เห็นต่าง NASA เชื่อยานอวกาศต่างดาว อาจมุ่งหน้าเฉียดโลก

[ฟังหูไว้หู] เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา NASA รายงานพบ ‘3I/ATLAS’ หรือดาวหางขนาดใหญ่ ที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 221,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจบินเข้าใกล้โลกมากสุดในระยะ 270 ล้านกิโลเมตร ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2025 หรืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้

แต่แม้ NASA จะระบุว่าเป็นดาวหาง โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับมากมาย ทว่าทางศาสตราจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กลับมองว่าดาวหางดังกล่าวนั้น แท้จริงคือ ‘ยานอวกาศต่างดาว’ ที่มาพร้อมพลังงานนิวเคลียร์ด้วย

มีรายงานว่า 3I/ATLAS เป็นดาวหางที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับเกาะแมนฮัตตัน และกำลังพุ่งตรงมายังระบบสุริยะที่เราอยู่นี้เอง สร้างความสนใจไปทั่วโลก และกลายเป็นจุดปะทะระหว่างแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องระมัดระวัง….กับสมมติฐานที่ดูหลุดโลกแต่ก็น่าติดตาม

Avi Loeb นักฟิสิกส์ชาวอิสราเอล-อเมริกัน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กับเจ้าของผลงานหนังสือ “Extraterrestrial” และ “Interstellar” ได้ตั้งทฤษฎีว่า 3I/ATLAS อาจเป็นหลักฐานของเทคโนโลยีนอกโลกที่กำลังค้นหามานาน

สาเหตุที่มองว่า 3I/ATLAS ไม่ใช่เพียงดาวหางนั้น Avi Loeb อธิบายว่ามี ‘3 สิ่งที่แปลกประหลาด’ โดยข้อแรกกล่าวถึงขนาดใหญ่ที่มากของมัน ซึ่งใหญ่เกินกว่าจะเป็นดาวเคราะห์น้อยระหว่างดวงดาว ต่อให้มีหินลอยอยู่ในอวกาศมากมาย ก็ยังไม่เพียงพอที่จะก่อตัวเป็นวัตถุแบบนี้

ข้อที่สองคือ ‘มันไม่มีหาง’ หรือไม่พบคุณสมบัติทางสเปกตรัมของก๊าซดาวหางเลย จากปกติวัตถุระหว่างดวงดาวส่วนใหญ่มักจะประกอบด้วยน้ำแข็งบางส่วน ซึ่งเป็นนิยามของดาวหาง โดยเมื่อเคลื่อนที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ระบบสุริยะของเรา มันจะละลายเล็กน้อยและปล่อยหางที่เป็นก๊าซออกมา แต่วัตถุนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น โอกาสที่วัตถุขนาดใหญ่นี้จะเป็นหิน 100% นั้นก็มีน้อยมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นมันทำจากโลหะหรือวัสดุเทียมอื่น ๆ ?

สุดท้ายนี้คือ 3I/ATLAS มีเส้นทางการบินที่แปลกประหลาด ดาวเคราะห์ทั้งหมดในระบบสุริยะของเรา โคจรอยู่ในระนาบเดียวกันรอบดวงอาทิตย์ บางดวงอยู่ไกลออกไป บางดวงอยู่ใกล้กว่า แต่สิ่งนี้กลับเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งดาวหางมักจะมาจากด้านบนหรือด้านล่างของระนาบนั้น โดยมักผ่านระบบสุริยะ “ชั้นนอก” อันกว้างใหญ่โดยไม่เคยเข้าใกล้โลกเลย แต่สิ่งนี้กำลังบินเข้าใกล้โลกในระยะ 270 ล้านกิโลเมตร

สำหรับข้อสุดท้ายนี้ทาง Avi Loeb ยกให้เป็นเหตุผลหลักในครั้งนี้เลย โดยมองว่าเป็นความตั้งใจที่มุ่งเป้ามายังระบบสุริยะชั้นในจริง ๆ และการที่มันเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด ที่อยู่ในจุดที่ถูกบดบังจากมุมมองของโลกด้วย ซึ่งอาจเป็นความตั้งใจเพื่อหลีกเลี่ยงการสังเกตการณ์อย่างละเอียดจากโลกก็เป็นได้

ทั้งนี้ยังมีภาพถ่ายล่าสุดของ 3I/ATLAS ซึ่งถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) เผยให้เห็นการเรืองแสง โดย Avi Loeb เชื่อว่าการเรืองแสงนี้ เป็นเพราะมันกำลังขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ จึงเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์และผู้นำโลก ใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อศึกษา 3I/ATLAS โดยด่วน

แม้ Avi Loeb เชื่อว่า 3I/ATLAS เป็นเหมือนยานอวกาศหรือเทคโนโลยีนอกโลก แต่ก็มีคนที่ไม่คิดว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์อย่าง Richard Moissl หัวหน้าฝ่ายป้องกันดาวเคราะห์ประจำองค์การอวกาศยุโรป มองว่า 3I/ATLAS ไม่พบสัญญาณบ่งชี้ถึงต้นกำเนิดที่ไม่เป็นธรรมชาติ จากการสังเกตการณ์ที่มีอยู่แล้ว และยังมุ่งหน้าห่างไกลจากโลกมากกว่า

แต่ถึงอย่างนั้น Richard Moissl ก็ไม่ได้มองข้าม 3I/ATLAS เลยแม้แต่น้อย เผยมีนักดาราศาสตร์ทั่วโลกกำลังรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเกี่ยวกับวงโคจรของมัน รวมถึงคุณสมบัติทางกายภาพของวัตถุ และการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ต้องรอดูว่าตอนที่มันปรากฏอีกฟากหนึ่งของดวงอาทิตย์ ภายในต้นเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถสังเกตการณ์ได้อีกครั้ง และอาจได้เจอคำตอบที่มากขึ้น

ที่มา : Motorbiscuit