นวัตกรรมเฝ้าระวังช้างป่า : Innovation Impact

ปัญหาช้างป่ารุกเข้าพื้นที่เกษตรกรรม และชุมชน เป็นปัญหาหลายพื้นที่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะสวนผลไม้ที่เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของช้างป่า ทำให้ช้างเพิ่มจำนวนขึ้นและมีแนวโน้มขยายวงกว้างเข้าถึงพื้นที่ชุมชน สร้างความเสียหายกับสวนผลไม้ ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน 

Innovation Impact จะพาทุกคนไปเจาะลึกเบื้องหลังของกลุ่มคนที่สร้างระบบเฝ้าระวังช้างป่า ที่ตำบลคลองพลู จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาช้างป่าบุกรุกเข้าพื้นที่ทำสวนของเกษตรกร


สวัสดิ์
ขำเจริญ อดีตกำนันตำบลคลองพลู ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ชองมูแฮง บอกว่า สภาพพื้นสวนผลไม้ในจังหวัดจันทบุรี มักอยู่ท่ามกลางแหล่งน้ำที่อนุรักษ์ไว้เพื่อการเกษตร กลายเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ และเป้าหมายของช้างป่า ในพื้นที่รอยต่อติดกับเขตป่าสงวนและเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ

มีประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือนร้อนจากช้างป่า 538 ครัวเรือน ต้นทุเรียนถูกทําลายไปกว่า 3,180 ต้น มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ต้นละ 12,000 บาท

“ที่ผ่านมามีความพยายามผลักดันช้างออกจากพื้นที่หลายต่อหลายครั้ง แต่ปัญหาเรื่องของการเอาช้างออกจากพื้นที่ก็ยังคงอยู่ จนกระทั่งเกิดการรวมตัวของคนในชุมชน สร้างระบบเฝ้าระวังช้างป่าด้วยกระบวนการชุมชนจากความร่วมมือของอาสาสมัครในพื้นที่ รวมกับการใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยเสริม” อดีตกำนันตำบลคลองพลู กล่าว

โครงการระบบเฝ้าระวังช้างป่าโดยชุมชนเกิดจากความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เพื่อออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ในระบบการเฝ้าระวังภัยจากช้างป่า โดยนําเอาโดรนและระบบตรวจจับความร้อนมาช่วยเฝ้าระวังช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งได้ใช้ระบบ AI เข้ามาประมวลผลรูปพรรณสัณฐานของช้างเพื่อให้เกิดความแม่นยํามากขึ้น และแจ้งเตือนไปยังอาสาสมัครให้รับทราบถึงการบุกรุกของช้าง


สวัสดิ์ บอกว่า ประโยชน์ของนวัตกรรมช่วยคุ้มครองชีวิตขออาสาสมัครในเวลากลางคืน โดนที่
โดรนอินฟราเรด (Infrared Drone) สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ในระยะไกล จะช่วยชี้เป้าให้อาสาสมัครเข้าพื้นที่ผลักดันช้างได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ตัวโดรนยังติดตั้งระบบตรวจจับช้างแบบอัตโนมัติ สามารถประเมินจำนวนช้างป่า และวิเคราะห์ได้ด้วย AI เพื่อแจ้งเตือนไปที่แอปพลิเคชันไลน์ของกลุ่มอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า เมื่อมีช้างป่าบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ ทดแทนการป้องกันด้วยวิธีดั้งเดิม อย่างการติดตั้งรั้วไฟฟ้าในพื้นที่สวนโดยรอบ

นวัตกรรม  “โดรนอินฟราเรด” กำลังถูกขยายผล และส่งต่อให้กับพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบปัญหาไม่ต่างกัน รวมถึงการต่อยอดพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างกล้องที่ติดไว้ตามต้นไม้ เพื่อเก็บข้อมูลของช้างป่าที่เข้ามาในพื้นที่ โดยในปีแรกระบบเฝ้าระวังภัยช้างป่าคาดว่าจะสามารถช่วยป้องกันภัยได้ถึงร้อยละ 20 คิดเป็นรายได้ราว 6 ล้านบาท

การอยู่ร่วมกันของคนกับช้างป่ายังคงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะช้างเป็นสัตว์ของชาติที่มีกฎหมายคุ้มครอง สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้ คือการใช้เทคโนโลยีและความร่วมมือกับชุมชนให้เข้ามามีส่วนช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด

มาร่วมกันหาคำตอบว่า ผลงานนวัตกรรมจะเปลี่ยนโลกได้อย่างไรในรายการ Innovation Impact ได้ทาง PPTV HD 36 รายการโชว์ข่าวเช้านี้ เวลา 08.20 – 09.30 น. และช่องทางโซเชียลมีเดียของ Techhub