เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที14)

iPhone และ iPad ถือว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีข้อจำกัดเยอะมากโดยเฉพาะในเรี่องของหน่วยความจำที่ใช้เก็บข้อมูล โดยมีขนาดให้เลือกขั้นต่ำที่ 16GB และไม่สามารถใส่การ์ดใดๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้เลย วิธีแก้ไขทางเดียวก็คือการอัพเกรดไปซื้อรุ่นที่แพงขึ้นคือ 32GB และ 64GB แต่มันคุ้มแล้วเหรอกับเงินที่ต้องเพิ่มเข้าไป

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที13)

ทางเลือกในการเปิดไฟล์นั้นมีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นไฟล์เพลง ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เอกสาร โดยเฉพาะใครที่ชอบลง App ไว้ในเครื่องเยอะๆ และ App แต่ละตัวก็สามารถรองรับไฟล์ประเภทเดียวกันได้ด้วย การเลือกเปิดไฟล์ของคุณ อาจจะเลือก App ที่คุณถนัดที่สุดมาเปิดไฟล์เหล่านั้น เช่น ไฟล์วิดีโอที่เป็น DVD-Rip อาจจะชอบดูด้วยโปรแกรมดูหนังตัวหนึ่งเพราะแสดง Subtitle ได้ดีกว่า ในขณะที่ซีรีส์เกาหลีอาจจะชอบใช้อีกตัวเพราะสามารถกำหนด Playlist ได้ดี

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที12)

ถ้าเทียบการใช้งานระหว่าง Android และ iOS ที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ปุ่ม” เพราะ iOS จะมีปุ่มมาให้คุณใช้งานอยู่เพียงแค่ปุ่มเดียว นั่นคือปุ่ม Home ในขณะที่ Android จะมีมาให้ถึง 3-4 ปุ่ม โดยปุ่มหลักๆ ก็คือ Home, Menu และ Back (อาจจะมีปุ่ม Search เพิ่มขึ้นมา) ทั้งนี้ไม่นับรวมปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่ม Power ที่มีเหมือนกันหมดอยู่แล้ว

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที11)

เป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงมากกับอาการกั๊กของ Apple ที่ไม่ยอมให้ Siri ทำงานบนอุปกรณ์ตกรุ่นอย่าง iPhone 3GS และ 4 รวมจนถึง iPad2 ด้วย หรือแม้แต่ The New iPad ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งาน Siri เลย ซึ่งเจ้า Siri นี้เป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะที่ใครๆ ก็อยากใช้ อยากสัมผัส

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที10)

เช่นเดียวกับเรื่องของ Gmail ที่ได้พูดถึงไป แน่นอนว่าเมื่อมันเป็นบริการของ Google แล้ว เวลาที่ออกแบบให้มาทำงานด้วยกับ Android ย่อมต้องสามารถทำได้ดีกว่าบน iOS แน่นอน แล้วทำไมต้องใช้ Google Calendar ด้วยล่ะ

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที9)

หลายต่อหลายคนเลือกซื้อสมาร์ตโฟนโดยดูจากสเปกของกล้องถ่ายรูป เพราะสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายรูปและเล่น Social Network ไปพร้อมๆ กันมาก ถ่ายปุ่มก็อัพโหลดขึ้นปั๊บ มีเพื่อนมาเมนต์เป๊ะ ต่อกันไปเป็นทอดๆ

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที8)

เราได้พูดไปถึงหน้าจอ Home Screen ของ Apple ที่เต็มไปด้วยไอคอนและไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนัก ในขณะที่ Android สามารถตกแต่งหน้าจอ Home Screen ของตัวเองได้ นอกจากที่จะสามารถนำไอคอน Shortcut มาปรับดับตกแต่งตามความสะดวกในการใช้งานแล้ว ยังมี Widget ให้เสริมความสวยงามของ Home Screen อีก

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที7)

ระบบการแจ้งเตือนเรื่องรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบของ Android และ iOS นั้นแตกต่างกันอยู่พอสมควร โดย Apple นั้นจะเน้นการแจ้งเตือนผ่านไอคอนของ App แต่ละตัว ว่ามีสิ่งที่แจ้งเตือนกี่หัวข้อก็จะระบุเป็นตัวเลขเอาไว้ที่มุมบนของไอคอน เช่น มีอีเมล์ใหม่เข้ามากี่ฉบับ หรือมีคนส่งข้อความเข้ามามากน้อยขนาดไหน

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที6)

ระบบปฏิบัติการบนมือถือและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ที่สเปกแรง ซีพียูแรง แรมเยอะ มักจะเอาจุดเด่นในเรื่องของ Multitasking มาเป็นจุดขาย ผู้ใช้สามารถฟังเพลง พร้อมเล่นเกมไปด้วย หรือทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ (ว่าแต่จะมีกี่คนที่ทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันอยู่บ่อยๆ) ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android เองก็ดี ได้มีการออกแบบให้รองรับการทำ Multitasking ด้วยกันทั้งนั้น

เผย 20 จุดตาย Android ไร้พ่าย iOS(จุดที5)

พูดถึง Gmail แน่นอนว่ามันเป็นบริการของ Google เรื่องการออกแบบมาให้รองรับกันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรเลย แต่ถ้าไปถามผู้ที่ใช้อุปกรณ์ iOS จะมีสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่บอกว่าตกเองกำลังใช้อีเมล์ @Apple.com อยู่ ส่วนใหญ่ก็คงใช้บริการฟรีอีเมล์ยอดนิยม อาจจะเป็น Hotmail.com, Yahoo.com และแน่นอนที่สุด Gmail.com ซึ่งมีผู้เปลี่ยนมาใช้กันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลมาก และยังเป็นตัวกลางที่ผูกไปยังบริการอื่นๆ ของ Google อีกด้วย

Hot Issue