กู้ภัยในที่มืด สหรัฐฯ พัฒนาโดรนค้างคาว ช่วยคนในสภาพอากาศเลวร้าย

โดรนจิ๋ว

ที่สถาบัน Worcester Polytechnic Institute สหรัฐอเมริกา ทีมนักวิจัยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโฉมหน้าการกู้ภัย นั่นคือ เจ้า โดรนจิ๋ว ที่สามารถปฏิบัติภารกิจค้นหาและกู้ภัยได้ แม้ในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิท มีควันหนา หรือพายุเข้า

ทำไมโดรนปัจจุบันถึงยังไม่พอ ในสถานการณ์ภัยพิบัติจริง เช่น แผ่นดินไหวหรือสึนามิ สิ่งแรกที่หายไปคือไฟฟ้า และภารกิจกู้ภัยมักเกิดขึ้นตอนกลางคืน เราคงไม่รอจนถึงเช้าเพื่อเข้าไปช่วยผู้รอดชีวิต ถูกไหม ?

แม้ปัจจุบันเราจะเห็น โดรนกู้ภัย ถูกใช้งานมากขึ้น แต่โดรนส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพากล้องและสายตามนุษย์ในการควบคุม ทำให้มีข้อจำกัดมหาศาลเมื่อต้อง บินในที่มืด หรือในที่ที่มีควันหนาทึบ

ธรรมชาติคือคำตอบ แรงบันดาลใจจากค้างคาว ทีมวิจัยของ WPI จึงหันไปมองธรรมชาติ และพบคำตอบในค้างคาว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เชี่ยวชาญการใช้ Echolocation หรือการส่งคลื่นเสียงและรับเสียงสะท้อนกลับเพื่อนำทางในความมืด

พวกเขาจึงได้พัฒนา โดรนจิ๋ว ขนาดเท่าฝ่ามือ ราคาถูก และประหยัดพลังงาน โดยติดตั้ง เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก (คล้ายกับที่ใช้ในก๊อกน้ำอัตโนมัติ) เพื่อเลียนแบบความสามารถของค้างคาว โดรนจะส่งคลื่นเสียงความถี่สูงออกไป และใช้เสียงสะท้อนที่เด้งกลับมาในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง

ในการทดสอบในแล็บที่เต็มไปด้วยหมอกควัน ไฟสลัว และแม้กระทั่งหิมะปลอม โดรนจิ๋วนี้สามารถหลบหลีกแผ่นอะคริลิกใสได้อย่างแม่นยำ แม้จะอยู่ในความมืดสนิทก็ตาม

แน่นอนว่าการพัฒนาก็มีอุปสรรค เช่น เสียงใบพัดของโดรนไปรบกวนการทำงานของเซ็นเซอร์ ทีมงานจึงต้องใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สร้างเกราะพิเศษเพื่อลดเสียงรบกวน และใช้ AI เข้ามาช่วยกรองและแปลความหมายของสัญญาณเสียง

เป้าหมายในอนาคตของทีม WPI คือการพัฒนา หุ่นยนต์ค้นหาและกู้ภัย เหล่านี้ให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นฝูงและตัดสินใจได้เอง เพื่อออกปฏิบัติภารกิจในที่ที่ทั้งมืด มัว และอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีจะยังห่างไกลกับความสามารถระดับเทพของค้างคาวจริงๆ ก็ตาม

ถ้าทำได้จริง นี่ไม่ใช่แค่การพัฒนาโดรน แต่คือการปฏิวัติวงการกู้ภัยเลยทีเดียวครับ

ที่มา

apnews