Reuters เปิดโปงเอกสารภายในของ Meta ที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทรู้อยู่เต็มอกว่าแพลตฟอร์มของตน โดยเฉพาะ Facebook เต็มไปด้วย โฆษณาสแกมเมอร์ แต่ก็ยังคงเลือกที่จะกอบโกยรายได้มหาศาลจากส่วนนี้
สิ่งที่น่าตกใจจากเอกสารนี้คือ
1.Meta คาดการณ์ภายในว่าประมาณ 10% ของรายได้รวมปี 2024 (หรือราว 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์) จะมาจากโฆษณาสแกมเมอร์และสินค้าผิดกฎหมาย
2.Meta ประเมินว่า ระบบแสดงโฆษณาหลอกลวงหรือ Scam Ads ที่มีความเสี่ยงสูงให้ผู้ใช้เห็นมากถึง 15,000 ล้านครั้งต่อวัน
3.วิธีแก้ปัญหาที่ย้อนแย้ โดยแทนที่จะแบนบัญชี มิจฉาชีพ ที่ระบบสงสัย แต่ยังไม่มั่นใจถึง 95% ว่าโกง Meta กลับใช้วิธีคิดค่ายิงแอดที่แพงขึ้น พูดง่ายๆ คือ ยิ่งเสี่ยง ยิ่งจ่ายแพง แต่ Meta ก็ยังได้เงินอยู่ดี
4.ยิ่งคลิก ยิ่งเจอ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ โดยหากเราเผลอคลิกโฆษณาหลอกลวง แม้แต่ครั้งเดียว อัลกอริทึม Personalization ของ Meta จะยิ่งส่งโฆษณาแนวเดียวกัน เข้ามาบนหน้าฟีดอย่างไม่ลดละ
5.รายได้ คุ้มกว่า ค่าปรับ เอกสารชี้ว่า Meta กังวลว่าการกวาดล้าง Scammer ทันทีจะกระทบ รายได้ Meta ที่ต้องเอาไปลงทุนด้าน AI อย่างหนัก แม้จะคาดว่าอาจโดนปรับถึง 1 พันล้านดอลลาร์ แต่รายได้จากโฆษณาเสี่ยงสูงเพียง 6 เดือนก็ทำเงินไปแล้ว 3.5 พันล้านดอลลาร์ หรือง่าย ๆ คือ ยอมจ่ายค่าปรับ แต่เก็บรายได้ไว้ดีกว่า
นอกจากนี้ เอกสารประเมินภายใน ในเดือนเมษายน 2025 สรุปกันเองว่าการยิงแอดโฆษณาหลอกลวงบนแพลตฟอร์ม Meta นั้นง่ายกว่า Google มาก
ข้อมูลยังบอกอีกว่า Meta มีแผนจะลดสัดส่วนรายได้จากโฆษณามิจฉาชีพ เหล่านี้จาก 10.1% (ปี 2024) ให้เหลือ 5.8% ภายในปี 2027 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
หลังจากทีรอยเตอร์แฉ โฆษกของ Meta ออกมาบอกว่าเอกสารเหล่านี้บิดเบือน และตัวเลข 10% นั้น กว้างเกินไป แต่ก็ปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขที่ถูกต้อง บริษัทอ้างว่ากำลัง ต่อสู้กับมิจฉาชีพอย่างจริงจัง (ต่อสู้ไงวะ รีพอร์ตเท่าไหร่ก็ไม่เคยหมด เผลอกดไปเทียว เต็มหน้าฟีด…. )
ที่มา
