[ในไทยก็มี] หนึ่งในกลโกงที่ยังแพร่ระบาดจนปัจจุบัน ก็คือการส่ง SMS ปลอมที่แนบลิงค์ URL อันตราย จนนำไปสู่การหลอกให้โอนเงิน หรือติดตั้งแอปฯ อันตรายเพื่อดูดเงินภายหลัง สาเหตุก็มาจากการแอบตั้ง ‘เสาสัญญาณปลอม’ ที่วางในจุดที่มีคนจำนวนมาก ล่าสุดกลายเป็นอุปกรณ์พกพาแล้ว โดยติดในรถยนต์หรือใส่ในกระเป๋าเป้ และเริ่มระบาดไปทั่วโลก
ย้อนกลับไปเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางตำรวจไซเบอร์แห่งประไทยร่วมกับ AIS แถลงข่าวจับกุม 2 หนุ่มคนไทย แอบซุกซ่อนอุปกรณ์ False Base Station (FBS) หรือเครื่องจำลองสถานีเครือข่ายมือถือ ตระเวนส่ง SMS ปลอมหรือ SMS Blaster ที่แนบลิงก์หลอกลวงไปยังประชาชน โดยตัวการใหญ่คือแก๊งจีนเทา ที่จ้างให้ขับรถซุกซ่อนอุปกรณ์ดังกล่าวไปทั่วกรุงเทพฯ
ล่าสุดทาง Enea บริษัทโทรคมนาคมและความปลอดภัยทางไซเบอร์จากโปแลนด์ พบเผยกลโกงดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยทาง Cathal McDaid รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ Enea กล่าวเลยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นกลุ่มอาชญากร ใช้อุปกรณ์ส่งสัญญาณวิทยุเคลื่อนที่ในวงกว้าง” โดยคนร้ายก็ใช้เทคนิคแบบเดียวกับที่พบในประเทศไทยเลย
สำหรับเทคนิคดังกล่าว พบเห็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอเมริกาใต้ ในช่วงปีที่ผ่านมา จนทางศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน
ที่ประเทศอังกฤษ ก็มีรายงานว่าตำรวจได้ยึดอุปกรณ์ที่คล้ายกันนี้ถึง 7 เครื่อง โดยคนร้ายก็เป็นนักศึกษาชาวจีน ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 1 ปีกว่า ๆ ไปเรียบร้อย ทางด้านเจ้าหน้าที่ทั้งในประเทศไทย , เวียดนาม , ญี่ปุ่น , นิวซีแลนด์ , กาตาร์ , อินโดนีเซีย , โอมาน , บราซิล และฮ่องกง ก็มีรายงานเหตุการณ์ที่คล้ายกัน….เริ่มไปทั่วโลกแล้ว
มีข้อมูลน่าสนใจจากหน่วยในงานกรุงเทพฯ เผยตัวเสาสัญญาณปลอมเคลื่อนที่ได้นี้ บางเครื่องสามารถเข้าถึงมือถือได้ในระยะ 1,000 เมตร แถมเครื่องเดียวยังส่งข้อความ SMS ได้ถึง 100,000 ข้อความต่อชั่วโมง และมีการส่งข้อความถึงล้านครั้งภายในเวลาเพียง 3 วันด้วย
การทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้ ก็ใช้ประโยชน์จากคลื่นสัญญาณ 2G ที่มีความปลอดภัยน้อยกว่า 4G หรือ 5G มาก ทำให้ส่งข้อความได้ง่ายขึ้น จนทาง Google มีแนะนำให้ปิดสัญญาณ 2G เพื่อป้องกัน SMS หลอกลวงนี้โดยเฉพาะเลย ส่วนตัวเครื่องที่ใช้ยิง SMS ปลอมนี้ ก็พบขายในร้านออนไลน์บางแห่ง ซึ่งมีราคาประมาณ 3 หมื่นบาทเท่านั้น
อาจเรียกได้ว่าเป็น จุดเริ่มต้นของเกมแมวไล่จับหนูครั้งใหม่ มีแนวโน้มว่าการก่อเหตุลักษณะนี้อาจมีมากขึ้น และลามไปทั่วโลกด้วย สุดท้ายฝั่งผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็จำเป็นต้องตื่นตัวในการป้องกันให้มากขึ้นเอง (ไม่กดลิงค์ URL ใน SMS เป็นพอ) การพึ่งพาแค่การป้องกันระดับเครือข่ายนั้น อาจไม่เพียงพออีกต่อไป
ที่มา : Techspot
