[ใช้ผิดทาง] อยู่ที่ผู้ใช้งานจริง ๆ มีรายงานฉบับใหม่จาก Microsoft เผยปีที่แล้วบริษัทได้ไล่ลบโดเมนเว็บที่เป็นอันตรายเกือบ 500 โดเมน และระงับการใช้บอตช่วยลงทะเบียนได้มากถึง 1.6 ล้านครั้งต่อชั่วโมง ทั้งนี้ยังได้ติดตามกลุ่มฉ้อโกงทางการเงินในปีนี้กว่า 1,500 กลุ่ม จากเดิมมีเพียง 300 กลุ่มในปีก่อน ตัวเลขเหล่านี้กำลังบ่งบอกถึงอะไร ด้าน Microsoft ก็ได้กล่าวถึง “AI” ที่มีส่วนช่วยให้เกิดการหลอกลวงออนไลน์เหล่านี้เอง
Vasu Jakkal รองประธานฝ่ายความปลอดภัยของ Microsoft กล่าวกับ CBS News Confirmed ถึงเรื่องปัญหาหลอกลวงออนไลน์ ที่นับวันยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังมี AI เข้ามาช่วยสร้าง “เว็บปลอม” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“AI ไม่เพียงช่วยสร้างเว็บไซต์หลอกลวงเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เว็บไซต์ปลอมนั้นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย” Vasu Jakkal กล่าวเพิ่มเติม
Generative AI สามารถสร้างข้อมูลปลอมได้ทั้ง คำอธิบายผลิตภัณฑ์ รูปภาพ รีวิว และแม้แต่คลิปโฆษณาจาก Influencer หรือ Youtuber ดังก็ปลอมได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดก็มากพอให้มีผู้หลงเชื่อ เข้ามาซื้อสินค้าที่ไม่มีอยู่จริง จากเว็บร้านค้าที่ถูกปลอมด้วย AI อย่างเนียบเนียน สุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อในที่สุด เสียทั้งเงินหรือข้อมูลส่วนตัวไปแบบฟรี ๆ
สำหรับจุดสังเกตของเว็บไซต์ปลอมนั้น Jakkal ได้เผยว่าบางครั้ง ผู้สร้างเว็บปลอมก็มีการใช้ชื่อเว็บที่มีอยู่จริง แต่แอบเปลี่ยนชื่อเว็บเพียงตัวอักษรเดียวให้สังเกตได้ยาก จนเวลาไปเจอโพสต์ขายของในเว็บโซเชียล ก็มีการแนบลิงค์ URL เว็บสั่งซื้อที่คุ้นเคย โดยไม่ทันรู้ตัวว่านั้นคือเว็บปลอม
ด้าน Microsoft เผยมีทางช่วย โดยล่าสุดได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่บน Microsoft Edge เพิ่มคุณสมบัติการป้องกันการพิมพ์ผิดและการแอบอ้างชื่อเว็บโดเมนโดยเฉพาะ ซึ่งจะแจ้งให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ หากฟีเจอร์สงสัยว่าอาจมีการสะกดชื่อเว็บนั้นผิด หรือทำการบล็อกเว็บไซต์ระบบมองว่าเป็นอันตรายก่อนให้เลย
ท้ายนี้ทาง Techhub ก็มีเทคนิคเลี่ยงเว็บร้านค้าปลอมบน Facebook อย่างง่าย ๆ สมมุติหากเจอโพสต์ขายของที่มีการกดดันให้รีบซื้อก่อนหมดโปรโมชั่น กับมีการแปะลิงค์เข้าซื้อหลาย ๆ ลิงค์ในโพสต์เดียว และมีคอมเมนต์พูดขอบคุณในลักษณะคล้าย ๆ กัน (กับดูไม่เหมือนคนไทยคุยกันด้วย) เจอแบบนี้ก็ขอให้มองในแง่ลบไว้ก่อน จากนั้นก็ลองเปิดแอปฯ ร้านค้าออนไลน์ หรือเข้าเว็บไซต์ของสินค้านั้น ๆ เพื่อเช็คโปรโมชั่นด้วยตัวเองดีกว่า
ที่มา : cbsnews