NocNoc กางแผนปี 67 มุ่งทำธุรกิจ Omni-channel เน้นใช้ AI และ เทคโนโลยี สร้างประสบการณ์ลูกค้ามากขึ้น

NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 100% โดยปัจจัยหลักมาจากการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มต่าง ๆ ได้กว้างและลึกมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยเฉพาะออนไลน์

สำหรับปี 2567 NocNoc ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 40% หรือคิดเป็น 6,500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่ Home and Living Destination อย่างเต็มตัวด้วย AI และ Platform Technology ชู Home Solution เสริมทัพความครบครันแบบ One Stop Service ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การเลือกซื้อสินค้า การบริการติดตั้งและการดูแลรักษา ในทุกพื้นที่การใช้ชีวิตด้วยประสบการณ์พิเศษเฉพาะตัวของลูกค้า (Personalized Experience)

นางชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ NocNoc ในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งด้วยการมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 100% โดยปัจจัยหลักมาจากการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ได้กว้างและลึกมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยเฉพาะออนไลน์

NocNoc เริ่มต้นจากการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการอยู่อาศัย ในปี 2562 ด้วยความเชื่อว่ามาร์เก็ตเพลสเป็นโมเดลที่จะช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายได้มาพบเจอกัน โดยลูกค้าสามารถเลือกสินค้าและบริการเรื่องบ้านเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อยากจะมีบ้านที่ฝันได้จริง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ก็จะสามารถพบกับลูกค้าที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการของตัวเองได้

ในปีนี้ NocNocมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นในการเป็น Home and Living Destination ที่พร้อมจะช่วยให้ทุกคนในอาเซียน เติมเต็มทุกพื้นที่ในการใช้ชีวิตได้อย่างที่ฝัน ด้วยการช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การหาไอเดีย การเลือกสินค้าและบริการที่ตรงใจ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในแต่ละไลฟ์สไตล์

ด้าน นายอนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ ของ NocNoc  กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของ NocNoc ในปี 2567 จะมุ่งสู่การทำการตลาดแบบ Personalized Experience หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบเฉพาะตัว ซึ่งยังคงยึดลูกค้าเป็นหลักในการทำธุรกิจ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของ NocNoc เป็นกลุ่มที่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก มีอายุระหว่าง 25-45 ปี แต่ในขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าตามหัวเมืองใหญ่ของไทย ก็มีศักยภาพเช่นเดียวกัน เห็นได้จากการเติบโตของภาคธุรกิจที่ขยายตัวไปยังหัวเมืองต่างๆ ในทุกปี ทำให้เกิดดีมานด์เพิ่มขึ้น

NocNoc ปิดปี 2566 โต 100% ตั้งเป้า 6,500 ล้านบาทในปี 2567

NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 100% โดยปัจจัยหลักมาจากการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ได้กว้างและลึกมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยเฉพาะออนไลน์

สำหรับปี 2567 NocNoc ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 40% หรือคิดเป็น 6,500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าทรานส์ฟอร์มสู่ Home and Living Destination อย่างเต็มตัวด้วย AI และ Platform Technology ชู Home Solution เสริมทัพความครบครันแบบ One Stop Service ตั้งแต่การสร้างแรงบันดาลใจ การเลือกซื้อสินค้า การบริการติดตั้งและการดูแลรักษา ในทุกพื้นที่การใช้ชีวิตด้วยประสบการณ์พิเศษเฉพาะตัวของลูกค้า (Personalized Experience)

กลยุทธ์หลักของ NocNoc ในปี 2567

  • Personalized Experience มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบเฉพาะตัว ยึดลูกค้าเป็นหลักในการทำธุรกิจ เน้นการเข้าถึงลูกค้าในทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
  • Home Solution บริการที่ปรึกษาสำหรับคนรักบ้าน แนะนำสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับความต้องการ พร้อมบริการงานช่าง และการันตีทุกงานบริการ
  • Expansion to B2B ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ B2B (Business-to-business) เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจ
  • Expansion of product categories ขยายหมวดหมู่สินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการรีโนเวทหรือปรับปรุงที่พักอาศัย

NocNoc พยายามที่จะสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจให้กับสินค้าเรื่องบ้านที่มีอยู่ผ่าน Inspiration and Idea โดยเฉพาะในเรื่องของการนำสินค้าเรื่องบ้านมาจัดแสดงในรูปแบบต่างๆ (Roomscene InspiREALtion) เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพว่าหากซื้อสินค้าเหล่านี้แล้วจะถูกจัดวางในบ้านของตัวเองอย่างไร เพราะ NocNoc อยากให้การซื้อสินค้าแต่ละครั้งของลูกค้ามาจากความต้องการอย่างแท้จริง หรือมองเห็นแล้วว่าไอเดียการจัดวางบ้านแบบไหนที่ตัวเองชอบ หรือเหมาะกับการตกแต่งบ้านของตัวเองมากที่สุด รวมถึงการเดินหน้าขยายช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าและบริการเรื่องบ้านได้หลากหลายมากขึ้นจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ (Omni Channel) ผ่านงาน NocNoc Fair และ Pop-up Store เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริง ทั้งยังได้ไอเดียของการตกแต่งบ้านจากงานดังกล่าวทางหนึ่งด้วย

“ที่ผ่านมา Nocnoc อาจประสบความสำเร็จในออนไลน์เป็นอย่างมาก แต่พอหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ผู้คนต่างกลับเข้ามาใช้ชีวิตออฟไลน์กันมากขึ้น ทำให้ NocNoc ต้องเข้าถึงลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งเหมาะกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าในกลุ่ม Home and Living และยังเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยให้ NocNoc สามารถสร้างแบรนด์ได้อย่างเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้นด้วย

และเพื่อตอกย้ำการเป็น Home and Living Destination ที่ช่วยให้ทุกเรื่องของการอยู่อาสัย กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกๆ คน และตอบโจทย์ทุกสเตจพื้นที่การใช้ชีวิตของลูกค้าตั้งแต่การหาไอเดีย ซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้าน รวมถึงรีโนเวทบ้านแบบครบจบที่เรา Home Solution จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ไฮไลต์ที่ถูกผลักดันเพื่อเสริมแกร่งมากยิ่งขึ้นในปี 2567 นี้ ที่ผ่านมา NocNoc มีสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับบ้านที่หลากหลายอยู่แล้ว แต่ปีนี้จะมีการเพิ่มบริการที่ปรึกษาสำหรับคนรักบ้าน ด้วยเหตุที่ว่าอาจจะมีลูกค้าบางกลุ่มยังไม่รู้ว่าต้องหาสินค้าแต่งบ้านให้เหมาะกับบ้านได้อย่างไร หรืออยากได้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ช่วยเลือกสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่ง Home Solution จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในส่วนนี้ และไม่ใช่เพียงแค่แนะนำสินค้าเรื่องบ้านเท่านั้น แต่ยังนำเสนอไอเดีย ดีไซน์ในการออกแบบบ้าน พร้อมบริการงานช่าง และการันตีทุกงานบริการให้ลูกค้าแบบ One Stop Service อีกด้วย

การขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ B2B (Business-to-business) เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจทั้งรายย่อยและรายใหญ่ให้ได้สินค้าและบริการตกแต่งธุรกิจตามความต้องการในสไตล์ที่ใช่ แบบ One Stop Service และการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการค้า ทำให้ในปี 2567 NocNoc จะสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ Online to offline ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่าน NocNoc for Business ทั้งให้ความรู้ และช่วยนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจ (Business Solution) ทั้งการออกแบบ การเลือกสินค้าและบริการให้เหมาะกับการเปิดร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และออฟฟิศ ต่างๆ รวมทั้งการดึงผู้ขายที่เป็นพาร์ทเนอร์เข้าร่วมทำโปรโมชั่นพิเศษในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีแก่ผู้ขายและกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งมีแผนที่จะไปทั้งหมด 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต โคราช ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และระยอง

ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าช่วงหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 สิ้นสุด ผู้บริโภคไม่ได้ใช้ชีวิตแค่เพียงที่พักอาศัยหรือบ้านของตัวเองอีกต่อไป แต่ยังไปทำกิจกรรมอื่นนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปออกกำลังกาย เข้าร้านกาแฟ หรือแม้แต่เดินทางท่องเที่ยว ทำให้หมวดสินค้าที่เกี่ยวเนื่องเหล่านี้เติบโต NocNoc จึงขยายสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดในแต่ละช่วงมากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีสินค้ามากกว่า 600,000 รายการ พันธมิตรร้านค้าอีกกว่า 6,000 รายแล้ว แต่ก็มองว่ายังมีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการรีโนเวทหรือปรับปรุงที่พักอาศัย รวมถึงกลุ่มอื่นๆ อาทิ สินค้าสำหรับแม่และเด็ก
ที่ได้เริ่มเข้ามาเติมเต็มแล้ว และกลุ่มสัตว์เลี้ยงที่เป็นเทรนด์เติบโตมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเติมเต็มสินค้าอื่นๆ เข้ามาเพิ่มจะช่วยเพิ่มการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มได้ เดิมทีลูกค้าอาจจะตั้งใจมาซื้อแค่เฟอร์นิเจอร์ แต่พอเห็นสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ด้วย ก็จะซื้อสินค้าในหมวดอื่นๆ ช่วยให้มีประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ดีขึ้น ครบทุกความต้องการเรื่องบ้านและการใช้ชีวิต “โจทย์ของ NocNoc คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เพราะการตกแต่งบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ และความต้องการ ซึ่งการมีสินค้าและบริการที่ครบจบในที่เดียว จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของ NocNoc ซ้ำอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากเปิดเกมบุกการทำตลาดแบบ Personalized Experience ขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดแถบหัวเมืองใหญ่มากขึ้น ขยายหมวดหมู่สินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งผ่าน Home Solution แล้วก็มั่นใจว่าในปี 2567 นี้ NocNoc จะมียอดขายเติบโตขึ้น 40% หรือคิดเป็น 6,500 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมตลาดมาร์เก็ตเพลสและช่องทางค้าปลีกดั้งเดิม
และพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มสู่ Home and Living Destination ได้อย่างแท้จริง