AI ช่วยวิเคราะห์หุ้น : Innovation Impact

ทุกวันนี้มีคนไทยเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เข้าใจเรื่องการลงทุน ในขณะที่ 90 เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้จักวางแผนการเงิน และแทบจะไม่มีเงินพอใช้หลังเกษียณ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการรวมตัวของคนรุ่นใหม่สายเทคโนโลยี ในชื่อ จิตตะ (Jitta) ที่มองว่า เทคโนโลยีสามารถช่วยเปลี่ยนวินัยการออม และลงทุนที่หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยาก ให้เข้าถึงได้ด้วยนวัตกรรม

ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO และผู้ก่อตั้ง บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด บอกว่า จิตตะเริ่มพัฒนานวัตกรรมสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยเทคโนโลยี ด้วยบริการลงทุนแบบคุณค่า โดยเริ่มพัฒนาระบบการลงทุน จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมหุ้นที่มีมากกว่า 50,000 ตัว ช่วยปรับพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละคน

 

ด้วยความตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินได้ด้วยวิธีที่ง่ายขึ้น

ถ้าเราสามารถเอาเทคโนโลยีมาช่วยตรงนี้ได้ มันก็น่าจะทำให้คนโดยรวมมีความมั่งคั่งสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นตราวุทธิ์ กล่าว

การลงทุนที่เคยเป็นเรื่องยาก ทำได้ง่ายขึ้นโดยเปิดให้นักลงทุนเข้าถึงบริการได้ผ่านเว็บไซต์ jitta.com หรือ mobile application ที่ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์หุ้นทั้งโลก จากข้อมูลงบการเงิน 10 ปีย้อนหลังเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกหุ้นและก็ลงทุนด้วยตัวเอง รวมถึงจิตตะ เวลธ์ (Jitta Wealth) ระบบบริหารจัดการพอร์ตลงทุนอัตโนมัติ สำหรับนักลงทุนที่อยากลงทุนแต่ไม่มีเวลาติดตามหรือเลือกซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง

 

ข้อดีอีกอย่างของการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มทางการเงิน คือช่วยลดค่าธรรมเนียม และเพิ่มช่องทางการลงทุน ETFs ได้ ด้วยระบบ Micro-Investing รวมถึงสามารถสร้างบัญชีซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้นจากระบบการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) โดยไม่ต้องมีเอกสาร ทำให้การอนุมัติบัญชีรวดเร็วขึ้นภายใน 1 วัน 

จากความตั้งใจแรก เกิดเป็นนวัตกรรม Jitta Stock Analysis แพลตฟอร์มช่วยวิเคราะห์หุ้นจากทั่วโลกให้กับนักลงทุนได้ใช้ประโยชน์ จนกลายมาเป็น JittaWealth ระบบบริหารจัดการพอร์ทลงทุนได้แบบอัตโนมัติ 

จิตตะ นับเป็น Startup รุ่นบุกเบิกของไทย ที่เริ่มพัฒนานวัตกรรมการเงิน (FINTECH) มากว่า 13 ปีจนทำให้นวัตกรรมเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก โดยมีแผนธุรกิจในการที่สร้างรายได้ค่อนข้างชัด 

อีกทั้งเป็นหนึ่งในธุรกิจนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ตั้งแต่เริ่มต้นทำสตาร์ทอัพ มาจนถึงโครงการมั่งคั่งด้วยเทคโนโลยี ที่เปิดให้สตาร์ทอัพได้นำพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองโดยได้รับเงินทุนสนับสนุน รวมถึงให้คำปรึกษาทั้งด้านการพัฒนานวัตกรรม และขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ในอนาคต

พรทิพย์ กองชุน ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด บอกว่า ในมุมของนวัตกรรมการเงินการลงทุน ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Jiita card นวัตกรรมที่เข้าช่วยเรื่องการออมเงิน ที่ใช้ซื้อขายได้เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป แต่ทุกการใช้จ่ายจะถูกเปลี่ยนเป็นมีการออมเงินเพื่อใช้ในการลงทุนให้อัตโนมัติ


เราพยายามพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์แล้วก็ความต้องการของคนไทย ซึ่งเทคโนโลยีพอได้ใช้แล้วเกิดประโยชน์ ก็จะทำให้คนไทยจะมีเงินออม มีเงินลงทุน และมีความมั่นคงทางการเงินได้มากขึ้น พรทิพย์กล่าว และย้ำว่า 

จากเป้าหมายระยะสั้น สู่ความท้าทายในอนาคตที่ไกลออกไป จิตตะ ตั้งเป้าที่จะเป็นสตาร์ทอัพไทยที่สามารถนำเทคโนโลยีที่ผลิตในประเทศออกไปให้กับคนทั่วโลกได้ใช้ประโยชน์ และพูดได้อย่างเต็มปากว่า จิตตะ คือผู้สร้างนวัตกรรมจากประเทศไทย 

โครงการมั่งคั่งด้วยเทคโนโลยี โดยบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จํากัด ช่วยสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาด โดยพิสูจน์จากผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ที่สามารถทํากําไรได้ถึง 22.89 เปอร์เซ็นต์ เปลี่ยนโลกได้ด้วยนวัตกรรมทางการเงิน โดยสร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมได้ถึง 100,000 ล้านบาท

มาร่วมกันหาคำตอบว่า ผลงานนวัตกรรมจะเปลี่ยนโลกได้อย่างไรในรายการ Innovation Impact ได้ทาง PPTV HD 36 รายการโชว์ข่าวเช้านี้ เวลา 08.20 – 09.30 น. และช่องทางโซเชียลมีเดียของ Techhub