IBM FlashSystem 5300 ระบบจัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง พร้อม AI ป้องกันภัยไซเบอร์

IBM FlashSystem 5300

ในโลกดิจิทัลปัจจุบัน เรามักพบปัญหาเดียวกันว่า ยิ่งสร้างข้อมูลมากเท่าไหร่ แอปพลิเคชันกลับยิ่งช้าลง

สาเหตุหลักมาจากเรากำลังอยู่ในยุคที่ขับเคลื่อนด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และการตัดสินใจที่ต้องเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที แต่ในขณะเดียวกัน องค์กรส่วนใหญ่ยังเผชิญกับ คอขวดของระบบจัดเก็บข้อมูล

ในยุคที่ข้อมูลคือ สินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ ความล่าช้าเพียงเสี้ยววินาที อาจหมายถึงการสูญเสียลูกค้าบนเว็บอีคอมเมิร์ซ, โมเดล AI วิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ไม่ทันเวลา หรือระบบตรวจจับการฉ้อโกงทางการเงินล้มเหลว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบต่อธุรกิจได้ทันที

ธุรกิจที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตในยุค AI จึงไม่ได้ต้องการแค่พื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ แต่ต้องการ ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล ที่ตอบสนองทันที, ปลอดภัยสูงสุด และชาญฉลาดพอที่จะบริหารจัดการตัวเองได้

ปัจจุบัน Gartner ได้รวมรายงาน Magic Quadrant สองฉบับ ได้แก่ Primary Storage และ Distributed File Systems & Object Storage เป็น Enterprise Storage Platforms เพื่อสะท้อนความต้องการของตลาดที่เรียกร้อง การรวมศูนย์ระบบจัดเก็บข้อมูลที่จัดการง่ายและครบทุกฟังก์ชัน

คุณสมบัติสำคัญที่ตอบโจทย์นี้ ได้แก่

  • Software-Defined & Hardware-Agnostic: ยืดหยุ่นสูง ไม่ยึดติดฮาร์ดแวร์
  • NVMe-Native: รองรับโปรโตคอล NVMe ที่รวดเร็วเป็นพื้นฐาน
  • Hybrid Cloud Optimized: รองรับ Hybrid Cloud ทั้ง On-premises และ Public Cloud
  • Unified: รองรับข้อมูลทุกประเภท
  • AI-Driven: บริหารจัดการด้วย AI เพื่อลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพ

IBM FlashSystem 5300 ระบบจัดเก็บข้อมูลชั้นนำที่ตอบโจทย์ ความเร็ว ความปลอดภัย และความชาญฉลาด ครบทุกข้อสอดรับกับเทรนด์ของ Gartner

IBM FlashSystem 5300 ระบบจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะด้วย AI

IBM FlashSystem 5300 ไม่ใช่แค่ระบบจัดเก็บข้อมูลทั่วไป แต่ทำหน้าที่เหมือน คลังข้อมูลอัตโนมัติที่มี AI เป็นผู้จัดการ ระบบจะรู้ว่าข้อมูลใดถูกใช้งานบ่อย และจัดเก็บให้ง่ายต่อการเข้าถึง พร้อมทั้งบีบอัดข้อมูลเพื่อลดพื้นที่เก็บ และติดตามความปลอดภัยของข้อมูลอย่างต่อเนื่องด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ

ความสามารถหลัก 5 ด้านของ IBM FlashSystem 5300
1.ฉลาด (Intelligent)
ใช้ AI และ Machine Learning จัดการตัวเอง ลดภาระงานฝ่าย IT และช่วยลดขนาดข้อมูล ทำให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่
2.ปลอดภัย (Secure)
ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยคุกคาม เช่น Ransomware ด้วยระบบตรวจจับเชิงรุก และ Safeguarded Copy สำหรับสำรองข้อมูลสำคัญ
3.ประหยัด (Efficient & Green)
ใช้พลังงานน้อยมาก (บางรุ่นเพียง 1.7 วัตต์ต่อ TB) ช่วยลดค่าไฟและสนับสนุนแนวคิด Green IT
4.ยืดหยุ่น (Scalable)
รองรับการขยายระบบตามการเติบโตของธุรกิจ โดยไม่ต้องหยุดทำงาน
5.อัตโนมัติ (Automated)
ทำงานร่วมกับเครื่องมือพัฒนาแอปสมัยใหม่ได้เต็มรูปแบบ ระบบสามารถจัดสรรพื้นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง (NVMe) ให้แอปพลิเคชันใหม่โดยอัตโนมัติ ลดขั้นตอนที่ล่าช้าและเร่งความเร็วการพัฒนาซอฟต์แวร์
IBM FlashSystem 5300 จึงตอบโจทย์ การจัดเก็บข้อมูลยุคใหม่ ที่ต้องทั้ง เร็ว ปลอดภัย และชาญฉลาด พร้อมรองรับธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Hybrid Cloud

IBM FlashSystem 5300: ตัวเล็ก แต่ทรงพลัง

ในบรรดาตระกูล FlashSystem รุ่นที่กำลังมาแรงคือ IBM FlashSystem 5300 จุดเด่นคือการออกแบบ 1U Form Factor ซึ่งเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ทำให้ตัวเครื่องบางลง แต่ประสิทธิภาพสูงสุด

  • ความสูงเพียง 1U (1.75 นิ้ว หรือประมาณ 4.45 ซม.)
  • เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์หรือ Storage ส่วนใหญ่ที่มักสูง 2U, 4U หรือมากกว่า ยิ่งตัวสูงมากขึ้น ยิ่งเปลืองพื้นที่และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดูแล

ภายในเครื่องใช้ NVMe All-Flash ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กรระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง รองรับงานหลากหลาย เช่น ฐานข้อมูล, Virtualization, Containers โดยยังคงความเร็วสูงสุด

  • Read Performance สูงสุด 17.8 GB/s
  • Latency ต่ำกว่า 50 ไมโครวินาที

IBM FlashSystem 5300 จึงเป็น ตัวเล็ก แต่แรงและฉลาดพอสำหรับงานองค์กรยุคใหม่ ทั้งที่ต้องการความเร็ว ความเสถียร และประสิทธิภาพสูง

FlashCore Module 4: สมองกลของ IBM FlashSystem 5300

สำหรับคนไอทีและผู้บริหารที่มองหาความแตกต่าง IBM FlashSystem 5300 มีจุดเด่นเหนือคู่แข่งด้วย เทคโนโลยี FlashCore Module 4 (FCM4)

IBM FlashSystem 5300

FCM4 ไม่ใช่แค่ไดรฟ์เก็บข้อมูลธรรมดา แต่เป็น โมดูลอัจฉริยะที่มีหน่วยประมวลผลของตัวเอง พร้อมฟีเจอร์สำคัญด้านความปลอดภัย

คุณสมบัติที่ 1: ตรวจจับ Ransomware ในเวลาไม่ถึง 1 นาที

ถ้ามองด้านความปลอดภัยสำหรับองค์กร Ransomware ถือเป็นภัยร้ายแรงที่สุด

  • ระบบทั่วไป จะรู้ว่าถูกโจมตีก็ต่อเมื่อข้อมูลถูกเข้ารหัสไปแล้ว
  • FlashSystem 5300 + FCM4 ทำงานต่างออกไป

FCM4 มี เซ็นเซอร์อัจฉริยะและ AI ในตัว คอยตรวจสอบการอ่าน/เขียนข้อมูลตลอดเวลา เมื่อพบความผิดปกติ เช่น การพยายามเข้ารหัสข้อมูลที่ไม่ปกติ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันที

ผลทดสอบภายในของ IBM พบว่า สามารถตรวจจับพฤติกรรมของ Ransomware ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที หลังเริ่มทำงาน

นี่คือการเปลี่ยนเกมจากการ “ตรวจสอบเชิงรับ” มาสู่ การตรวจจับเชิงรุก (Proactive Detection) ที่ช่วยลดความเสียหายและความเสี่ยงต่อธุรกิจได้อย่างมาก

คุณสมบัติที่ 2: ป้องกันข้อมูลด้วย “ห้องนิรภัยไซเบอร์  Cyber Vault”

นอกจากการตรวจจับภัยคุกคามแล้ว FlashSystem 5300 ยังมีฟีเจอร์ Safeguarded Copy หรือ Immutable Snapshot เปรียบเสมือน ห้องนิรภัยทางไซเบอร์ของข้อมูล

  • ข้อมูลสำคัญจะถูกคัดลอกและเก็บไว้ในตำแหน่งแยกจากระบบหลัก
  • ข้อมูลในห้องนิรภัยไซเบอร์ แก้ไขหรือถูกลบไม่ได้ แม้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบหลัก
  • ทำให้การกู้คืนข้อมูล รวดเร็วและปลอดภัย

คุณสมบัติที่ 3: การขยายตัวแบบไร้รอยต่อ

ด้วยสถาปัตยกรรม FlashSystem Grid ข้อมูลสามารถโอนย้ายหรืออัพเกรดระบบได้ โดยไม่ต้องหยุดทำงาน (Zero Downtime)

  • ธุรกิจดำเนินต่อได้อย่างต่อเนื่อง แม้ขณะปรับปรุงระบบ

คุณสมบัติที่ 4: Cyber Recovery Guarantee

เมื่อเกิด Ransomware ระบบ Safeguarded Copy จะสร้างโคลนของข้อมูลสำรองที่ผู้โจมตีไม่สามารถแตะต้องได้

ข้อมูลปลอดภัย กู้คืนได้แน่นอน แม้ระบบถูก Ransomware โจมตี

ด้วยเทคโนโลยี Safeguarded Copy ที่สำรองข้อมูลไว้ในพื้นที่ที่ผู้โจมตีไม่สามารถเข้าถึงหรือลบทิ้งได้

  • สามารถกู้คืนข้อมูลและกลับมาใช้งานได้ ภายใน 60 วินาที
  • เปลี่ยนเกมจากที่เคยใช้เวลาเป็นวันหรือสัปดาห์ ให้ธุรกิจกลับมาทำงานได้ เพียงไม่กี่นาที

นอกจากนี้ IBM ยังมี บริการและการรับประกันครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาด เช่น

  • การดูแลหลังการขายหลายระดับ
  • บริการ VMware Optimization Offering
  • บริการ IBM Data Erasure Service

ในยุคที่เทคโนโลยีซับซ้อนขึ้นทุกวัน ประสบการณ์ของพันธมิตรจึงมีความสำคัญมาก

Techhub ขอแนะนำ บริษัท Ingram Micro ในฐานะตัวแทนจำหน่ายโซลูชันไอทีชั้นนำ

  • ดำเนินงานในประเทศไทยมากกว่า 30 ปี
  • เป็นตัวแทนจำหน่ายใน 57 ประเทศทั่วโลก
  • มีความเข้าใจเชิงลึกต่อความซับซ้อนของระบบ IT และธุรกิจองค์กร

ทีมงานของ Ingram Micro เป็น มืออาชีพที่ได้รับการรับรอง และผ่านการการันตีด้วย รางวัล Top Partner จากแบรนด์ชั้นนำมากมาย

  • สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการวาง Infrastructure ของ IBM ให้กับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม

สิ่งที่ทำให้ Ingram Micro แตกต่างคือ วิสัยทัศน์ในการให้บริการแบบครบวงจร

  • ตั้งแต่ ให้คำปรึกษา → ฝึกอบรม → สนับสนุนหลังการขาย
  • ช่วยให้ฝ่ายไอทีลดภาระในการจัดการระบบ และมุ่งเน้นไปที่ นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ให้เติบโตและแข่งขันได้อย่างมั่นคง

ดูข้อมูลเพิ่มเติม : > https://now.ingrammicro.com/th-ibm-solutions

source :

https://www.youtube.com/watch?v=dQZGy-Ej1HM&t=1s

https://www.youtube.com/watch?v=XZij1nh2m_M&t=580s

https://www.gartner.com/en/documents/6908066