รีวิว SanDisk Ultra 3D 1TB และ WD Blue 3D 1TB แตกต่างแต่เหมือนกัน

จับคู่รีวิว SanDisk Ultra 3D 1TB และ WD Blue 3D 1TB สอง SSD ความระดับ 1TB แบบ SATA มาพร้อมเทคโนโลยี 3D NAND ในสเปกใกล้เคียงกัน และราคาพอกัน

จากการเข้าซื้อ SanDisk ก็ทำให้ทาง Western Digital หรือ WD ได้ผลิต SSD ของตัวเองออกมาทันที จากที่มีแต่ HDD มานาน ขณะเดียวกัน SanDisk ที่แม้อยู่ภายใต้ WD ก็ยังคงพัฒนา SSD และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอื่น ๆ ต่อไปเหมือนเคย กระทั้งช่วงกลางปีนี้ ทาง WD ได้เปิดตัวสอง SSD แบบ SATA รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี​ 3D​ NAND แบบ​ 64 เลเยอร์​ ช่วยให้อ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วขึ้​น​ เสถียร​ขึ้น​ อายุการใช้งาน​ยาวนาน​ขึ้น​ และประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย​ แต่ไม่รู้ว่าอะไรยังไง กลับเปิดตัวในฝั่งของ SanDisk ด้วย ในชื่อรุ่นว่า SanDisk Ultra 3D SSD และฝั่ง WD ในชื่อรุ่น WD​ Blue​ 3D​ NAND SATA SSD​ มาพร้อมสเปกที่คล้ายกัน ความจุให้เลือกเหมือนกัน และราคาก็เท่ากัน จนไม่รู้ว่าควรเลือกใช้ตัวไหนดี ในรีวิวครั้งนี้ก็ได้มีโอกาสจับทั้งสองรุ่นมาเทสพร้อม ๆ กันเลย มาดูกันว่าสองรุ่นจากบ้านเดียวกันนี้ จะแตกต่างกันขนาดไหน

รายละเอียดสเปก SanDisk Ultra 3D 1TB และ WD Blue 3D 1TB

WD Blue 3D 1TB (รายละเอียด)

Sequential Read up to : 560 MB/s
Sequential Write up to : 530 MB/s
Random Read up to : 95K IOPS
Random Write up to : 84K IOPS
Endurance (TBW) : 400
Interface : SATA III 6Gbs
Form Factor : 2.5” 7mm

SanDisk Ultra 3D 1TB (รายละเอียด)

Sequential Read up to : 560 MB/s
Sequential Write up to : 530 MB/s
Random Read up to : 95K IOPS
Random Write up to : 84K IOPS
Endurance (TBW) : 400
Interface : SATA III 6Gbs
Form Factor : 2.5” 7mm

จากรุ่นที่นำมาทดสอบ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมความจุระดับ 1TB ทั้งคู่ ส่วนสเปกก็เหมือนกันเป๊ะ ต่างแค่ชื่อรุ่นกับแบรนด์เท่านั้น แต่ตอนไปงานเปิดตัว ได้ข้อมูลมาว่า ตัว WD​ Blue​ 3D​ จะมีค่าเวลาเฉลี่ย​ MTTF ยาวนานถึง​ 1,750,000 ชั่วโมง​ เหมาะสำหรับ​ใช้งานทั่วไปแบบยาว​ ๆ​ ส่วน​ S​andisk Ultra 3D จะเด่นในด้านเกมมิ่ง​หรือกลุ่ม​ครีเอทีฟ​ เน้นประสิทธิภาพ​โดยเฉพาะแทน อาจจะได้เห็นความต่างก็ตอนใช้งานระยะยาวแน่ ๆ น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาเทสขนาดนั้น ในที่นี้ก็จะทดสอบแบบพื้นฐานไปก่อนนะครับ

แกะกล่อง

ทั้งสองกล่องก็แยกชัดเจนว่ามาจากสังกัดไหน รุ่นอะไร อย่างกล่องโทนสีน้ำเงินขาวคือ WD Blue ส่วนกล่องโทนสีแดงเทาคือ SanDisk Ultra

ทั้งหน้าและหลังแทบจะเหมือน ๆ กัน ต่างกันแค่สีกล่องและชื่อ ส่วนในกล่องก็มีเพียงตัว SSD และชุดคู่มือเท่านั้น (เนื่องจากเป็นกล่อง Demo คาดกล่องขายจริงอาจมีสาย SATA แถมมาด้วย)

วัสดุและการออกแบบ

WD Blue 3D และ SanDisk Ultra 3D ทั้งสองรุ่นเป็น SATA SSD ก็แน่นอนว่ามีขนาดและรูปร่างเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ยกเว้นสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่บนฝา

เมื่อพลิกอีกด้าน ก็เจอส่วนระบุรายละเอียดสเปกที่จัดเรียงแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่สเปกยังคงเหมือนกัน

Form Factor หรือขนาด 2.5 นิ้ว ขนาด 7 มิลลิเมตรทั้งคู่ Interface ก็ SATA 3 ความเร็ว 6Gbs เช่นเดียวกัน

ประสิทธิภาพ

บรรยากาศขณะทดสอบ ส่วนสเปกเครื่องที่ใช้ก็ตามนี้

CPU : Intel Haswell i7-4770 3.40GHz
M/B : Asus H97-PRO GAMER
RAM : Kingston Hyper X SAVAGE 16GB 1600(2x8GB)
SSD : WD Blue 3D 1TB และ SanDisk Ultra 3D 1TB
VGA : ZOTAC GTX 960 2GB
PSU : Superflower Silver Green FX 600

ใน SSD ทั้งสองรุ่นที่นำมาเทส ก็มีการใช้เนื้อที่ไปประมาณ 30GB แล้ว จาก 930GB

WD Blue 3D 1TB

ลองทดสอบความเร็ว Copy ไฟล์ข้อมูลขนาด 8GB ลงตัว SSD ผ่านสาย SATA 3 ก็ได้ความเร็วตามภาพ จัดว่าเร็วกว่า HDD อย่างเห็นได้ชัด ด้วยความเร็วที่ 90 MB/s สำหรับตัว WD Blue 3D 1TB

SanDisk Ultra 3D 1TB

ส่วนฝั่ง SanDisk Ultra 3D 1TB ก็ไม่น้อยหน้า ลองทดสอบแบบเดียวกัน ก็ได้ความเร็วพอ ๆ กันเลย

(ซ้าย) WD Blue 3D 1TB (ขวา) SanDisk Ultra 3D 1TB ทดสอบความเร็วอ่านเขียนด้วยโปรแกรม AS SSd Benchmark ดูเหมือนฝั่ง SanDisk จะน้อยกว่าเล็กน้อย แม้จะลองเทสหลาย ๆ ครั้ง ก็ได้ผลตามนี้

(ซ้าย) WD Blue 3D 1TB (ขวา) SanDisk Ultra 3D 1TB แต่พอลองใช้ CrystalDiskMark โปรแกรมทดสอบความเร็วอ่านเขียนอีกตัว กลับได้ผลเทสแทบไม่ต่างกัน

(ซ้าย) WD Blue 3D 1TB (ขวา) SanDisk Ultra 3D 1TB กับ CrystalDiskInfo โปรแกรมตรวจเช็คสุขภาพของ SSD และ HDD ก็มีสถานะพอกัน

(ซ้าย) WD Blue 3D 1TB (ขวา) SanDisk Ultra 3D 1TB ปิดท้ายด้วย HD Tune Pro 5.60 ทดสอบความเสถียรของการใช้งาน ในครั้งนี้ก็เริ่มเห็นความต่างบ้างแล้ว โดยฝั่ง WD จะมีกราฟนิ่งกว่าฝั่ง SanDisk อยู่บ้าง แต่นอกนั้นก็เท่า ๆ กัน

สรุป

หลังการเทสทดสอบ ก็บอกได้เลยว่า “ไม่ต่าง” ทั้งคู่ยังให้ประสิทธิภาพแทบจะเหมือน ๆ กันเลย อย่างที่บอกไปตอนแรก คงต้องลองใช้งานในระยะยาวจริง ๆ ถึงจะรู้ว่าต่างไม่ต่าง เพราะจุดเด่นของเทคโนโลยี 3D NAND ที่นำมาใช้ในทั้ง 2 รุ่นนี้ คือความเสถียรและอายุการใช้งานที่อยู่ได้ถึง 10 ปีสบาย ๆ แต่ดูเหมือนตัว WD จะชูว่าอยู่ได้นานกว่า ส่วนตัว SanDisk จะรับมือกับการโหลดข้อมูลหนัก ๆ ได้ดีกว่า อย่างการเล่นเกมและงานกราฟฟิกเป็นต้น สำหรับค่าตัว ทั้ง WD Blue 3D 1TB และ SanDisk Ultra 3D 1TB ก็อยู่ที่ 13,900 บาท เท่ากันครับ