รีวิว : Asus ZenBook S โน็ตบุคบางเบาพรีเมี่ยม ดีไซน์สวย พิมพ์ถนัดมือ

อย่างที่รู้กันว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหรือ Ultrabook ส่วนใหญ่มักมีราคา สเปกไม่คุ้ม แต่แลกกับพกพาสะดวก ดีไซน์สวยงาม และแข็งแรงทนทาน บางรุ่นก็มาพร้อมฟีเจอร์เฉพาะตัวที่ไม่มีในโน๊ตบุ๊คทั่วไปด้วย สำหรับกลุ่มคนชอบทำงานนอกออฟฟิศหรือที่บ้าน ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คไว้พิมพ์งานแจ่ม ๆ สักตัว Ultrabook ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอ ในที่นี้ก็ขอแนะนำให้รู้จัก Asus Zenbook S (UX391) โน๊ตบุ๊คเน้นพกพาระดับพรีเมี่ยม มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษเฉพาะ ที่เป็นส่วนช่วยสำคัญมาก ๆ เวลาพิมพ์งาน ส่วนคืออะไรนั้นเดี๋ยวมาดูกัน

สเปก Asus Zenbook S (UX391)

Display : จอ Anti-Glare ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) สัดส่วน 16:9 พร้อมเทคโนโลยี ASUS Eye Care ช่วยลดแสงฟ้า 30%
CPU : Intel Core i7-8550U (1.8GHz quad-core พร้อม Turbo Boost 4.0GHz และ 8MB cache)
VGA : Intel UHD Graphics 620
RAM : 8GB LPDDR3-2133MHz
SSD : 512GB PCIe
Wireless : Dual-band 802.11ac Wi-Fi
Bluetooth : 4.2
Port :  Type-C USB 3.1 Gen 2 (Thunderbolt ช่องหนึ่งเอาไว้ชาร์จไฟได้) x 2, Type-C USB 3.1 Gen 1 x 1 และ 3.5mm Audio Jack
Size : 12.24 x 8.39 x 0.51 นิ้ว (W x D x H)
Weight : 1 kg
OS : Windows 10 Home

แกะกล่อง

นอกจากตัวโน๊ตบุ๊คจะบางเบาแล้ว ตัวกล่องเองก็มีขนาดเล็กตามตัวเครื่อง โดยเป็นกล่องสีดำอย่างหรู ซึ่งภายในมีทั้งตัวเครื่อง Asus Zenbook S (UX391), ชุดไฟเลี้ยง, ผ้าเช็คจอ และ

กระเป๋าหนัง Soft Case อย่างดี x 1

สุดท้ายชุดแปลง Hub สาย USB Type-C เพิ่มพอร์ต USB Type-C x 1, HDMI x 1 และ USB 3.0 x 1 หายห่วงเรื่องพอร์ตน้อย

วัสดุและดีไซน์

ก่อนหน้านี้เคยรีวิวตัว Asus ZenBook UX331UAL เป็น Ultrabook รุ่นราคาจับต้องได้ ซึ่งรุ่นนั้นมีจุดเด่นตรงที่ ‘หนัก 985 กรัม’ เบาได้ใจมาก แต่สำหรับตัว Asus Zenbook S นี้ มีวัสดุพรีเมี่ยมกว่ามาก ด้วยอลูมิเนียมสีดำทั้งตัว พร้อมความทนทานระดับมาตรฐานทางทหารแบบ MIL-STD 810G มีขอบทองแดงช่วยเพิ่มความหรูหรา และแม้จะมีน้ำหนักมากกว่าตัว UX331UAL เล็กน้อย โดยหนัก 1 กิโลกรัม (ถือว่ายังเบานะ) แต่ความบางนั้น…

“เฉียบ” ด้วยขนาดเพียง 12.9 มม. เท่านั้น พกไปไหนสบาย​ ราวกับนิตยสาร​หนึ่ง​เล่ม

ส่องขอบทองแดงแบบชัด ๆ

Asus Zenbook S มาพร้อมหน้าจอ Anti-Glare หรือจอด้าน ในขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) สัดส่วน 16:9 พร้อมเทคโนโลยี ASUS Eye Care ช่วยลดแสงฟ้า 30% เหมาะกับการพิมพ์หรือท่องเน็ตเป็นเวลานาน

กล้อง HD webcam รองรับ Windows Hello ยืนยันตัวตนผ่านใบหน้าได้

สำหรับฟีเจอร์พิเศษเฉพาะของ Asus Zenbook S ที่กล่าวในตอนแรกก็คือ “Ergolift” นี้เอง คือเป็นการออกคียบอร์ดให้มีการลาดเอียงทำมุม 5.5 องศา ยกสูงขึ้นจากพื้น จากที่ลองใช้งานต้องบอกเลยว่า ‘ช่วยได้สุด ๆ’ คือทุกวันนี้เวลาผมใช้งานโน๊ตบุ๊คประจำออฟฟิศ ผมถึงกับต้องหา Cooling Pad แบบปรับระดับได้มาวาง เพื่อให้สามารถพิมพ์งานได้แบบไม่เมื่อยคอและข้อมือ ตามหลักสรีระศาสตร์ พอมาเจอ Ergolift นี้เข้าไป น้ำตาแทบไหลเลยครับ เพราะไม่ต้องพก Cooling Pad ให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป ตัว Asus Zenbook S มีให้แล้ว

พอร์ตเชื่อมทั้งหมด ก็มี Type-C USB 3.1 Gen 2 (Thunderbolt) x 2 กับมี Type-C USB 3.1 Gen 1 x 1 และ 3.5​ mm Audio Jack เท่านั้น หากไม่พอก็แนะนำให้ใช้

Hub ที่แถมมาตัวนี้เลย

ส่วนระบายความร้อนของตัวเครื่องก็มีชื่อเรียกแบบเท่ ๆ ว่า Liquid-Crystal-Polymer fan impeller หรือใบพัดคริสตัลพอลิเมอร์ ที่มีความหนาเพียง 0.3 มม. ส่งความร้อนผ่านท่อทองแดงกับผนังความร้อนที่บางเพียง 0.1 มม. ช่วยระบายความร้อนได้ดี และบวกกับดีไซน์ Ergolift ที่ยกตัวเครื่องสูงขี้นมาก ก็ทำให้ระบายได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ตรง Mouse Pad ก็มีจุดสแกนลายนิ้วมือ ส่วนคีย์บอร์ดมี Key travel ลึก 1.2 มม. กับ Key pitch ขนาด 19.05 มม. และ Dished keycaps ที่ 0.2 มม. เท่านั้น ออกแบบเพื่อการพิมพ์โดยเฉพาะ

การใช้งาน

Asus Zenbook S กับบรรยากาศในร้านกาแฟ

หน้าจอ 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD ของรุ่นนี้ ให้ความคมชัดได้แจ่มทีเดียว

ไฟ LED Backlight สีฟ้างาม ๆ ส่องสว่างบนคีย์บอร์ด

เนื่องจากตัวเครื่อง ชาร์จไฟผ่านพอร์ต Thunderbolt ทำให้เอา PowerBank ประสิทธิภาพสูง (Omni 20 USB-C) มาเสียบชาร์จแบตฯ เพื่อนั่งทำงาน ท่องเว็บ ดูหนัง แบบทั้งวันอย่างชิว ๆ ได้ด้วย ส่วนระยะการใช้งานของ Asus Zenbook S ก็ใช้ได้ต่อเนื่องประมาณ 10 ชั่วโมงกันเลย

ประสิทธิภาพ

สเปกภายในหลัก ๆ ก็มี Intel Core i7-8550U + Intel UHD Graphics 620 + RAM 8GB + SSD 512GB และ Windows 10 Home

รายละเอียดสเปกคร่าว ๆ

รายละเอียดขุมพลังหลักอย่าง Intel Core i7-8550U และ Intel UHD Graphics 620

ลองวัดด้วย Cinebench R15 ผลที่ได้คือ Intel UHD Graphics 620 ได้ไป 36.30 fps กับ CPU i7-8550U ก็อยู่ที่ 311 cb ก็ตามสไตล์ Ultrabook ครับ เน้นใช้งานทั่วไปก็พอแล้ว แต่แลกกับความทนทานและการพกพาที่สะดวกแทน​

ส่วนความเร็วอ่าน-เขียนของ SSD 512GB ก็พุ่งทะลุไป Read 2,016 MB/s และ Write 1,381 MB/s เร็วแรงสุด ๆ เป็นข้อดีตลอดกาลของ Ultrabook ที่ใช้ SSD แทน HDD มาโดยตลอด

สรุป

เรียกได้ว่า Asus Zenbook S เป็น Ultrabook ที่มีความสมบูรณ์แบบในหลาย ๆ ด้าน ทั้งวัสดุที่แข็งแรงมาก ๆ การันตีด้วยมาตรฐานทางทหารแบบ MIL-STD 810G พร้อมดีไซน์สวยงามสะดุดตา​ โดยเฉพาะ Ergolift ที่ทั้งสวยและใช้ประโยชน์ได้ด้วย ทำให้การพิมพ์งานเป็นเรื่องสนุกไปเลย วัดจากที่เคยพิมพ์งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไปนาน ๆ สุดท้ายเมื่อยมือ หมดอารมณ์ทำงานต่อซะงั้น (ถ้าไม่มี Cooling Pad ช่วย งานไม่ไปไหนแน่..)

อย่างไรก็ตาม หากใครซื้อตัว Zenbook S นี้มาแล้วนั้น เวลาไปไหนก็ควรพกตัว Hub ที่มันแถมมาติดตัวไว้เลย เนื่องจากตัวเครื่องมีแค่พอร์ต Type-C เท่านั้น ส่วนสเปกต้องยอมรับตรง ๆ เลยว่า ไม่ได้แรงอะไรมาก สายตัดต่อกับกราฟฟิกหรือเกมมิ่ง คงไม่ตอบโจทย์เท่าไรนัก

สุดท้ายนี้ตัว Asus Zenbook S สนนราคาเริ่มต้นที่ 39,990 บาท โดยเป็นรุ่น i5-8250U + RAM 8GB ส่วนรุ่น i7-8550U + RAM 8GB ที่รีวิวนี้เอง ก็อยู่ที่ 46,990 บาท และสุดท้ายตัว Top สุด i7-8550U + RAM 16GB ราคา 49,990 บาท ครับ