เครื่องเดียวก็เที่ยวได้(ทั่วโลก) – ตอนที่6 – 7

6. แชร์ได้ทันที (ถ้ามีเน็ต)
0601
เหตุผลหนึ่งที่เราใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพ โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยว คือการอัพเดตสถานะผ่าน Social Network ได้ทันทีราวกับเป็นการรายงานสดเลยทีเดียว เดินทางไปถึงจุดไหนแล้ว กินอะไร ถ่ายรูปวิว ถ่ายรูปอาหาร ถ่ายรูปตอนอยู่ในรถ ถ่ายโน่น ถ่ายนี่ เจออะไรก็ถ่ายไป แล้วอัพโหลดตลอดทาง

ด้วยความที่ต้องมีการใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเส้นทาง ทั้งแผนที่นำทาง ถ่ายรูปอัพโหลด รวมถึงการค้นหาข้อมูลต่างๆ ในเน็ต ทำให้สมาร์ทโฟนถูกพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่ว่าจะเป็น 3G หรือ 4G ได้อยู่แล้ว แค่สมาร์ทโฟนเครื่องละไม่กี่พันบาทก็รองรับการเชื่อมต่อ 3G ได้สบายๆ อยู่แล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องความเร็วที่อาจจะแตกต่างกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง

สิ่งที่เป็นข้อจำกัดก็คือผู้ให้บริการ เพราะเวลาเราไปเที่ยว เราไม่ได้อยู่ในตัวเมืองที่จะมั่นใจเรื่องคุณภาพสัญญาณได้ แต่การออกไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ สัญญาณ 3G อาจจะอ่อนหรือแทบไม่มีเลย และค่ายเครือข่ายมือถือแต่ละค่ายก็มีจุดบอดจุดอับสัญญาณที่ไม่เหมือนกันในแต่ละพื้นที่ อันนี้ก็คงต้องเสี่ยงดวงอีกที รวมถึงการติด FUP หรือปริมาณการใช้งานความเร็ว 3G ในแพ็กเกจ ในกรณีที่คุณใช้เยอะด้วย
ทางที่ดีไปหาโรงแรมที่มี WiFi เอาไว้ใช้งานก็จะช่วยให้สบายใจไปได้เหมือนกัน

7. ดูหนัง ฟังเพลง แก้เซ็ง
0701

0702
เชื่อว่าเรื่องนี้ใครๆ ก็ทราบกันอยู่แล้วว่าสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ทุกเครื่อง ในเรื่องของการดูหนังฟังเพลงได้ ซึ่งบางคนก็ถนัดที่จะดูหนัง หรือฟังเพลงแบบออนไลน์ จะผ่าน Youtube หรือเว็บเพลงต่างๆ ก็ว่ากันไป อันนี้ไม่ว่ากันสำหรับคนที่เน็ตแรงๆ และมีเน็ตเยอะๆ ให้ใช้งาน

แอพฯ มาตรฐานที่ใช้ในการดู ส่วนใหญ่ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีก็คือ Youtube ซึ่งเป็นคลังวิดีโอขนาดใหญ่ที่แทบจะมีทุกอย่าง คลิปเฮฮา มิวสิกวิดีโอ รายการย้อนหลังทั้งแบบถูกลิขสิทธิ์และแอบละเมิดลิขสิทธิ์ให้เราได้ดูกัน หรือจะเป็นแอพฯ ดูทีวีออนไลน์แบบสด (มีดีเลย์นิดหน่อย) ก็มีให้เลือกอีกหลากหลายแอพฯ เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องคิดด้วยว่า ถ้าต้องการดูระหว่างเดินทาง อินเทอร์เน็ตอาจจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก รวมถึงการไปยังพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตไม่ค่อยแรง ก็อาจจะทำให้เสียอารมณ์ได้เช่นกัน

ส่วนการดูแบบออฟไลน์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือโหลดมาดู หรือมาฟังนั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีสมาร์ทโฟนที่มีความจุข้อมูลสูงๆ ก็จะสามารถใส่ข้อมูลเหล่านี้ได้เยอะหน่อย โดยฝั่งของ iOS นั้นจะถูกบังคับด้วยระบบให้ต้องแปลงไฟล์และถ่ายโอนผ่าน iTune เพื่อดูบน Video แอพฯ มาตรฐานเท่านั้น ส่วนฝั่งของ Android จะมีอิสระให้เลือกเยอะหน่อย อย่างแอพฯ MX Player ก็เป็นแอพฯ เล่นวิดีโอยอดนิยมตัวหนึ่งที่รองรับไฟล์ได้หลายประเภท แต่ทั้งนี้สำหรับ Android แล้วคุณควรจะแปลงไฟล์ให้อยู่ในรูปแบบ MP4 ที่มีขนาดเล็กและคุณภาพดีเอาไว้จะทำงานได้ดีที่สุดนะครับ

สำหรับเพลงนั้นไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมันเล่นได้สบายๆ มาตั้งแต่สมัยเรายังไม่มีสมาร์ทโฟนด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องแค่นี้ เรื่องเล็ก

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here