[สต็อก GPU] ว่าด้วยอุปสรรคใหญ่ที่สุดต่อการเติบโตของ AI ในปัจจุบัน ไม่ใช่ชิปมันแพง หรือปัญหาการใช้งานอะไร หากแต่เป็น ‘พลังงาน’ ต่างหาก ที่ทาง Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft ได้ออกมายอมรับตรง ๆ ถึงขั้นที่บริษัทมีชิป AI คงเหลือในคลัง เพราะไม่มีไฟฟ้าให้ใช้งานมากพอ..
อาจเรียกได้ว่า “เป็นไปตามคาด” เมื่อพลังงานกลายเป็นความท้าทายสำคัญในโครงสร้างพื้นฐาน AI นับตั้งแต่ภาวะขาดแคลน GPU ทั่วโลกที่คลี่คลายไปแล้ว แต่ถัดมาก็กลายเป็นพลังงานที่ขาดหายไปแทน ระดับที่มีค่าไฟพุ่งสูงขึ้นถึง 36% ในที่อยู่อาศัยบางรัฐของสหรัฐฯ แล้ว
Satya Nadella ได้เผยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ใน “Bg2 Pod” ช่องรายการจาก YouTube โดยกล่าวยอมรับเลยว่า Microsoft มีชิป GPU คงในค้างสต็อก เพราะไม่มีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอ ที่จะจ่ายจนสร้างศูนย์ข้อมูล AI แห่งใหม่ได้
สำหรับศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่นั้น หากต้องรองรับโมเดล AI ขนาดใหญ่ (Hyperscaler) ก็ต้องมีแหล่งไฟฟ้าระดับจ่ายไฟให้เมืองเล็ก ๆ หนึ่งเมืองได้เลย มีรายงานด้วยว่า Hyperscaler บางแห่งที่กำลังก่อสร้าง อาจต้องใช้พลังงานมากกว่าศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่เดิมถึง 20 เท่า โดยคาดการณ์ว่าแต่ละแห่งต้องใช้พลังงานมากถึง 2 กิกะวัตต์ (GW) ซึ่งเทียบเท่ากับความต้องการไฟฟ้าทั้งหมดของบางรัฐในสหรัฐฯ กันเลย
จากการประมาณการล่าสุด ในปี 2024 พบศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ ใช้ไฟฟ้ามากถึง 183 เทระวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) ซึ่งคิดเป็นพลังงานมากกว่า 4% ของการใช้พลังงานทั้งหมดของสหรัฐฯ แล้ว และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในปี 2030 ด้วย
ปัจจุบันผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล กำลังเจอแรงกดดันในการจัดหา “Warm Shells” หรืออาคารที่มีสาธารณูปโภคที่จำเป็นพร้อม สำหรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์ได้ทันที เนื่องจากไซต์เหล่านี้ต้องมีไฟฟ้า และความสามารถในการระบายความร้อนที่เพียงพอ ก่อนที่จะรันชิป AI ให้ออนไลน์ได้ ผู้ให้บริการคลาวด์และบริษัท AI จึงมักจะมี ‘เซิร์ฟเวอร์’ วางกองไว้อยู่เฉย ๆ เป็นเดือน ๆ ระหว่างรอให้ข้อจำกัดด้านพลังงานในระดับภูมิภาคได้รับการแก้ไข
“คุณอาจจะมีชิป (GPU) จำนวนมากกองอยู่ในสต็อก ที่ไม่สามารถเสียบปลั๊กได้ อันที่จริง นั่นคือปัญหาของผม (Microsoft) ในวันนี้ มันไม่ใช่ปัญหาการขาดแคลนชิปเหมือนก่อน แต่มันคือความจริงที่ว่าผมไม่มี ‘warm shells’ ให้เสียบปลั๊ก”
Satya Nadella ได้กล่าวยอมรับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา
“การตั้งโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปัจจุบันของสหรัฐฯ กำลังล่าช้ากว่าความต้องการในอนาคต”
ทางด้าน Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ก็ได้ร่วมพูดคุยกับ Satya Nadella ถึงปัญหานี้เหมือนกัน โดยกล่าวเลยว่าทางบริษัทเคยเรียกร้องให้รัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ช่วยลงทุนด้านการผลิตพลังงานรูปแบบใหม่ เพื่อให้เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้าน AI กับจีนนี้เอง ที่ปัจจุบันพบจีนมีการลงทุนด้านพลังงานน้ำและพลังงานนิวเคลียร์อย่างจริงจังแล้ว
การดึงพลังงานของ AI ยังทำให้ความต้องการน้ำพุ่งสูงขึ้นด้วย เนื่องจากศูนย์ข้อมูลหลายแห่งต้องพึ่งพาระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวหรือใช้น้ำจำนวนมาก เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์และ GPU ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ปัญหาปัญหาการขาดแคลนน้ำทวีคูณไปด้วย จนบีบให้ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลบางราย ต้องย้ายโครงการไปยังพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเย็นกว่าตามธรรมชาติ เพื่อลดทั้งความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนในที่สุด
การกล่าวยอมรับของ Satya Nadella อาจเรียกได้ว่าเป็นยืนยันถึง “จุดเปลี่ยนของยุค AI” เป็นสัญญาณว่ายุคตื่นทองของการไล่ซื้อ GPU ได้จบลงแล้ว ยุคใหม่คือ “สงครามแย่งชิงพลังงาน” ที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้ชนะในสงคราม AI ครั้งนี้ อาจไม่ใช่ผู้ที่มีโมเดลที่ฉลาดที่สุด แต่คือผู้ที่สามารถหาพลังงานและน้ำมาหล่อเลี้ยงโมเดลเหล่านั้น ได้อย่างยั่งยืนที่สุดต่างหาก
ที่มา : Techspot








