[ดีหรือไม่ดี] มีรายงานว่า Tinder แอปฯ หาคู่ชื่อดัง กำลังประสบปัญหาผู้ใช้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กับมีจำนวนผู้ใช้ที่ชำระเงินลดลง 7% ในไตรมาสที่ผ่านมาด้วย ทางบริษัทแม่อย่าง Match Group จึงมีแผนใช้ AI ช่วยดึงลูกค้า เตรียมเพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะใหม่ ๆ พร้อมใช้ AI ช่วยปรับปรุงระดับจับคู่ โดยดูจากรูปภาพและบุคลิกของผู้ใช้เป็นหลัก แต่ก็มีเป็นเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย
“ฟีเจอร์นี้จะกลายเป็นหนึ่งใน “เสาหลัก” ของ Tinder ในปี 2026″
Spencer Rascoff ซีอีโอของ Tinder ได้กล่าวถึงแผนใช้ AI ในแอปฯ Tinder โดยบอกเลยว่าตัวฟีเจอร์จาก AI จะกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของแอปฯ เลย หวังสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง
Tinder จะใช้ประโยชน์จาก Generative AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง มาช่วยพัฒนาฟีเจอร์ร์อัจฉริยะใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ตัว AI ของแอปฯ ได้เรียนรู้ลักษณะต่าง ๆ ของผู้ใช้ อาทิ นิสัยส่วนตัว ความสนใจ งานอดิเรก และกิจกรรมที่ชื่นชอบ ซึ่งจะทำให้การจับคู่มีความหมายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตัวแอปฯ จะมีฟีเจอร์ AI หนึ่งที่ชื่อว่า Chemistry สามารถวิเคราะห์ภาพต่าง ๆ ของผู้ใช้ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับการจับคู่ออกมา แต่ตัวเจอร์จะขอสิทธิ์เข้าถึงคลังภาพ (Camera Roll) ในสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ด้วย ทำให้เกิดประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้เอง
นอกเหนือจาก Chemistry แล้ว ทาง Match Group ก็มีแผนขยายการใช้งาน Generative AI ด้วยการใช้ LLM คอยตรวจส่องข้อความไม่เหมาะสม ที่ผู้ใช้กำลังส่งไปหาคู่ Match ของตัวเองด้วย และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น…
ส่วนที่เหลือก็จะมีปรับปรุงการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะโหมดการเดทแบบใหม่ หน้าตาโปรไฟล์ผู้ใช้ที่ออกแบบใหม่ การจดจำใบหน้า และเครื่องมืออื่น ๆ ที่มุ่งเพิ่มจำนวนสมาชิกและการมีส่วนร่วมมากขึ้นกว่าเดิม
ท้ายนี้ Tinder ไม่ใช่เพียงรายเดียวที่เดิมพันกับ Generative AI เพื่อเพิ่มผู้ใช้ ทางด้าน Meta ก็มีแผนปรับปรุงฟีเจอร์หาคู่อย่าง Facebook Dating ด้วย AI เช่นกัน หลังพบพฤติกรรมการเดทและสังคมของผู้ใช้กำลังเปลี่ยนไป พร้อมกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นเหตุให้ผู้คนจำนวนมากในสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ มียอดใช้จ่ายเพื่อสมัครสมาชิกกับแอปฯ หาคู่ลดน้อยลง
ที่มา : Techspot








