จีนกำลังสร้างศูนย์ข้อมูลใต้ทะเล แห่งใหม่นอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนา AI ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีความยั่งยืน
โดยศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำทะเล และพึ่งพาพลังงานสะอาดจากกังหันลม เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
โครงการศูนย์ข้อมูลใต้ทะเลนี้ พัฒนาโดยบริษัท Hailanyun ด้วยมูลค่ากว่า 223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จุดเด่นคือการใช้ประโยชน์จากอุณหภูมิที่เย็นของน้ำทะเลมาช่วยระบายความร้อนให้เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 198 ตัวโดยตรง ส่งผลให้ลดการใช้พลังงานได้อย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับ Green Data Center บนบก
ยิ่งไปกว่านั้น พลังงานที่ใช้เกือบทั้งหมดมาจากฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดสำหรับ Data Center อย่างแท้จริง ทำให้การฝึกฝนโมเดล AI ขนาดใหญ่ มีการปล่อยคาร์บอนน้อยที่สุด ถือเป็นก้าวสำคัญของ จีน AI ในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ที่ยั่งยืน
ที่ผ่านมา ดาต้าเซ็นเตอร์บนบกต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการใช้พลังงานมหาศาล โดยเกือบ 40% ของไฟฟ้าถูกใช้ไปกับระบบทำความเย็น นอกจากนี้ยังต้องใช้น้ำจืดจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่โดยเฉพาะในพื้นที่แห้งแล้ง ซึ่งรายงานล่าสุดจาก UNESCO ยังเตือนว่าการเติบโตของ AI กำลังทำให้การใช้พลังงานอยู่ในระดับที่ไม่ยั่งยืน การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ AI ใต้น้ำ จึงเป็นคำตอบที่ช่วยแก้ปัญหาทั้งการใช้พลังงานและน้ำจืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่า ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำทะเลจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องคิดให้หนัก เช่น ผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลจากการที่น้ำอุ่นขึ้นเล็กน้อย และความยุ่งยากในการบำรุงรักษาซ่อมแซมอุปกรณ์ที่อยู่ลึกลงไปใต้ทะเล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนกว่าบนบก
ที่มา
China’s Submerged AI Data Centers Could ‘Influence Global Sustainable Computing’