AI ฉลาดล้ำ แต่เอาชนะความเชื่อ และจินตนาการของมนุษย์ไม่ได้

AI ฉลาดล้ำ

Key Insight

  • AI ฉลาดล้ำ แต่เอาชนะความเชื่อ และจินตนาการของมนุษย์ไม่ได้
  • Ai อาจเข้ามาแทนที่อาชีพของเราในหลาย ๆ อาชีพ แต่ก็มีอีกหลายอาชีพ ที่ Ai ยังแทนที่เราไม่ได้
  • สำรวจตัวเองว่า เราอยู่ในจุดที่ Ai จะมาแย่งงานเราหรือเปล่า ถ้าใช่ เราจะเปลี่ยนตัวเองยังไง…

เราเคยเห็น AI แข่งหมากล้อมกับมนุษย์ และก็เอาชนะซะจนมนุษย์อาย บางส่วนก็กลัวเป็นจะเป็นแบบในหนัง Terminator ที่ AI ยึดครองโลกและมองมนุษย์ว่าเป็นผู้ทำลายโลก

เมื่อปีสองปีก่อน สื่อหลายเจ้าทั้งในและต่างประเทศประโคมข่าวใหญ่เลยว่า  AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์ เพราะด้วยค่าจ้างที่ถูกกว่า และทำงานได้ 24 ชั่วโมง

หลายคนก็เกิดความกังวัลจะตกงานไหม ?

คำตอบคือ  “ตก” บางส่วน  และบางส่วน “ต้องใช้มนุษย์ทำงานเหมือนเดิม”

ผมโชคดีที่มีโอกาศได้อ่านบทความเกี่ยวกับ AI มาพอสมควร และหลายบทความมักจะให้น้ำหนักไปทางใดทางหนึ่ง เช่น AI จะเข้ามาแย่งงานคนแน่ ๆ   หรืออีกด้านคือ ไม่ต้องกลัว  AI จะไม่แย่งงานมนุษย์  แต่จะทำในส่วนงานที่ต้องซ้ำ ๆ

แต่ความเป็นจริงของโลกนี้ คือ เทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมา มันมีจุดมุ่งหมายของมัน หลัก ๆ ก็เพื่อความความสะดวกสบายและลดต้นทุนในการดำเนินงาน

หากจะบอกว่า AI จะไม่แย่งงานมนุษย์ทั้งหมด (หมายถึงทุกงานนะ)  มันไม่มีทางเป็นไปไม่ได้หรอก  วันนี้  Walmart ใช้ Smart Cashier  เป็นช่องทางจ่ายเงินพิเศษในห้าง  โดยไม่ต้องอาศัยมนุษย์ หรือ CP ในจีนเปิดโรงงานผลิตอาหารกล่องโดยแทบจะไม่ใช้คนเลย

เห็นไหมว่า “มนุษย์มันหายวับไปในส่วนที่เขาเคยยืน” แล้ว AI จะไม่แย่งงานมนุษย์ได้อย่างไร…?

และหากจะบอกว่าในอนาคต AI จะแย่งงานทั้งหมดของมนุษย์หรือเปล่า  หลายคนคงรู้คำตอบแล้วว่า มันไม่ทางเป็นไปได้

ข้อดีของ AI คือความการมีความจำในการแก้ปัญหา และดึงข้อมูลออกมาใช้ได้เร็ว แต่จะดึงได้ มันต้องมีข้อมูลก่อน

เคยมีคำกล่าวว่า “Ai ต้องเรียนรู้ ถ้าไม่เรียน มันก็คิดอะไรไม่ได้” แปลว่า Ai มันไม่สามารถคิดอะไรนอกกรอบได้

และนั่นเป็นเหตุผลว่า จินตนาการและความเชื่อของมนุษย์นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าสมองกลจะเข้าใจ

ถ้าให้พูดในแง่อาชีพ งานด้านครีเอทีฟ รวมทั้งงานบริการบนความเชื่อเดิม ๆ ของมนุษย์ AI ยังไม่สามารถแทนที่ได้จริง ๆ

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจในไทยหลายแห่งเลือกจะใช้ Chatbot  ในการแก้ปัญหาการช่วยเหลือให้กับคน

ผมเคยโทรไปหาผู้ให้บริการโทรศัพท์รายหนึ่ง เผื่อจะสอบถามถึงปัญหาการใช้งาน คำตอบที่ได้คือผมได้คุยกับ Bot ที่เขาถูกเซ็ตคำตอบไว้  และคำตอบมันก็กว้างซะเหลือเกินจนทำให้ปัญหาของผมไม่ถูกแก้ไข ผมจึงเรียกร้องที่จะคุยกับคนเท่านั้น แต่สุดท้ายระบบไม่มีจนต้องเดินไปหา ศูนย์บริการแทน (มันใช่ไหม??!!   โทษทีครับ อารมณ์มันค้าง)

และนั่นทำให้ผมเห็นด้วยว่า Ai มันแทนที่งานของมนุษย์ไม่ได้ทุกงาน….

ฉะนั้น หากเราจะกลัวว่ Ai จะมาแย่งงานเราหรือ ต้องมาสำรวจแล้วแหละว่า งานที่เราทำน่ะ มันเป็นงานแบบไหน

อย่างตัวผมเองก็เคยแอบหวั่น เพราะจีนเคยเปิดตัวผู้ประกาศข่าว Ai  และบางสื่อประโคมข่าวว่า “นักข่าว” คืออาชีพแรกที่จะหายไปหาก Ai เข้ามา

แต่ก็ค้นพบว่าหากเราสามารถสร้าง Content ที่ไม่ได้เป็นแบบแผนเดิม ๆ   ใส่จินตนาการเข้าไป ใส่เข้าความรู้เข้าไป ใส่มุขตลกหรืออารมณ์สุนทรี  แล้วร้อยเรียงออกมาเป็นเรื่องราว  ซึ่งสิ่งนี่ Ai มันทำไม่ได้

สรุปก็คือ เทคโนโลยีทุกเทตโนโลยีมีส่วนงทำให้อาชีพเดิม ๆ ของมนุษย์หายไปแน่นอน

และยุคนี้ เทคโนโลยีก็เปลี่ยนแปลงเร็วซะเหลือเกิน  แต่ข้อดีคือทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ เหมือนกัน  ฉะนั้น จงสำรวจตัวเอง และปรับเปลี่ยนตัวเองตามยุตสมัยให้เหมาะสม เพราะนี่คือวิธีการรับมือกับ Ai ได้ดีที่สุด