[แนวคิดใหม่] ขึ้นชื่อว่า ‘สตาร์ทอัพ’ ก็มักมีแนวคิดโครงงานที่น่าสนใจ เหมือนอย่าง Reflect Orbital ตั้งเป้าแก้ไขข้อจำกัดของพลังงานแสงอาทิตย์ภาคพื้นดิน ด้วยการส่งกระจกไมลาร์ (Mylar) ขนาดยักษ์ไปยังอวกาศ ที่สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกหลังมืดค่ำได้ โดยไม่ต้องรอชาร์จไฟเฉพาะตอนเช้าหรือกลางวัน
Reflect Orbital คือโครงการพัฒนากลุ่มดาวเทียมใหม่ ซึ่งตัวดาวเทียมก็จะมาพร้อมกระจกไมลาร์ หรือแผ่นฟิล์มโพลีเอสเตอร์น้ำหนักเบาขนาด 33×33 ฟุต ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความทนทานและการสะท้อนแสง อนึ่งตัวดาวเทียมมีน้ำหนักเพียง 35 ปอนด์ (ประมาณ 15 กก.) เท่านั้น ทำให้การปล่อยขึ้นสู่อวกาศมีราคาถูกลง และเมื่อเข้าสู่วงโคจรระดับต่ำของโลกแล้ว ก็จะจับกลุ่มเพื่อหาทางเล็งแสงอาทิตย์ไปยังโรงไฟฟ้าที่มีแผงโซลาร์บนโลก ทำให้ผลิตไฟฟ้าในช่วงกลางคืนได้นั้นเอง
แน่นอนว่าการควบคุมแสงจากอวกาศก็ต้องใช้ความแม่นยำอย่างมาก กระจกแต่ละบานต้องปรับท่วงท่าและการวางตัวอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ระบบควบคุมขั้นสูง ซึ่งน่าจะใช้วงล้อปฏิกิริยา (Reaction wheel) เพื่อติดตามทั้งดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนพื้นโลก จากนั้นก็ควบคุมแสงให้สะท้อนไปยังตำแหน่งต่าง ๆ บนโลกที่ต้องการ หรือกระทั่งเป้าหมายเล็ก ๆ เช่น ฟาร์มโซลาร์เซลล์
สาหรับอุปสรรคนั้น ก็ไม่พ้นชั้นบรรยากาศของโลกนี้เอง ที่ทำให้แสงอ่อนกำลังลงก่อนมาถึงพื้นดินได้ การทดสอบเบื้องต้นจึงใช้บอลลูนให้อยู่ในระดับความสูงพอ จากนั้นก็ลองติดกระจกขนาดเล็กเพื่อหาความเป็นไปได้ ก่อนขยายขนาดไปสู่การใช้งานในวงโคจรเต็มรูปแบบภายหลัง
ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือ ความเสี่ยงที่จะไปเพิ่มปริมาณขยะอวกาศที่กำลังเพิ่มขึ้นรอบโลก Reflect Orbital ต้องปฏิบัติตามกฎการกำจัดที่เข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถปลดดาวเทียมแต่ละดวงออกจากวงโคจรได้ภายใน 25 ปีหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหรือเร็วกว่านั้น
ท้ายนี้ทาง Reflect Orbital วางแผนที่จะปล่อยดาวเทียมมากถึง 57 ดวงที่ระดับความสูง 600 กิโลเมตร โดยตั้งเป้าที่จะสร้างเครือข่ายที่สามารถส่งมอบแสงอาทิตย์ได้ตามความต้องการ แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่โครงการนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างมากและถือเป็นก้าวสำคัญสู่พรมแดนใหม่ของพลังงานหมุนเวียน
ที่มา : Techspot
