ดาบสองคม AI รุ่นใหม่อาจเก่งเกินไป เป้าหมายถูกใช้เจาะระบบ

ดาบสองคม AI

วงการไอทีต้องจับตามองอีกครั้ง เมื่อ OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ออกประกาศเตือนเรื่องสำคัญเกี่ยวกับ AI Cybersecurity หรือความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยระบุว่าโมเดลปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ ที่กำลังพัฒนาอยู่นั้น มีความสามารถสูงมากจนอาจกลายเป็นดาบสองคม หากถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

ทำไม OpenAI ถึงกังวล? จากการทดสอบล่าสุดพบว่า AI รุ่นใหม่สามารถเรียนรู้วิธีการเจาะระบบแบบ Zero-day exploits (ช่องโหว่ที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน) ได้ด้วยตัวเอง รวมถึงสามารถปฏิบัติการโจมตีระบบองค์กรที่ซับซ้อนได้

ตัวเลขที่น่าตกใจคือโมเดลใหม่อย่าง GPT-5.1-Codex-Max สามารถทำคะแนนในการแข่งขันแฮกเกอร์ สูงถึง 76% ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดอย่างมหาศาลจากรุ่น GPT-5 ที่ทำได้เพียง 27% ในช่วงเดือนสิงหาคม 2025 ที่ผ่านมา

เพื่อไม่ให้ AI กลายเป็นเครื่องมือของ แฮกเกอร์ AI ทาง OpenAI จึงใช้กลยุทธ์ Defense-in-depth หรือการป้องกันหลายชั้น และได้เปิดตัว Aardvark (อาร์ดวาร์ก) ซึ่งเป็น AI Agent ที่ทำหน้าที่เสมือนนักวิจัยความปลอดภัย

หน้าที่ของ Aardvark คือช่วยสแกนหาช่องโหว่ในโค้ดและเสนอวิธีแก้ไขให้อัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบัน อยู่ในช่วง Private Beta และจะเปิดให้ใช้ฟรีสำหรับ Open Source บางแห่ง

ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่แค่ OpenAI ที่ตื่นตัว ก่อนหน้านี้ Anthropic (ผู้สร้าง Claude) ก็เพิ่งเปิดเผยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2025 ว่าถูกกลุ่มแฮกเกอร์ระดับชาติของจีน ใช้เครื่องมือของตนไปทำจารกรรมข้อมูล ในขณะที่ Google ก็เร่งอัปเกรดความปลอดภัยบน Chrome เพื่อรองรับยุคของ AI Agent เช่นกัน

สรุปแล้ว ที่ OpenAI เตือนภัยไซเบอร์ ครั้งนี้ เป็นสัญญาณบอกว่าโลกเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ AI สู้กับ AI อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ดูแลระบบและองค์กรต่างๆ ต้องเตรียมรับมือให้ทัน

ข่าวนี้อ่านแล้วทั้งทึ่งและเสียวสันหลังไปพร้อมกันครับ ในมุมหนึ่ง การที่ GPT-5.1 เก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดจาก 27% เป็น 76% ภายในเวลาไม่กี่เดือน แสดงให้เห็นว่าวิวัฒนาการของ AI มันไม่ได้เดินแต่มันกำลังวิ่งแบบเร็วมาก ๆ

ในมุมความปลอดภัย นี่คือฝันร้ายของฝ่าย IT Security ชัดๆ ลองจินตนาการว่าแฮกเกอร์ไม่ต้องนั่งงมหาช่องโหว่เองแล้ว แต่สั่ง AI ให้รุมสแกนและเจาะระบบได้ในเสี้ยววินาที การโจมตีจะรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น…

ที่มา

indianexpress