นูทานิคซ์เปิดตัวโซลูชั่น Remote IT เพื่อบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

ผู้นำด้านคลาวด์คอมพิวติ้งสำหรับองค์กร ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ทีมไอทีสามารถใช้งาน อัปเกรด และแก้ไขปัญหาที่เกิดกับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ อยู่ที่ใดก็สามารถทำงานได้ ไม่ว่าจะเป็นจากที่บ้านหรือจากสำนักงานใหญ่ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตเช่นโควิด-19 ที่การส่งบุคลากรเข้าพื้นที่ศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อปฏิบัติงานเป็นความท้าทายอย่างมาก โซลูชั่นทั้งหมดนี้ทำงานผ่าน Nutanix Foundation Central, Insights และ Lifecycle Manager (LCM) ซึ่งมีอยู่ในซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI) ของนูทานิคซ์ โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

แม้ว่าทีมไอทีจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้บริการโซลูชั่นการทำงานจากระยะไกลให้กับธุรกิจทั่วโลก ในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ตลอดเวลา เพราะการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอที การแก้ปัญหาต่าง ๆ และการอัปเดตซอฟต์แวร์ โดยมากต้องการให้ทีมไอทีเข้าทำงานที่ดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความท้าทายกับการที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม

นายเกร็ก สมิธ รองประธานฝ่ายเทคนิคและการตลาดผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ กล่าวว่า “นูทานิคซ์ก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการทำให้การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีเรียบง่าย ง่ายจนเสมือนไร้ตัวตน คุณสมบัติใหม่ ๆ เหล่านี้จะมอบประสบการณ์การทำงานที่ราบรื่นมากขึ้นตั้งแต่วันแรกและวันต่อ ๆ ไป

และสามารถทำงานได้จากทุกสถานที่ โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่บริหารจัดการง่าย ปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้นของนูทานิคซ์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานจากบ้านหรือสถานที่ห่างไกล เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”

โซลูชั่นเหล่านี้ของนูทานิคซ์จะช่วยให้ทีมไอทีสามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์จากระยะไกลได้ตลอดอายุการใช้งานของซอฟต์แวร์เหล่านี้

การใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบใหม่หรือแบบขยาย

การบริหารจัดการผ่านอินเทอร์เฟซของปริซึ่มใน Nutanix Foundation Central ช่วยให้ทีมไอทีสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานไพรเวทคลาวด์ในสเกลระดับโลกจากอินเทอร์เฟซเดียวและจากที่ใดก็ได้  หลังจากการติดตั้งอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกำหนดค่าใด ๆ อีกบนอุปกรณ์หรือบนเซิร์ฟเวอร์เรียบร้อยแล้ว Foundation Central จะทำอิมเมจและกำหนดค่าในโหนดต่าง ๆ ของนูทานิคซ์ และติดตั้งโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของนูทานิคซ์ทุกรายการ

นอกจากช่วยให้ใช้ซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานได้โดยอัตโนมัติและเป็นแบบรวมศูนย์แล้ว Foundation Central ยังช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ปรับขยายความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วได้อย่างง่ายดาย เพื่อก้าวให้ทันกับการเติบโตของธุรกิจ

การคาดการณ์สภาพระบบและการสนับสนุนอันชาญฉลาด

Nutanix Insights จะให้บริการในการคาดการณ์สถานะการทำงานและให้บริการสนับสนุนโดยอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงการทำงานด้านไอทีทั่วโลกให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น บริการใหม่นี้จะวิเคราะห์การทำงานจากระยะไกล จากการใช้งานคลาวด์ของลูกค้า รวมถึงคลัสเตอร์ทั้งหมด ตำแหน่ง และพื้นที่ใช้งาน เพื่อแยกแยะปัญหาที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น ที่อาจกระทบต่อความพร้อมใช้ของแอปพลิเคชั่นและข้อมูล

ทันทีที่ระบุปัญหาได้ Insights สามารถให้คำแนะนำอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อทำให้สถานะและประสิทธิภาพการทำงานของโครงสร้างพื้นฐานอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม  คำแนะนำเหล่านี้ได้มาจากแนวทางปฏิบัติด้าน
ไอทีที่ดีที่สุดที่ได้รับการยอมรับแล้ว รวมกับความรู้เชิงลึกที่นูทานิคซ์สั่งสมไว้จากการให้การสนับสนุนองค์กรมากกว่า 16,000 แห่งทั่วโลก

นอกจากนี้ บริการ Insights ยังสามารถเปิดใช้ระบบ support ticket โดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ด้วยการกำหนด Systems Reliability Engineer (SRE) และเลือกเก็บรวบรวมและอัปโหลด log files ของลูกค้าที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการวิเคราะห์ได้โดยไม่ต้องใช้คนลงมือทำ ข้อมูลภายในเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า Insights ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาได้ประมาณ 30% โดยไม่ต้องเปิดบริการ support ticket ส่งผลให้มีเคสที่เกี่ยวกับสถานะการทำงานด้านไอทีและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลือน้อยลง

โอลิวิเยร์ มัสโซนี วิศวกรระบบของ Compass Group France กล่าวว่า “การไม่ต้องเปิดใช้บริการ support ticket เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่การที่เราสามารถรับทราบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และทราบวิธีการแก้ไขเป็นสิ่งที่ดีมาก ซึ่งก็คือหลักคิดเดียวกันกับการอัปเกรดได้ในคลิกเดียวซึ่งเป็นประโยชน์มาก”

อัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานเพียงคลิกเดียวโดยไม่ต้องรบกวนการดำเนินงาน

การอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทวีความซับซ้อนและเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย  การบรรเทาปัญหาการหยุดทำงานของแอปพลิเคชั่นสำคัญ ๆ ที่ต้องการการวางแผน การทดสอบ และการทำงานนอกเวลา ทำให้กระบวนการอัปเดตมีค่าใช้จ่ายสูง
จึงส่งผลให้ทีมไอทีมักจะชะลอการอัปเกรดที่จำเป็นออกไป ซึ่งเป็นการเปิดช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยตามมา

Nutanix Lifecycle Manager (LCM) ช่วยให้การอัปเกรดซอฟต์แวร์สแต็กของนูทานิคซ์ รวมถึงเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำได้อย่างราบรื่นเพียงคลิกเดียว โดยไม่มีการหยุดชะงักการทำงานของแอปพลิเคชั่นหรือโครงสร้างพื้นฐาน  LCM สามารถระบุที่อยู่ของซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์ได้โดยอัตโนมัติ ทำการอัปเดตตามลำดับความสำคัญได้อย่างชาญฉลาด และทำให้กระบวนการอัปเกรดทั้งหมดสอดคล้องกันทั้งระบบ
ขจัดการคาดเดา และทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีมีความปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น  นอกจากนี้ LCM
ยังสามารถบริหารจัดการสภาพแวดล้อมของนูทานิคซ์ทั่วโลกจากที่ใดก็ได้ เหมือนกับโซลูชั่นอื่น ๆ ของ
นูทานิคซ์

นายทอดด์ เบอร์ริส วิศวกรระบบบของ NetDocuments ซึ่งเป็นผู้นำด้านบริการคอนเท้นต์ และแพลตฟอร์มกล่าวว่า “NetDocuments มีดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้ให้บริการลูกค้าทั่วโลก 12 แห่ง ดังนั้น ความเรียบง่าย ความยืดหยุ่น และความสามารถในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีจากระยะไกลจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
นูทานิคซ์มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการทั้งหมด และช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจกับบริการของเรา  Foundation Central และ LCM เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เราสามารถใช้บริหารจัดการและแก้ไขปัญหาได้จากระยะไกล”

นอกจากจะมอบประสบการณ์การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้จากระยะไกลแล้ว ซอฟต์แวร์ของ
นูทานิคซ์ยังเป็นโซลูชั่นที่ปลอดภัย มีความยืดหยุ่น และสามารถใช้งานบนไพรเวทคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย และยังได้รับรางวัล Top Rated Award 2020 จาก TrustRadius ด้าน Server Virtualization และ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ด้วยคะแนน 9.1 จากคะแนนเต็ม 10 จากการรีวิวที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว 125 รีวิว

Nutanix Foundation Central พร้อมให้บริการลูกค้าแล้ว สำหรับ Nutanix Insights และ LCM อยู่ระหว่างการพัฒนา กรุณาเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นของนูทานิคซ์ได้ที่นี่