แม้จะมีเสียงเตือนหนาหูว่าฟองสบู่ AI อาจจะกำลังแตก แต่ดูเหมือนเหล่าผู้บริหารระดับสูงจะไม่หวั่นไหว ผลสำรวจล่าสุดชี้ชัดว่า CEO ส่วนใหญ่ยังคงเดินหน้า ลงทุน AI อย่างหนักในปี 2026 แม้จะยังมองไม่เห็นจุดคุ้มทุนในเร็วๆ นี้ก็ตาม
CEO ยังเชื่อมั่น แม้ผลลัพธ์ยังไม่ปัง โดย Teneo ได้สำรวจ CEO กว่า 350 คนจากบริษัทที่มีรายได้ระดับพันล้านดอลลาร์ พบข้อมูลที่น่าสนใจคือ
– 68% ของ CEO วางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณ ลงทุน AI ในองค์กรสำหรับปี 2026 แต่ในความเป็นจริง มีโครงการไม่ถึงครึ่ง ที่ทำกำไรหรือคืนทุนได้จริง
– การใช้งาน AI ที่ได้ผลดีที่สุดยังคงเป็นงานด้านการตลาด และงานบริการลูกค้า
– ส่วนงานที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง ด้านความปลอดภัย, กฎหมาย และ HR ยังคงเป็นเรื่องท้าทายในการนำ AI มาใช้
AI แย่งงานจริงหรือ? ตัวเลขกลับบอกตรงกันข้าม ท่ามกลางความกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ ผลสำรวจกลับชี้ให้เห็นแนวโน้มการจ้างงานที่สวนทาง ไม่ว่าจะเป็น
– 67% ของบริษัท คาดว่าจะเพิ่มตำแหน่งงานระดับเริ่มต้น (Entry-level)
– 58% ของผู้บริหาร มองว่าจะมีการจ้างงานในระดับหัวหน้างานเพิ่มขึ้น
ภาพรวมเศรษฐกิจและแรงกดดันจากนักลงทุน มุมมองต่อเศรษฐกิจโลกมีความแตกแยก บริษัทใหญ่มองโลกในแง่ร้าย มีเพียง 31% ที่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ต่างจากบริษัทขนาดเล็กที่ 80% ยังคงมองในแง่บวก โดยมีความกังวลหลักคือเรื่อง ภาษีการค้า และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ในขณะที่นักลงทุนสถาบันกว่า 53% คาดหวังว่าจะเห็นผลกำไรจาก AI ภายใน 6 เดือน แต่บริษัทขนาดยักษ์ใหญ่กลับมองความเป็นจริงว่า การลงทุน AI ต้องใช้เวลามากกว่านั้นจึงจะเห็นผลกำไร ดังเช่นกรณีของ OpenAI ที่นักวิเคราะห์จาก HSBC คาดว่าจะยังคงขาดทุนมหาศาลต่อไปอีกหลายปี
ถ้าอ่านจากข่าวนี้แล้วรู้สึกย้อนแย้ง ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะนี่คือภาพสะท้อนของ Panic Buy หรือการซื้อเพราะความกลัวในระดับองค์กร สำหรับ Techhub ผมมองเรื่องนี้ว่า
– FOMO คือตัวการหลัก การที่ CEO ยอมทุ่มเงินทั้งที่ยังไม่เห็น ROI ชัดเจน มันคืออาการ Fear Of Missing Out หรืออาการกลัวตกกระแส กลัวว่าถ้าไม่ทำตอนนี้ คู่แข่งทำแล้วเราจะตามไม่ทัน ยอมขาดทุนวันนี้ดีกว่าสูญพันธุ์ในวันหน้า
– หมดยุคตื่นเต้นกับ Chatbot เพราะผู้บริหารน่าจะเริ่ม ตาสว่าง กันมากขึ้น ช่วงแรกเราฮือฮากับ LLM ที่คุยเก่งเหมือนคน แต่พอเอามาใช้ในธุรกิจจริง มันไม่ได้เปลี่ยนโลกได้ทันทีขนาดนั้น การเอา AI ไปใช้ในงานหลังบ้าน หรือความปลอดภัย ยังเป็นเรื่องยากและเสี่ยงเกินกว่าจะปล่อยให้ AI คุมทั้งหมด
– ข่าวดีของคนทำงาน ที่น่าสนใจที่สุดคือตัวเลขการจ้างงาน มันตอกย้ำว่า AI ไม่ได้มาแทนคน แต่มาทำให้บริษัทต้องการคน ที่ใช้ AI เป็น หรือคนที่มาจัดการระบบพวกนี้มากขึ้น ดังนั้นปี 2026 ไม่ใช่ปีที่คนจะตกงานเพราะ AI แต่จะเป็นปีที่คนใช้ AI ไม่เป็น จะเริ่มอยู่ยากขึ้นครับ
ที่มา
https://www.techspot.com/news/110653-most-ceos-ready-spend-even-more-ai-2026.html








