มีข้อมูลว่า Chrome เร็วขึ้น กว่าที่เคยอย่างเห็นได้ชัด โดย Google ได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการอัปเดตเบราว์เซอร์ครั้งใหญ่ ทำให้ Chrome สามารถทำลายสถิติความเร็วบนโปรแกรมทดสอบมาตรฐานอย่าง Speedometer 3.0 ได้สำเร็จ ถือเป็นเวอร์ชันที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แต่ในขณะที่ผู้ใช้กำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ลื่นไหลขึ้น คำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ… แล้วปัญหาการใช้ RAM ที่หนักหน่วงล่ะ หายไปแล้วหรือยัง?
เจาะลึกเบื้องหลัง ทำไม Chrome เร็วขึ้น?
การที่ Chrome เร็วขึ้น ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่มาจากการปรับปรุงทางเทคนิคครั้งสำคัญหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- การปรับปรุง Engine หลัก โดย พัฒนา Blink Rendering Engine ซึ่งเป็นหัวใจของการแสดงผลหน้าเว็บให้ทำงานฉับไวกว่าเดิม
- การจัดการหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพ มีการปรับโครงสร้างการใช้หน่วยความจำใหม่ ทำให้การเรียกใช้ข้อมูลเร็วขึ้น
- ใช้อัลกอริทึมใหม่ๆ ในการจัดการข้อมูลประเภทข้อความและสคริปต์ต่างๆ
การอัปเดตเหล่านี้ส่งผลโดยตรงให้การเปิดเว็บไซต์, การตอบสนองของเว็บแอปพลิเคชัน, และการโหลดเนื้อหาต่างๆ ทำได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิมประมาณ 10% เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า
ความเร็วที่ต้องแลก เมื่อ Chrome เร็วขึ้น แต่ยังคงกิน RAM
แม้ว่า Chrome เร็วขึ้น จะเป็นข่าวดี แต่เงาที่ยังคงติดตามมาคือชื่อเสียงในฐานะจอมสูบ RAM ซึ่งดูเหมือนว่าปัญหานี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขครับ
ผู้ใช้จำนวนมากยังคงรายงานผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Reddit ว่าถึงแม้จะรู้สึกได้ถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อเปิดหลายแท็บหรือใช้งานส่วนขยาย กลับพบว่า Chrome ยังคงสูบ RAM ในปริมาณมหาศาลเช่นเคย บางกรณีพบว่าแค่แท็บเดียวก็ใช้ RAM ไปหลายกิ๊ก
เมื่อความเร็วไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
การที่ Chrome เร็วขึ้น อาจไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผู้ใช้เลือกเบราว์เซอร์ สำหรับคนที่ต้องใช้กับคอมสเปคต่ำ หรือต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เบราว์เซอร์อื่น ๆ Mozilla Firefox และ Brave ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะขึ้นชื่อเรื่องการประหยัด RAM และมีฟีเจอร์บล็อกโฆษณาที่โครตจะดี
ที่มา