รีวิว : HUAWEI FreeBuds 3 หูฟังไร้สายอัจฉริยะ กับระบบตัดเสียงที่ชวนลืมโลก

มาทำความรู้จักกับหูฟัง True Wireless ก่อนซักนิด ตามชื่อเลยคือ หูฟังไร้สาย…ที่แท้จริง ไม่มีสายระโยงระยางอะไรทั้งนั้น มีตัวหูฟังแบบ In-Ear หรือ Earbud เพียงข้อเดียว ทำให้ง่ายต่อการพกพา และมีความสวยงามแบบเฉพาะตัวจริง ๆ โดยหูฟังประเภทนี้จะมาพร้อมกล่องเก็บ ซึ่งสามารถชาร์จพพลังงานให้ใช้งานได้ยาว ๆ หลัก 10 – 20 ชั่วโมงกันเลย โดยแทบไม่ต้องเพิ่ง Power Bank หรือเสียบชาร์จเหมือน ‘หูฟังบลูทูธ’ ทั่ว ๆ ไป

กลับมาที่รีวิวกันต่อ ครั้งผมได้เจ้า HUAWEI FreeBuds 3 หูฟัง True Wireless แบบ Earbud รุ่นที่ 3 ที่อัพเกรดความสามารถจากรุ่นเดิมแบบไม่เห็นฝุ่น ด้วยฟีเจอร์ชูโรงอย่าง Active noise cancelling หรือ ANC ระบบตัดเสียงรบกวนที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะ พร้อมบอกลาเสียงภายนอกไปได้เลย ซึ่งจะเป็นยังไงและมีฟีเจอรฺ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกไหม ลองมาดูกันครับ

ข้อมูลสเปก HUAWEI FreeBuds 3

From Factor : Open-fit / Wireless / Bluetooth / Earbud
Driver : แบบ Dynamic ขนาด 14.2 มม.
Chipset : HUAWEI Kirin A1
Bluetooth : 5.1 (Isochronous Dual Channel by HUAWEI)
Playtime : 4 ชั่วโมง / การชาร์จในเคส 1 ครั้ง และ 20 ชั่วโมง / เคส
Battery : 30 mAh (ตัวหูฟัง) 410 mAh (เคส)
Weight : 4.5 กรัม (ตัวหูฟัง) 48 กรัม (เคส)
Charging : USB Type-C (5V 1.2A 6W) และรองรับชาร์จไร้สาย Qi standard (2W)
Colour : Carbon Black (สีดำ) กับ Ceramic White (สีขาว)

แกะกล่อง 

ในกล่องก็ประกอบไปด้วย ชุดหูฟัง FreeBuds 3 , เคสชาร์จ , สายชาร์จ USB-C , คู่มือการใช้งาน , รายละเอียดด้านความปลอดภัย และ ใบรับประกัน

วัสดุและดีไซน์

ส่วนดีไซน์ต้องขอชมจากใจเลยว่า สวยมากกก และดูสมมาตรมากเช่นกัน ตัวเคสมาเป็นทรงกลมแบนขนาดเล็ก ด้านวัสดุก็ใช้พลาสติดผิวมันเงา โดยเมื่อรวมกับสี Carbon Black หรือสีดำนี้แล้ว ก็ให้อารมณ์เหมือน ‘หินแร่’ ชนิดหนึ่ง ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่ธรรมชาติก็แอบโหดร้าย ผิวสีดำที่เงางามสวย ๆ นี้ กลับติดรอยนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกัน…

ตัวกล่องเก็บหรือเคสของ FreeBuds 3 เวลาเปิดฝาบานพับไปมา กลับให้อารมณ์เหมือนกำลังเปิดปิดตลับแป้งยังไงยังงั้น (ฮ่า) เนื่องจากตัวบานพับเปิดปิดได้ง่าย และเวลาปิดจะมีเสียง ‘ป๊อกแป๊ก’ ชวนให้รู้สึกอยากเปิดปิดมันไปเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ …

ตัวจุกหูฟัง FreeBuds​ 3 ก็มาในทรง Earbud ตามภาพ ดีไซน์ค่อนข้างล้ำใช้ได้ โดยไม่ได้มาเป็นทรง Earbud ทั่ว ๆ ไป แต่มีการออกแบบลำโพงให้ยิงเข้าหูตรง ๆ หรือ Dolphin Bionic (หัวปลาโลมา) ช่วยให้ยัดเข้าหูได้สะดวก​ แต่ยังคงใส่สบายหู และไม่หลุดง่าย อีกทั้งยังมีลำโพงจากฟีเจอร์ ANC หรือระบบตัดเสียง ซึ่งตรงนี้เอง มันจะมีการปล่อย ‘ความถี่’ มาหักล้างกับเสียงภายนอก (มีอธิบายต่อในหัวข้อประสิทธิภาพ) ทำให้ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้หมดจด

ภายในตัวหูฟังก็มีชิป Kirin A1 ที่เป็นหัวใจสำคัญ คอยควบคุมทุกระบบของหูฟังตัวนี้เอง นอกนั้นก็มีตัวไดรเวอร์​ไดนามิกขนาด 14 มม. กับ Bass Tube หรือหลอดเสียง​เบส ให้เสียงเบสแน่นเอาเรื่อง

การใช้งาน

ก่อนใช้งาน FreeBuds​ 3 ก็ต้องไปโหลดแอปฯ Huawei AI Life มาก่อน เพื่อให้เราสามารถปรับตั้งค่าระบบ ANC ได้ (หากไม่โหลดก็ยังใช้งานได้อยู่ แต่จะควบคุมตัว ANC ไม่ได้เท่านั้น) จากนั้นก็ทำการ Pair โดยต้องมีตัวจุกหูฟังเสียบไว้

พร้อมต้องกดปุ่มตรงขอบขวามือของตัวเคศ โดยกดค้างประมาณ 2 วินาที หรือกดค้างจนกว่าจะติดไป LED สีขาวขึ้นมา เมื่อไฟติดแล้วมันจะให้เราไปเปิดบลูทูธจากสมาร์ทโฟน เสร็จแล้วก็ทำการเชื่อมต่อใช้งานครั้งแรก จนขึ้นไฟ LED สีเขียวก็เป็นอันเสร็จ

หลังทำการ Pair เรียบร้อยแล้ว ต่อไปเวลาเราเปิดฝาพับของ FreeBuds 3 ขึ้นมา ถ้าสมาร์ทโฟนเราเปิดบลูทูธอยู่ มันจะทำการเชื่อมต่อทันที หากปิดฝาพับ มันก็จะปิดหรือยกเลิกการเชื่อมต่อทันทีเหมือนกัน

ประสิทธิภาพ

สำหรับประสิทธิภาพ ก็ขอพูดถึงคุณภาพเสียงของตัว FreeBuds 3 ก่อนเลย ตัวหูฟังให้เสียงเบสได้ชัดมาก แม้จะไม่ถึงขั้นมีอิมแพคกระแทกหนัก ๆ แต่ก็ได้ยินเด่นชัดพอตัว ส่วนเสียงกลาง เสียงร้อง และเสียงแหล่ม ก็ออกมาเด่นพอ ๆ กัน ไม่มีตัวไหนโดดออกเหมือนเสียงเบส อาจพูดได้ว่า เป็นหูฟังที่เหมาะกับการฟังเพลงทุกแนว ..แต่อาจไม่สุดสำหรับบางท่าน

หลังติดตั้งแอปฯ Huawei AI Life แล้ว ในหน้าแอปฯ ก็จะมีให้ปรับแต่ง ‘ทางลัด’ หรือฟีเจอร์แตะสัมผัสตัวหูฟัง ที่ช่วยสั่งการทำงานของหูฟังจากภายนอก เช่น อยากเปิด ANC ก็เคาะตัวจุกหูฟังฝั่งซ้าย 2 ครั้งติดกัน ก็จะเป็นการสั่งปิดเปิดฟีเจอร์ ANC ไปปริยาย หรือคำสั่งแตะ 2 ครั้งอื่น ๆ อาทิ Play/Pause , เปลี่ยนเพลง และเปิดใช้งานคำสั่งเสียง ก็ได้

ว่ากันที่ตัว ANC อีกครั้ง จากที่บอกว่า “มีการปล่อยความถี่มาหักล้างเสียงภายนอก” ส่วนดังกล่าวนี้เอง หากใช้ร่วมกับแอปฯ Huawei AI Life เราจะสามารถปรับระดับความถี่ได้เอง แน่นอนว่าสภาวะภายนอกแต่ละที่ย่อมมีเสียงรบกวนไม่เหมือนกัน ตัวปรับ ANC ของ FreeBuds​ 3 จึงเข้ามามีบทบาทนี้เอง โดยเราสามารถปรับ ANC ให้ตรงกับที่ต้องการ จากนั้นก็ฟังเพลงแบบไร้เสียงรบกวนจากภายนอกได้ตามสภาวะ จุดนี้แนะนำให้ใช้ตอนฟังเพลงขณะนั่งหรือไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหน เพราะตัวฟีเจอร์เวลาเปิดใช้งานแล้ว มันจะไม่ได้ยินเสียงภายนอกอะไรนอกจากเสียงเพลงอย่างเดียวจริง ๆ ลืมโลกไปได้เลย

เกือบลืมพูดถึงไมค์ ตัวหูฟังจะใช้ Bone Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงจากกระดูกฟันกรามของเรา ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงเราชัดมาก และยังมี Aerodynamic Mic Duct ช่วยกรองเสียงลมตี หรือตัดเสียงลมได้ด้วย สุดท้ายมีคอมโบจาก ANC ก็จะทำให้เราได้ยินเสียงคุยชัดด้วยเหมือนกัน

สรุป

นับเป็นรุ่นที่ 3 ที่พัฒนาดีกว่า 2 รุ่นก่อนหน้าไปไกลจริง ๆ ตัว HUAWEI FreeBuds​ 3 ก็เป็นหูฟังไร้สายแบบ​ True Wireless ที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์สวยอย่างเดียว แต่เป็นความ Smart สูง และมีฟีเจอร์มากมายพอควร การเชื่อมต่อมีความสะดวกรวดเร็วมาก คุณภาพสัญญาณก็มีความเสถียรสูง ส่วนฟีเจอร์ชูโรงอย่าง Active noise cancelling หรือ ANC ระบบตัดเสียงรบกวน ประสิทธิภาพถือว่าสูงมาก ตัดเสียงภายนอกได้หมดจดจริง ๆ ช่วยให้ฟังเพลงได้ถึงอารมณ์กว่าเคย

อย่างไรก็ตาม ตัวแอปฯ Huawei AI Life ที่ใช้ควบคุมตัวหูฟัง ก็ควบคุมได้เฉพาะ ANC อย่างเดียว กับใช้บอกสถานะเท่านั้น ถ้าควบคุม Equalizer (EQ) หรือปรับเสียงอื่น ๆ ได้จะดีมาก สุดท้ายนี้ HUAWEI FreeBuds​ 3 ก็เปิดราคาที่ 4,990 บาท 

เช็คราคาโปรโมชั่น คลิก