เปิดตัว Huawei Mate 20 Pro สมาร์ทโฟนอัจฉริยะแห่งปี กับกล้องหลัง 3 ตัวที่ทรงพลัง

Huawei ประกาศเปิดตัว Huawei Mate 20 Series ใหม่ 4 รุ่น ชูโรงด้วย Huawei Mate 20 Pro สมาร์ทโฟนอัจฉริยะแห่งปี AI ฉลาดรอบด้าน กับกล้องหลัง 3 ตัวที่ทรงพลัง ถ่ายภาพได้ทุกสถานการณ์

สิ้นสุดการรอคอย หลังมีข่าวลือมาพักใหญ่ ในที่สุดทาง Huawei ก็ประกาศเปิดตัว Mate Series รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยรอบนี้มีถึง 4 รุ่นด้วยกันอาทิ Huawei Mate 20, Huawei Mate 20 Pro, Huawei Mate 20 X และ PORSCHE DESIGN HUAWEI Mate 20 RS 

ทั้งหมดมาพร้อมจุดเด่นอย่างเดียวกันคือ หน่วยประมวลผล Kirin 980 พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ ที่ฉลาดล้ำขึ้นมากด้วย Dual NPU มี Huawei SuperCharge ระบบชาร์จไว 40W กับชาร์จไร้สาย 15W การออกแบบฝาหลังตัวเครื่องแบบ Hyper Optical Pattern สะท้อนแสงพร้อมไล่สีสันได้สวยงาม และสุดท้ายกล้องหลัง 3 ตัว ดีไซน์แบบ Four-Point จาก Leica Matrix Camera System ที่ได้ทาง Leica มาช่วยพัฒนา

สำหรับหลักในซีรีย์นี้อย่าง Huawei Mate 20 Pro เริ่มจากดีไซน์ อาจเรียกได้ว่าตรงตามภาพหลุดแบบเป๊ะ ๆ จุดที่สะดุดตาสุด ก็ไม่พ้นฝาหลังแบบ Hyper Optical Pattern โดยภายในมีขอบโค้งแบบ 8-Edge Curved ด้วย ทำให้ตัวเครื่องมีความโค้งมนสวยงามดูมีมิติยิ่งขึ้น (มาพร้อมสีใหม่อย่าง Emerald Green) ส่วนด้านหน้ามีรอยบากที่ฝังลำโพงกับกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล ตามสมัยนิยม พร้อมที่สแกนลายนิ้วตรงหน้าจอสัมผัส และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าแบบ 3 มิติ สามารถสแกนใบหน้าได้อย่างแม่นยำ และช่วยให้ถ่ายภาพใบหน้าได้สวยขึ้นด้วย

สำหรับ Huawei Mate 20 ที่เป็นรุ่นรองลงมา ด้านหลังก็เหมือนกับตัว Mate 20 Pro เพิ่มเติมคือที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง ส่วนด้านหน้ามีรอยบากทรงหยดน้ำ (คุ้น ๆ แฮะ) แทน ทั้งนี้ตัว Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ก็มาพร้อมจอ OLED ความละเอียด 2K+ (3120 x 1440) มีค่า DCI-P3 กับ 538 PPI ทั้งคู่ โดยตัว Huawei Mate 20 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ส่วน Mate 20 Pro มีขนาด 6.39 นิ้ว (เล็กกว่า Mate 20 เพราะมีรอยบากใหญ่กว่า)

ไฮไลท์เด็ดของ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ก็เป็นกล้องหลัง 3 ตัว 3 เลนส์ ที่ได้ทาง Leica มาช่วยพัฒนา จนมีชื่อเท่ ๆ ว่า Leica Matrix Camera System มีดีไซน์เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบ Four-Point โดยยัดไฟแฟลช LED เข้ามาหนึ่งเพื่อความสมมาตร

ส่วนสเปกกล้องทั้ง 3 ตัวนั้น ในรุ่น Mate 20 Pro จะมีกล้องหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ Wide Angle ขนาด 27 mm พร้อมรูรับแสง f/1.8 กับมีเลนส์ Ultra Wide ขนาด 16 mm ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.2 จาก Leica ทำให้สามารถถ่ายภาพวัตถุที่มีระยะใกล้กับเลนส์กล้องถึง 2.5 เซนติเมตรได้ (มาโครชั้นเยี่ยมเลย) และถ่ายภาพมุมมกว้างได้เต็มตา สุดท้ายเลนส์ตัวที่ 3 อย่างเลนส์ Tele หรือเลนส์ซูม ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.4 ตรงนี้ทาง Huawei เคลมเลยว่า สามารถถ่ายภาพได้ระยะเทียบเท่าเลนส์ซูม 16-270 mm. กันเลย

ต่อไปลองมาดูความขั้นเทพของ AI ใน Huawei Mate 20 Series กัน เริ่มจาก AI Portrait Color สามารถตรวจจับว่าจุดใดคือมนุษย์และปรับแต่งแสงเพื่อไฮไลท์บุคคลนั้น ๆ ในคลิปวิดีโอได้ และมี AI Spotlight Reel สามารถตรวจจับคลิปที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน และสร้างคลิปไฮไลท์สั้น ๆ ให้โดยอัตโนมัติได้อีกด้วย

ตัว Huawei Mate 20 Series มาพร้อม EMUI 9.0 บนระบบปฏิบัติการ Android P ภายในมี AI self-learning algorithms ช่วยเพิ่มประสบการณ์ “Evergreen” หนึ่งในนั้นคือ ตรวจจับวัตถุหรือการนับแคลอรี่ของอาหารจากการตรวจจับภาพอาหาร !!

ทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากอานิสงค์ของ Kirin 980 นี้เอง โดยเป็นชิปประมวลผลแรกของโลก ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมการผลิตแบบ 7 นาโนเมตร ช่วยให้มีประสิทธิภาพ CPU สูงขึ้นถึง 75% แต่ใช้พลังงานน้อยลง 58% ประสิทธิภาพชิป GPU สูงขึ้น 46% ใช้พลังงานน้อยลงถึง 178% และยังมีชิปเซ็ตประมวลผลด้าน AI แบบคู่ (Dual NPU) ตัวแรกของโลกอีกด้วย ส่งผลให้ AI ในอุปกรณ์มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น และทำให้ NPU มีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 226% กับใช้พลังงานน้อยลง 182%

แบตฯ ขนาด 4,000 mAh ใน Mate 20 และขนาด 4,200 mAh Mate 20 Pro สามารถใช้งานได้ทั้งวัน พร้อมมีระบบชาร์จไว Huawei SuperCharge เคลมว่าชาร์จได้ 70% ของความจุแบตเตอรี่ หรือประมาณ 2,940 mAh ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

สุดท้ายนี้ตัว Huawei Mate 20 และ Huawei Mate 20 Pro จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ตุลาคมนี้เลย (บ้านเราก็เร็ว ๆ นี้) ส่วนราคาและสเปกแรมกับความจุกับแบ่งตามนี้ครับ

HUAWEI Mate 20 

  • รุ่นแรม 4GB ความจุ 128GB ราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 30,100 บาท
  • รุ่นแรม 6GB ความจุ 128GB ราคา 849 ยูโร หรือประมาณ 32,000 บาท

HUAWEI Mate 20 Pro 

  • รุ่นแรม 6GB ความจุ 128GB ราคา 1,049 ยูโร หรือประมาณ 40,000 บาท

และขอแนะนำ PORSCHE DESIGN Huawei Mate 20 RS วางจำหน่าย 16 พฤศจิกายน 61

  • รุ่นแรม 8GB ความจุ 256GB ราคา 1,695 ยูโร หรือประมาณ 67,800 บาท..
  • รุ่นแรม 8GB ความจุ 512GB ราคา 2,095 ยูโร หรือประมาณ 79,000 บาท…

ที่มา : HuaweiConsumer