เทนเซ็นต์ เผยกลยุทธ์ความสำเร็จ ‘บิ๊กซี’ บุกอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ เจาะตลาดจีนด้วย ‘Weixin Mini Program’

เทนเซ็นต์ ประเทศไทย โชว์ความสำเร็จ ‘บิ๊กซี’ บุกตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน สร้างการเติบโตธุรกิจท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ด้วยการเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “Weixin Mini Program” (เว่ยซิน มินิโปรแกรม) เพื่อขยายฐาน และเชื่อมต่อลูกค้าในจีน

ทีมธุรกิจระหว่างประเทศของ Weixin Pay (เว่ยซินเพย์) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วิกฤติโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวต่างประเทศ และการเลือกซื้อสินค้าหน้าร้านลดลงอย่างมาก แต่บริการภายใต้ระบบ ecosystem ที่แข็งแกร่งของ Weixin สามารถช่วยให้ผู้ค้าต่างประเทศจำนวนมากเชื่อมต่อกับลูกค้าชาวจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ค้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากหันมาเปิดร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Mini Program เพื่อขยายการเข้าถึง สร้างการมีส่วนร่วม และสร้างยอดขายกับลูกค้าในประเทศจีน

โดย 2 ปีที่ผ่านมา Mini Program มีผู้ใช้งานเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีจำนวนร้านค้าพุ่งสูงกว่า 10 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ และการเร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก

บิ๊กซี หนึ่งในห้างค้าปลีกและซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดของไทย ได้เปิดตัวร้านค้าออนไลน์บน Weixin Mini Program เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ถือเป็นผู้บุกเบิกบริการอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ โดยปลดล็อกการมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่เหนือระดับ ครบจบในที่เดียว ตั้งแต่การเลือกซื้อสินค้า ทำธุรกรรม และบริการหลังการขาย ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

บิ๊กซี เปิดตัวร้านค้าออนไลน์บน Weixin Mini Program เมื่อมกราคมที่ผ่านมา

คุณจิงฮุ่ย หลี่ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงที่การท่องเที่ยวในประเทศเติบโตถึงขีดสุดในปี 2562 บิ๊กซี แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาราชดำริ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศาลพระพรหมเอราวัณ สามารถดึงดูดเหล่านักช้อปชาวจีนหลายแสนคนให้มาซื้อสินค้าคุณภาพราคาประหยัดที่ห้างแลนด์มาร์คแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม รวมถึงอาหารและของที่ระลึก แต่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นอย่างมาก”

“จากวิกฤติดังกล่าว บริษัทต้องเร่งหาโซลูชันที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปต่อท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมองหาตัวช่วยที่จะสามารถทำให้เราเข้าถึงตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด อย่างลูกค้าชาวจีน เราพบว่า Weixin Mini Program เป็นโซลูชันที่สามารถตอบเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของบริษัทได้อย่างลงตัว เพราะช่วยให้เข้าถึงและเชื่อมต่อลูกค้าชาวจีนจำนวนมหาศาลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับสินค้าของบิ๊กซีอยู่แล้ว จึงสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และรอรับสินค้าที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย”

ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บิ๊กซีจึงได้เปิดตัวบริการอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ หรือห้างออนไลน์ผ่าน Weixin Mini Program ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการภายใน ecosystem ของ Weixin ในเครือเทนเซ็นต์ ที่นำเสนอฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างหลากหลาย อาทิ อีคอมเมิร์ซ การนัดหมาย บัตรกำนัล และอื่นๆ อีกมากมาย

ความโดดเด่นของ Weixin Mini Program มีดังนี้

  1. ค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านค้าไม่แพง ไม่มีค่าคอมมิชชัน หรือค่าธรรมเนียม
  2. เป็นแพลตฟอร์มที่มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งได้อย่างไร้รอยต่อ ลูกค้าสามารถทำการซื้อขาย พูดคุย ชำระเงิน และรับบริการหลังการขายได้ภายในแอปเดียว
  3. มีบริการครบจบในที่เดียว ครอบคลุมทั้ง Official Account และ Mini Program รวมถึงคอมมูนิตี้ที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่า และสร้าง Brand Royalty ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. รายการสินค้ามีความยืดหยุ่นและหลากหลาย ไม่จำกัดจำนวนหมวดหมู่

คิวอาร์โค้ดเพื่อแสกนเข้าสู่ Weixin Pay และ Weixin Official Account ของบิ๊กซี ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์

เข้าใจตลาดผ่านการลองผิดลองถูก

บิ๊กซีมีการนำข้อมูลและผลตอบรับการใช้บริการของลูกค้ามาปรับปรุงการนำเสนอสินค้าบน Mini Program อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในช่วงเปิดตัวแรกๆ บิ๊กซีใช้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในการดึงดูดลูกค้า หลังจากนั้นทีมปฏิบัติการได้มีการปรับเปลี่ยนโปรแกรม ที่ออกแบบให้ใช้จุดขายสินค้าดึงดูดลูกค้าแทน ซึ่งทำให้ลูกค้าที่ไม่คุ้นเคยกับสินค้าจากประเทศไทยมีความเข้าใจและเกิดการซื้อสินค้ามากขึ้น

การแสดงสินค้าบนแพลตฟอร์มที่พัฒนาจากฟีดแบคของลูกค้าบน Official Account Mini Program และกลุ่มพูดคุย

นอกจากนี้ ระบบจัดการเนื้อหาของ Weixin Mini Program มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้บิ๊กซีสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ ยกตัวอย่างบนช่องทางออนไลน์ ขนมและเครื่องดื่มชั้นเลิศ อย่างรังนก กลายมาเป็นสินค้ายอดนิยม บิ๊กซีจึงอัปเดตการแสดงสินค้าให้ตอบความต้องการนี้ได้อย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งความท้าทายของการทำอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ คือ ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งบิ๊กซีวางแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการเตรียมเปิดคลังสินค้าในประเทศจีน เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินการ และระยะเวลาจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงสามารถมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

เมื่อปากต่อปาก ก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่

ร้านค้าบน Weixin Mini Program สามารถสื่อสารและรับฟีดแบคจากลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ การสื่อสารผ่านทางคอมมูนิตี้ของแบรนด์บน Weixin ซึ่งถือเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารลูกค้าโดยตรงสำหรับตลาดโซเชียลอีคอมเมิร์ซในจีน

ขณะเดียวกัน ทีมลูกค้าสัมพันธ์ของบิ๊กซีก็สามารถพูดคุยและมอบบริการแบบเฉพาะบุคคลกับลูกค้าได้ผ่าน ‘WeCom’ ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารที่พัฒนาโดยเทนเซ็นต์ ให้สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Weixin โดยลูกค้าสามารถเข้ากลุ่มแชทของบิ๊กซีใน WeCom ผ่านการแสกนคิวอาร์โค้ด เพื่อรับบริการให้คำปรึกษาด้านสินค้า หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง บริการหลังการขาย รวมถึงคูปองส่วนลด

“บิ๊กซีจะเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการบน Weixin Mini Program อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ซึ่งในฐานะผู้ริเริ่มใช้แพลตฟอร์มนี้ทำตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล บริษัทมองว่า Weixin Mini Program เป็นโมเดลธุรกิจที่ใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ค้าต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างแน่นอน” คุณ หลี่ กล่าวทิ้งท้าย