คนไทยรู้ทัน TikTok ผนึกพันธมิตร สร้างภูมิคุ้ม กันโดนหลอก

TikTok ผนึกพันธมิตร
ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจดิจิทัล ภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้กลายเป็นปัญหาระดับชาติที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อคนไทย เพื่อสร้างเกราะคุ้มกันทางไซเบอร์ให้กับคนไทย จึงได้มีโครงการ คนไทยรู้ทัน ซีซัน2  ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง TikTok และ 12 หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อยกระดับความรู้และสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยรู้เท่าทันกลโกงออนไลน์ในทุกรูปแบบ

คนไทยโดนหลอกเรื่องอะไรมากที่สุด?

จากข้อมูลที่ได้จากงาน ภัยออนไลน์ที่คนไทยตกเป็นเหยื่อมากที่สุดมีหลากหลายรูปแบบและทวีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยกลโกงยอดฮิตที่สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
  • แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นรูปแบบการหลอกลวงสุดคลาสสิกที่ยังคงได้ผล โดยมิจฉาชีพจะปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เช่น ตำรวจ, กรมสรรพากร หรือบริษัทขนส่งพัสดุ เพื่อข่มขู่หรือสร้างเรื่องราวหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงิน
  • การหลอกลงทุน (Investment Scams) อันนี้เหมือนจะมีความเสียหายมากที่สุด โดยมิจฉาชีพมักสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ โดยในช่วงแรกจะให้ผลตอบแทนจริงเพื่อสร้างความไว้วางใจ ก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่แล้วเชิดเงินหนีไปในที่สุด กว่าเหยื่อจะรู้ตัว ก็เสียเงินไปจำนวนมาก และเอาเงินกลับมาได้ยาก
  • การซื้อของไม่ตรงปก โดยปัญหาการซื้อขายออนไลน์ยังคงเป็นภัยใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่โฆษณา สินค้าปลอม หรือสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคจำนวนมาก
  • หลอกให้รักแล้วหลอกเอาเงิน (Romance Scams):ฃ เป็นการสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาวผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อเหยื่อตกหลุมรักและไว้ใจแล้ว ก็จะเริ่มชักชวนให้ลงทุนหรือหลอกให้โอนเงินด้วยเหตุผลต่างๆ
  • การหลอกลวงแบบเจาะจงกลุ่ม มิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การหลอกลวงข้าราชการเกษียณเรื่องบำเหน็จบำนาญ หรือการหลอกประชาชนทั่วไปเรื่องการเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ กลุ่มมิจฉาชีพ ยังทำการบ้านมาอย่างดี เข้าใจพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนไทย  โดยหากเป็นหน้าที่มีทุเรียนขาย ก็จะมีการคิดกลโกงเกี่ยวกับการขายทุเรียนมาหลอก รวมถึงหากเป็นช่วงท่องเที่ยวของไทยอย่างช่วง เดือนตุลาคม – ธันวาคม  การหลอกลวงเกี่ยวกับที่พักปลอม ก็จะเพิ่มมากขึ้นครับ
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง Tiktok และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่าง ๆ จะมีการให้ข้อมูลเชิงลึก หรือข้อมูลการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ไปยังแพลทฟอร์มจากนั้น เหล่าครีเอเตอร์บน Tiktok จะนำข้อมูลยาก ๆ ไปย่อยให้เข้าใจง่ายขึ้นและเผยแพร่บน Tiktok เพื่อให้ประชาชน เข้าถึงข้อมูลการหลอกลวงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างการตระหนักรู้ให้กับคนส่วนใหญ่
ภายงานแถลงข่าว ยังได้มีการเปิดตัวแคมเปญ “เอ๊ะ ถาม อ๋อ”  ชวนคนไทยรู้ทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อ เมื่อมีสติ เพื่อให้คนไทยตั้งคำถามก่อนจะทำธุรกรรมต่าง ๆ และสิ่งสำคัญที่สุด หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพไปแล้ว คือการแจ้งระงับบัญชีให้ไวที่สุด (AOC 1441)  ซึ่งจะมีโอกาสได้เงินคืนเต็มจำนวน เพราะหากปล่อยไว้นาน (2-3 วัน) โอกาสที่จะได้เงินคืนนั้นก็ลดลงอย่างมาก

บทบาทของกระทรวงดิจิทัลฯ (MDES) ในการช่วยเหลือประชาชน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกหลายด้านเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็น
  1. การปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการออก พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) 2 ฉบับ ที่สำคัญ คือ พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งเพิ่มอำนาจให้สถาบันการเงินสามารถระงับธุรกรรมที่น่าสงสัยได้อย่างรวดเร็ว และ พ.ร.ก. ธุรกรรมทางสินเชื่อดิจิทัล เพื่อจัดการช่องทางการเงินของมิจฉาชีพ
  2. ยกระดับศูนย์ AOC 1441 ให้เป็น ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแบบครบวงจร (One Stop Service) ในการรับแจ้งเหตุ ประสานงานกับธนาคารเพื่ออายัดบัญชี และเร่งรัดการดำเนินคดี โดยเน้นย้ำให้ประชาชน “รีบแจ้งเหตุทันที” เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้เงินคืน
  3. การสร้างความตระหนักรู้และทักษะดิจิทัล โดยกระทรวงฯ เชื่อมั่นว่าการสร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืนที่สุดคือการให้ความรู้แก่ประชาชน จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง TikTok ในโครงการ #คนไทยรู้ทันซีซัน 2 เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงคนทุกกลุ่ม นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “1 อำเภอ 1 IT MAN” และ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญและแหล่งเรียนรู้ดิจิทัลทั่วประเทศ
ความร่วมมือในโครงการ คนไทยรู้ทัน ซีซัน 2 เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีแรกที่มียอดการรับชมสูงถึง 3,400 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน เพราะการต่อสู้กับภัยออนไลน์ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนเพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งและยั่งยืน