[คำสั่งตรง] ย้อนกลับไปเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย เชนบาม ได้กล่าวเตือน Google หลังเปลี่ยนชื่อ’อ่าวเม็กซิโก’ เป็น ‘อ่าวอเมริกา’ จากคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ล่าสุดทางรัฐบาลเม็กซิโกได้ยื่นฟ้องบริษัท Google เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฐานเปลี่ยนชื่อ “อ่าวเม็กซิโก” (Gulf of Mexico) เป็น “อ่าวอเมริกา” (Gulf of America) โดยผู้ใช้ Google Maps ในสหรัฐฯ จะพบเห็นชื่อที่ถูกเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนผู้ใช้ประเทศอื่นจะเห็นเป็นชื่อ (อ่าวอเมริกา) ต่อท้ายชื่อเดิม
ทั้งนี้ในตอนที่เม็กซิโกได้คำเตือนไปยัง Google ถึงกรณีดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ กลับได้รับคำตอบจาก Cris Turner รองประธานฝ่ายนโยบายรัฐบาลของ Google ว่าทางบริษัทไม่มีแผนจะเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย เชนบาม ได้ขู่จะดำเนินคดีอย่างจริงจัง
“อ่าวนี้ไม่ได้เป็นของสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียว”
ด้าน Google ก็ยืนยันเจตนาเดิม เผยการเปลี่ยนชื่อเป็นไปตามนโยบายที่มีมาอย่างยาวนานของบริษัท ซึ่งยึดตามชื่อที่รัฐบาลกำหนดให้กับสถานที่ทางภูมิศาสตร์อย่างเป็นทางการ แม้ทางเม็กซิโกจะให้เหตุผลว่า การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศ เนื่องจากอ่าวดังกล่าวแบ่งเขตอำนาจเป็น 49% ของเม็กซิโก และ 46% ของสหรัฐฯ และอีก 5% เป็นของคิวบา
“สิ่งที่เราต้องการคือให้สหรัฐฯ ปฏิบัติตามขอบเขตของพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น” ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย เชนบาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ทางสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ก็ได้กฎหมายรับรองนโยบายเปลี่ยนชื่อดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมกำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลกลาง ต้องอัปเดตชื่อในแผนที่ตามนโยบายใหม่นี้ด้วย
สำหรับคดีนี้ อาจสะท้อนถึงปัญหาซับซ้อนของอธิปไตยทางข้อมูล (Data Sovereignty) และอิทธิพลของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีข้ามชาติอย่าง Google ที่มีผลกระทบในระดับภูมิรัฐศาสตร์ และในฐานะบริษัทเอกชนอย่าง Google ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ถูกกดดันจากทั้งฝั่งรัฐบาลและประชาชน โดยเฉพาะเหล่าผู้ใช้ทั้งในสหรัฐฯ และเม็กซิโกนี้เอง
ที่มา : Techspot
