จับตา TSMC ภาวะขาดแคลนชิปอาจกลับมา สงครามไต้หวันทำสถานการณ์เปลี่ยน

TSMC
สองวันมานี้ หลายคนอาจได้เห็นข่าวที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐบินไปเยือนไต้หวัน ทำให้จีนเกิดความไม่พอใจอย่างมาก และถือว่าสหรัฐกำลังสนับสนุนท่าทีของไต้หวันที่คิดจะแบ่งแยกประเทศ ขัดกับหลักการจีนเดียวที่เป็นนโยบายของจีน
.
แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องการเมืองภายในที่แต่ละฝ่ายต้องคอยดูท่าทีกันไปครับ แต่สิ่งที่จะเกิดผลกระทบกับด้านเทคโนโลยีคือ หากจีนบุกไต้หวันจริง โรงงานผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดในโลกอย่าง TSMC อาจดำเนินการต่อไม่ได้อีก เพราะต้องพึ่งห่วงโซ่อุปทานโลก ทั้งเรื่องของ วัตถุดิบ สารเคมี ชิ้นส่วน แร่ที่ใช้ในการผลิต ซอฟต์แวร์ และวิศวกรรมในด้านต่าง ๆ
.
ในช่วงที่ชิปขาดแคลนเพราะโควิด เราเห็นถึงปัญคือ อุปกรณ์ที่ใช้ชิปทุกเกิดการหยุดชะงัก ทั้งเรื่องของการ์ดจอเล่นเกม Smartphone หรือ Smart tv ขาดตลาด ยกเว้นเสียแต่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Apple ที่มีการสั่งซื้อชิปจำนวนมากไว้ล่วงหน้า ทำให้ TSMC ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้จัดส่งชิปได้ตามกำหนด แต่หากเป็นในสภาวะสงคราม มันอาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ
.
โดยในเดือนมิถุายนที่ผ่าน Chen Wenling หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ China Center for International Economic Exchanges (องค์กรของรัฐบาลจีน) บอกว่า หากสหรัฐ หรือชาติตะวันตกกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทำลายล้างต่อจีนต่อเนื่อง เขาได้แนะนำให้จีนจะต้องเข้ายึดไต้หวันกลับมาเพื่อใช้เป็นข้อต่อรอง ซึ่งเขาได้กล่าวไว้ในเวทีสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และนั่นทำให้เกิดกระแสจีนกับไต้หวันที่ต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ
.
ในเวลานี้ เกิดเป็นความกังวลอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งจะฟื้นตัวจากโควิด และยังมาเจอสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย และหากมีสงครามเกิดขึ้นในเอเซียแปซิฟิกระหว่างจีนกับไต้หวันที่มีสหรัฐคอยหนุนหลัง แน่นอนว่าเศรษฐกิจโลกอาจพังครืน เพราะจีนถือหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ทั้งในแง่ของผู้นำเข้าและส่งออกวัตถุดิบ และยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าให้ทั่วโลกครับ
.
มาภาวนากันว่า อย่าให้สงครามนี้บานปลายไปจนถึงขั้นใช้กำลังทางทหารกันเลยครับ
.
ที่มาข้อมูล