หุ่นยนต์แทนที่คน เมื่อ AI เริ่มฉลาดขึ้น

หุ่นยนต์แทนที่คน

หลายคนอาจไม่รู้ว่าตอนนี้ใน Las Vegas กำลังมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์อย่างจริงจัง จนทำให้เกิดการประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงาน

Las Vegas ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก และตอนนี้มีการใช้ตู้ Kiosk ที่ให้ลูกค้าเช็คอินเพื่อเข้าพัก มีหุ่นยนต์ให้คำแนะนำร้านอาหารแทนคน มีหุ่นยนต์ที่สามารถเสิร์ฟอาหารได้ และมี Bartender ที่เป็นหุ่นยนต์ ซึ่งร้านบางแห่ง แทบจะให้หุ่นยนต์ดำเนินการภายในทั้งหมด

แน่นอนว่าในวันที่ AI ฉลาดขึ้น หลายธุรกิจก็คงอยากใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน การศึกษาพบอีกว่า 38% ถึง 65% ของจำนวนงานใน Las Vegas จะสามารถทำได้ด้วยระบบอัตโนมัติภายในปี 2578

จอห์น เรสเตรโป อาจารย์ใหญ่ของสถาบัน RCG Economics ใน Las Vegas บอกว่า “ที่ใดก็ตามที่อุตสาหกรรมรีสอร์ทสามารถแทนที่พนักงานของตนได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน ผลกำไร หรือประสบการณ์ของลูกค้า พวกเขาจะทำเช่นนั้น” ส่วนมนุษย์ จำเป็นต้องย้ายไปยังอาชีพที่มีทักษะสูงกว่า และต้องไม่สามารถแทนที่ได้ง่าย ๆ ด้วย AI อย่างงานที่สร้างสมดุลและความยืดหยุ่นที่มากขึ้น จึงจะได้รับผลกระทบจาก AI น้อยที่สุด

แน่นอนว่า เรื่องนี้ทำให้สหภาพแรงงานในลาสเวกัสไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก ซึ่งพวกเขากำลังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด โดยสหภาพที่ใหญ่ที่สุดในเนวาดา Culinary Union เป็นตัวแทนของพนักงานบริการและพนักงานต้อนรับกว่า 60,000 คนในลาสเวกัสและรีโน พวกเขาหวังว่าจะมีการทำสัญญาการเจรจาฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการป้องกันไม่ให้ AI เข้ามาแทนที่งานของพวกเขา

สัญญาล่าสุดเมื่อปี 2561 ระบุว่า บริษัทต่างๆ ต้องแสดงคำเตือนคนงานเป็นเวลา 6 เดือนเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ในที่ทำงาน รวมถึงการฝึกอบรมฟรีเกี่ยวกับวิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งจะทำให้พนักงานและหุ่นยนต์ทำงานควบคู่กันได้ หรือหาแนวทางใหม่ในการพัฒนาไปด้วยกัน แต่ถึงกระนั้น AI และ Robot ก็ยังสร้างความกังวลให้กับบางคนอยู่

หนึ่งในความเห็นที่น่าสนใจจาก Sabrina Bergman หนึ่งในบริกรที่ทำงานอยู่ใน Tipsy Robot ที่มีการนำหุ่นยนต์มาใช้เป็น “Bartender” เธอบอกว่า เธอไม่ได้กลัวว่า AI จะเข้ามาแย่งงานของเธอ เพราะเธอยังเห็นข้อผิดพลาดของหุ่นยนต์ งานของเธอคือการช่วยหุ่นยนต์ทำงานโดยดูแลบาร์ เมื่อหุ่นยนต์ทำแก้วเหล้าหก เธอจะเช็ด และทำการรีเซ็ตหุ่นยนต์ใหม่ หากหุ่นยนต์ไม่เทเครื่องดื่มจนหมด เธอก็เติมมันลงไปเพื่อให้ได้ส่วนผสมตามสูตร

Bergman บอกอีกว่า ยังมีงานอีกหลายอย่างที่เทคโนโลยีไม่สามารถเข้าไปแทนที่ได้ 100% เครื่องจักรไม่สามารถให้การสัมผัสที่นุ่มนวลได้เหมือนมนุษย์ ไม่สามารถให้ประสบการณ์แบบเดียวกันได้ และบ่อยครั้งที่เครื่องจักรเพิ่มงานให้พวกเธอมากขึ้น

และหนึ่งในพนักงานบริการยังบอกว่า พวกเขามีแขกจำนวนมากที่เป็นแขกขาประจำ และพวกเขามาเพื่อการปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวกับ Bartender พวกเขาอยากคุยเล่น ระบายความในใจ หรือขอคำแนะนำจาก Bartender ซึ่งพวกเขาไม่ได้มาเพราะเทคโนโลยีใหม่ ๆ นี่เป็นอีกหนึ่งความเห็นที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่พนักงานบริการ เพราะเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของ Generative AI กำลังส่งผลกระทบต่องานในสาขาอื่น ๆ เช่นกันอย่าง การจัดการบัญชี การป้อนข้อมูลลงใน Database การสรุปข้อมูลรวมทั้งหมด รวมถึงการทำแคมเปญทางการตลาด ซึ่งในบางกรณีก็ต้องยอมรับว่า AI จะช่วยทำให้พนักงานมีประสิทธิผลมากขึ้น ในขณะที่บทบาทอื่นๆ อาจถูกกำจัดออกไปโดยสิ้นเชิง และ AI ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างงานใหม่ที่ยังไม่มีอยู่ด้วยซ้ำ

มีผลสำรวจจาก IBM ที่ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า หากไม่ต้องการให้ AI แย่งงาน ก็ควรจะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ รวมทั้งทักษะ Prompt ที่ให้ AI ช่วยให้เราทำงานได้ประสิทธิผลที่ดีขึ้นในเวลาจำกัด..

โดยสรุปแล้ว ในวันที่เศรษฐกิจต้องขับเคลื่อน แน่นอนว่ามีหลายธุรกิจมีความจำเป็นที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์เพื่อช่วยลดต้นทุน งานบางอย่างจะหาย และทำให้เกิดงานในรูปแบบใหม่ และพนักงานจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีทักษะที่ล้ำลึกมากขึ้น ต้องมีในสิ่งที่หุ่นยนต์หรือ AI ไม่มี หรือให้ดีที่สุด คือเป็นเป็นควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ไปเลย

แหล่งข้อมูล

https://thenevadaindependent.com/article/as-more-jobs-are-automated-las-vegas-set-to-be-center-stage-for-economic-shifts

https://www.npr.org/2023/09/04/1197138244/vegas-ai-workers-brace-for-change

https://decrypt.co/152914/40-of-workers-will-need-new-job-training-due-ai-ibm