้ายยาเพื่อน รีวิวดูสมจริง เข้าถึงง่าย และน่าเชื่อถือกว่าดาราที่ใครก็รู้ว่าจ้างมา
  • Engagement Rate สูง แม้คนตามน้อยกว่า แต่เปอร์เซ็นต์คนที่กดไลก์ คอมเมนต์ หรือพูดคุยนั้นสูง และมีความตรงกลุ่มมากกว่า
  • Cost-Effective งบประมาณจ้างดารา 1 คน อาจจ้าง Nano Influencer ได้เป็นร้อยคน ซึ่งสร้าง Impact ในวงกว้าง (Viral) ได้ดีกว่าในบางแคมเปญ

Ideaslabs เข้าใจเกมนี้ดี จึงสะสมฐานข้อมูล Influencer กลุ่มนี้ไว้ในมือกว่า 20,000 คน โดยใช้โมเดลธุรกิจ Seeding สร้างรายได้เสริมให้คนทั่วไปมารีวิวสินค้าแบบ Real User ตอบโจทย์แบรนด์ที่ต้องการความเนียนและการกระจายตัวของรีวิว

ไม่ใช้ความรู้สึก แต่ใช้ AI เบื้องหลังการคัดเลือกที่แม่นยำ

จุดตายของเอเจนซี่แบบเดิมคือการเลือก Influencer ตามความรู้สึก หรือคนรู้จัก แต่ Ideaslabs ใช้ Data Driven ในการคัดสรรค์แทบจะ 100%

กระบวนการคัดเลือก (Selection Process) ทำผ่านเทคโนโลยีและ AI ดังนี้

  • Social Listening & AI Analysis  ระบบไม่ได้ดูแค่ยอดฟอล แต่เจาะลึกถึง Lifestyle & Behavior
  • Matching ที่ลึกกว่าหน้าตา AI จะวิเคราะห์พฤติกรรม Influencer คนนั้นว่าตรงกับสินค้าไหม เช่น ขับรถรุ่นอะไร? แต่งตัวสไตล์ไหน? ชอบกินอะไร? เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อเขารีวิวสินค้าแล้ว ผู้ติดตามของเขาคือลูกค้าตัวจริง ของแบรนด์นั้น
  • Real-Time Data ข้อมูลถูกอัปเดตตลอดเวลา ทำให้รู้ว่าใครกำลังมาแรง หรือใครเริ่มแผ่ว โดยไม่ต้องใช้การคาดเดา

เปลี่ยน Engagement เป็นหน่วยบาท สูตรวัด ROI แบบใหม่

Beauty blogger present beauty cosmetics sitting in front camera for recording video. Beautiful asian woman use cosmetics while review make up tutorial broadcast live video to social network by internet.

ไฮไลท์สำคัญของ Ideaslabs คือความพยายามในการสร้างมาตรฐานราคาและการวัดผลที่โปร่งใส

ในอดีต การจ้าง Influencer มักไม่มีราคากลาง แต่ Ideaslabs กำลังสร้างเครื่องมือที่สามารถคำนวณ ROI (Return on Investment) ได้อย่างแม่นยำ โดยแปลงค่า Engagement (Like, Comment, Share, View) ให้กลายเป็นมูลค่าเงินบาท

  • Action Guarantee: Ideaslabs เตรียมเปิดตัวบริการใหม่ในไตรมาส 1 ปีหน้า ที่กล้าการันตี Action หากแบรนด์จ่ายเงินมาแล้ว ไม่ได้ยอด Interaction ตามที่ตกลงไว้ บริษัทพร้อม “คืนเงิน”
  • Fair Price มีระบบ Galaxy (คล้ายตะกร้าสินค้า) เพื่อกำหนดราคากลาง ป้องกันการบิดราคาหรือฟันกำไรเกินจริง

แล้วการสร้างการรับรู้ ยังจำเป็นไหม ?

แต่แม้เทรนด์ปัจจุบันจะเทไปทาง Conversion ที่เน้นยอดขาย หรือการกระทำ เพราะเห็นผลเป็นตัวเงินทันที แต่ Ideaslabs มองเห็นความจริงข้อหนึ่งว่า Conversion คือเกมสั้น แต่ Awareness หรือการสร้างการรับรู้ คือเกมยาว

  • Conversion  เหมาะกับการเร่งยอดขาย ปิดการขายทันที แต่ข้อเสียคือ ถ้าหยุดยิงโฆษณา หรือหยุดจ้าง Influencer ยอดขายมักจะหยุดตามทันที และอาจมีต้นทุนต่อการขาย ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ หากแบรนด์ไม่เป็นที่รู้จัก
  • Awareness  การสร้างการรับรู้ผ่าน Content หรือ Influencer อาจวัดผลเป็นยอดขายไม่ได้ในวันแรก แต่เป็นการปูพรม ให้คนจดจำแบรนด์ เมื่อลูกค้าต้องการสินค้า เขาจะนึกถึงเราเป็นคนแรก ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนและคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

ดังนั้น โจทย์ของ MarTech ยุคใหม่จึงไม่ใช่แค่การไล่ล่า Conversion แต่คือการใช้ Data เพื่อหาจุดสมดุลว่าช่วงไหนควรเน้นขาย และช่วงไหนควรเน้นสร้างแบรนด์

การเปลี่ยนแปลงของ Ideaslabs สะท้อนให้เห็นว่า วงการการตลาดไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุค MarTech อย่างสมบูรณ์ แต่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่เครื่องมือปั๊มยอดขาย แต่คือเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์บริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการโกยยอดขายในระยะสั้นและการสร้างแบรนด์ให้ยั่งยืนในระยะยาว 

ที่มา งานแถลงข่าว IdeaLabs