สรุปงาน CES 2018 กับ 10 เทรนด์ไอทีน่าสนใจในงาน ปีนี้อะไรเด่น อะไรปัง

ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา CES หรือ Consumer Electronics Show งานโชว์เทคโนโลยีประจำปี ได้เปิดตัวสินค้าไอทีไปกว่า 7 แสนชิ้นแล้ว และยังเป็นงานที่คอยบอกสถานะเทรนด์ไอทีประจำปีนั้น ๆ ด้วย

สำหรับ CES 2018 ครั้งนี้ หลังวันที่ 9 – 12 ม.ค 61 ณ เมือง ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐฯ ที่ผ่านมา อาจเรียกได้ว่าเป็น “ปีแห่งอุปกรณ์อัจฉริยะ” หรือ Smart Gadgets ที่แห่มาเปิดตัวในงานมากมายหลายชนิด นอกนั้นก็มีโชว์พวกอุปกรณ์ต้นแบบหรือ Prototype ที่จะกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ในอนาคตด้วย ส่วนนี้ก็วัดจากแบรนด์ไอทียักษ์ใหญ่ในงาน อาทิ LG , Samsung, Sony, Panasonic, Lenovo, Dell, Nvidia และ Intel ที่เข้ามาร่วมโชว์ไอเดียกับของดีในงานพอควร ปีนี้มีอะไรเด่น มีเทรนด์ไอทีอะไรปังบ้าง มาดูสรุป 10 ประเด็นที่น่าสนใจในงานกันครับ

1.Smart Display ตัวใหม่

หลังปีที่แล้วมี Echo Show จออัจฉริยะจาก Amazon เป็นดาวเด่น ทาง Google ไม่ยอมน้อยหน้า ประกาศจับมือกับ 4 แบรนด์ไอทีชื่อดังอย่าง Sony, JBL, Lenovo และ LG ให้มาช่วยพัฒนาจออัจฉริยะบ้าง จนล่าสุดออกมาเป็น Lenovo Smart Display จออัจฉริยะที่มาพร้อม Google Assistant ในตัว ในรูปลักษณ์ที่สวยกว่า และถูกกว่าด้วย ส่วนความสามารถก็เหมือนพวกอุปกรณ์ Home Assistant ที่เป็นตัวกลางช่วยควบคุมหรือดูสถานะของอุปกรณ์ IoT ภายในบ้าน สั่งการด้วยเสียงเหมือนลำโพงอัจฉริยะ แต่พอมีหน้าจอ ก็ใช้เป็นแท็บเล็ตขนาดย่อมได้ด้วย

นอกจากจออัจฉริยะตัวนี้แล้ว ก็ยังมีการเปิดตัว “AI TV” โดย Samsung ที่เปิดตัว The Wall เป็นทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยี MicroLED ในขนาดจอ 146 นิ้ว และมาพร้อม Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะจากทาง Samsung ซึ่งจะมีความสามารถต่างจาก Smart TV ทั่วไปแน่นอน 

2.Smart Home คึกคัก

ถัดจากจออัจฉริยะ ก็เป็นระบบควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้าน โดยทาง LG ที่ได้อานิสงส์จาก Google Assistant จนออกมาเป็น “LG CLOi” หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่พัฒนามาสู้พวกอุปกรณ์ Home Assistant โดยเฉพาะ ส่วนทางด้าน Samsung ก็มี SmartThings โดยในงานได้เปิดตัวตู้เย็นอัจฉริยะอย่าง “Family Hub” เข้ามาเสริมอุปกรณ์ Smart Home ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สุดท้ายทาง Panasonic ก็มี “Panasonic GA10” เป็นลำโพงอัจฉริยะ เข้ามาร่วมรบสงคราม Smart Home ด้วยเหมือนกัน

3.Smart Car เพื่อมวลชน

หากพูดถึง Smart Car หลายคนคงนึกถึงรถยนต์ไร้คนขับส่วนบุคคล แต่ในงาน CES 2018 เราได้เห็น “รถโดยสารอัจฉริยะ” แล้วคือ e-Palette จาก Toyota ที่เป็นทั้งรถขนส่งมวลชนเคลื่อนที่อัตโนมัติ และเป็นแพลตฟอร์มให้ธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาดัดแปลงเป็นรถบริการตามที่ต้องการได้ด้วย โดยตัวอย่างแรกคือ รถขนส่งพิซซ่าจาก Pizza Hut สำหรับตัวรถ อาจจะได้เห็นมันวิ่งบนถนนภายในปี 2020 ครับ

4.จอเกมมิ่งใหญ่ได้อีก

ก่อนงาน CES 2018 ไม่กี่วัน ทาง LG ได้แอบเปิดตัวจอ OLED บางเฉียบ ขนาด 88 นิ้ว ความละเอียด 8K ตัวแรกของโลก นอกจากนี้ยังโชว์จอ OLED TV ขนาด 65 นิ้วที่ม้วนได้ด้วย (รวมถึงจอ MicroLED ขนาด 146 นิ้วจาก Samsung) หมดนี้ว่าว้าวแล้ว แต่พอเจอทาง Nvidia ที่ไม่รู้นึกยังไง อยู่ ๆ ก็เปิดตัว “Big Format Gaming Displays” เป็นจอเกมมิ่งขนาดใหญ่ถึง 65 นิ้ว !! กลายเป็นประเด็นเลยทีนี้ สำหรับตัวจอ BFGD ก็มาพร้อมความละเอียดถึง 4K HDR และที่สำคัญมาพร้อมตัวเครื่อง Nvidia Shield ช่วยแปลงให้มันกลายเป็นจอ Android TV ได้ด้วย

5.ก้าวต่อไปของ VR

สำหรับวงการ VR วินาทีนี้ คงต้องยกให้เป็น HTC Vive ที่เป็นแว่น VR ระดับ Hi-End ยอดนิยมที่สุดในตอนนี้เลย ล่าสุดในงาน CES 2018 ก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ในชื่อ HTC Vive Pro มาพร้อมฟีเจอร์ใช้งานแบบไร้สาย (แต่ต้องซื้อ Adepter แยกนะ) และหน้าจอแสดงผลที่ละเอียดกว่าเดิมถึง 2880 x 1600 สำหรับฟีเจอร์ไร้สาย ก่อนหน้านี้เคยมีตัวคู่แข่งอย่าง Oculus Rift เปิดตัวไปก่อนแล้ว แต่อนิจจาไม่ดังเท่าตัว Vive ซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องด้วยมีเกมรองรับมากมาย และยังใช้งานบน Stream ได้ดีด้วยนี้เอง

6.หุ่นยนต์คือเพื่อน

เราอาจเคยเห็นหุ่นยนต์รูปแบบสัตว์เลี้ยงมาบ้างแล้ว อย่าง Sony Aibo ที่เป็นหุ่นยนต์น้องหมา ในงาน CES 2018 ก็ได้นำมาโชว์อีกรอบเหมือนกัน แต่ยังไม่สะดุดตาเท่าเจ้า Aflac Duck หุ่นยนต์ที่รูปร่างเหมือนเป็ดจริง ๆ สามารถเคลื่อนไหวและตอบสนองกับเราได้ราวกับมีชีวิต สำหรับหุ่นยนต์ตัวนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยดูแลเด็กที่เป็นโรคมะเร็ง ให้รู้สึกผ่อนคลายขณะทำการรักษานั้นเอง Aflac Duck จะมาพร้อมแผ่นป้าย EMOJI เปลี่ยนการแสดงอารมณ์ ที่สามารถนำไปทาบที่ช่วงอกของตัวเป็ด ให้แสดงลักษณะท่าทางตามแผ่นป้ายได้ด้วย ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาหรือ Aflac บ.ประกันชีวิตชื่อดังในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังบอกด้วยว่า Aflac Duck จะไม่เปิดขาย แต่จะบริจาคให้ตามโรงพยาบาลฟรี ๆ เลย

7.โน๊ตบุ๊คประจำปี 2018

ในงาน CES รอบนี้ ไม่ค่อยเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นรุ่นเก่าอัพสเปกมากกว่า ถ้ารุ่นใหม่จริง ๆ ก็จะมี Lenovo Miix 630 ที่มาพร้อมชิป Snapdragon 835 ทำให้ใช้งานได้ยาว ๆ 20 ชั่วโมง แต่ก็มีอีกรุ่นที่ใช้งานได้ยาวไม่แพ้กันคือ Del XPS 13 (9370) เป็นโน๊ตบุ๊คจอไร้ขอบร่างบางเบาตัวใหม่จาก Dell รอบนี้มาพร้อมสีใหม่ยอดนิยมอย่าง Rose Gold กับดีไซน์ที่มีการปรับเปลี่ยนขึ้นมาบ้าง ส่วนสเปกเหนือกว่า Miix 630 พอควร (และแพงกว่า….) และมีอายุการใช้งานแบตฯ ที่ใช้ได้นานถึง 19 ชั่วโมงกันเลย (ถ้าใช้งานทั่วไป ดูหนัง พิมพ์งาน น่าจะเหลือ 13 – 15 ชั่วโมง) จึงเลือกให้เป็นโน๊ตบุ๊คประจำปี 2018 จากงานนี้เอง

8.รุ่นใหม่ราคาดิ่ง

ถือเป็นเรื่องแปลกในงาน CES ครั้งนี้ ในตอนที่ Facebook เปิดตัวบริการ “Live” ก็มีการพัฒนาอุปกรณ์เสริมสำหรับช่วยถ่ายมากมาย หนึ่งในนั้นมี OSMO Mobile ด้ามจับกันสั่นสำหรับสมาร์โฟนจากทาง DJI ซึ่งมีประสิทธิภาพพอควร แต่ราคากลับไม่ถูกเลย กระทั่งในงาน CES 2018 นี้เอง ทาง DJI ได้เปิดตัว DJI OSMO Mobile 2 มาพร้อมแบตฯ ที่ใช้ได้นานขึ้น และชาร์จง่ายกว่าเดิมด้วย แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ราคาที่ถูกลงกว่าเดิมถึงครึ่ง !! จากรุ่นแรกที่มีราคาประมาณหมื่นต้น ๆ พอมาเป็นรุ่นนี้ กลับมีราคาเพียง 4 พันบาทเท่านั้น ใครซื้อรุ่นก่อนหน้านี้ไป คงน้ำตาไหลเป็นสายเลือดอยู่แน่ ๆ….

9.เหรียญออนไลน์สำหรับช่างภาพ

ในช่วงที่เหรียญออนไลน์หรือสกุลเงิน Cryptocurrency อยู่ดี ๆ กลับมาบูมอีกครั้ง ในงาน CES 2018 ทาง Kodak ก็เซอร์ไพรส์ผู้ที่มาเข้าร่วมงานด้วย Kodakcoin เหรียญออนไลน์ของตัวเอง และ KodakOne แพลตฟอร์มจัดการสิทธิ์ภาพถ่ายของช่างภาพหรืออเจนซี่โฆษณา ซึ่งหลังเปิดตัวบริการดังกล่าวได้ไม่นาน ก็ส่งผลให้หุ่นบริษัท Kodak พุ่งสูงราว ๆ 120% กันเลย และปิดตลาดไปที่ 6.80 เหรียญฯ สำหรับ KodakOne จะใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลดิจิตอลต่าง ๆ ส่วน KODAKCoin ก็จะเป็นตัวกลางทางการเงินให้กับช่างภาพหรือคนในวงการถ่ายภาพนั้นเอง ส่วนผลตอบแทนจากการขุดยังไม่การันตีนะเออ

10.ชิปประมวลผลจาก Intel + AMD

ปิดท้ายด้วย “Intel Core 8th and RX Vega M” จากกรณีที่สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการผลิตชิปประมวลผลอย่าง Intel และ AMD หันมาจับมือกัน เปิดตัวชุดประมวลผลที่ภายในมีทั้งชิป Intel Core กับการ์ดจอ RX Vega M ในร่างเดียว ซึ่งช่วยทำให้โน๊ตบุ๊คกับ Mini PC สมัยใหม่ มีสเปกที่แรงขึ้น แม้จะมีร่างที่บางเบาก็ตาม ในงาน CES 2018 เอง ก็มีเปิดตัวอุปกรณ์ที่มาพร้อมชิปเซ็ตดังกล่าวด้วย เช่น Del XPS 15 2-in-1 กับ Intel Hades Canyon NUC ที่เป็น Mini PC สเปกเกมมิ่ง

สำหรับงาน CES ปีนี้ อาจไม่ค่อยเห็นพวกโน๊ตบุ๊คมากนัก ส่วนมากจะเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเดิม แต่อัพเกรดซีพียูมากกว่า โดรนไม่มีให้เห็น สมาร์ทโฟนก็เปิดตัวน้อยนิด (แต่มีกรณี Vivo แอบโชว์สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมตัวสแกนลายนิ้วมือบนจอ ที่น่าสนใจอยู่) โดยรวมเหมือนเป็นภาคต่อของงาน CES 2017 ปีที่แล้ว ตอนนั้นก็เปิดตัวอุปกรณ์อัจฉริยะมากมายเหมือนกัน ส่วนทีวีก็มีเกริ่น ๆ ว่าจะเปิดตัวรุ่นที่มีความคมชัดยิ่งขึ้น และบางลงกว่าเดิม ซึ่งก็มาต่อในปีนี้เลย ทว่าส่วนมากยังเป็น Prototype ต้องรอเปิดตัวจริง ๆ ภายในปีนี้กันต่อ ถ้าถามว่าอะไรเป็นที่สุดของงาน CES 2018 ครั้งนี้ ผมก็ขอยกเป็น Toyota e-Palette ละกันครับ