[ทราฟฟิกหาย] แม้ฟีเจอร์ AI Overviews ของ Google จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็ว ไม่ต้องไล่คลิกหาตามเว็บต่าง ๆ อีกต่อไป แต่นั้นเองก็ทำให้ยอดคลิกเข้าเว็บหายเกือบ 50% และล่าสุดทางสื่อใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจฟ้องร้องเรื่องนี้แล้ว
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีผลวิจัยชี้ว่า AI Overviews ของ Google ทำยอดคลิกเข้าเว็บในสหรัฐฯ หายเกือบ 50% โดยเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตจากผู้ใหญ่ชาวสหรัฐฯ 900 คนเป็นเวลาหนึ่งเดือน และเหมือนเป็นการตอกย้ำผลวิจัยดังกล่าว ก็มีผู้เสียหายออกมาฟ้องร้องอย่างจริงจังแล้ว
Penske Media เจ้าของสื่อนิตยสารรายใหญ่อย่าง Rolling Stone , Billboard , Hollywood Reporter และเว็บสื่ออีกมากมาย เผย AI Overviews ได้ลดทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ของตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้หลายคน เลือกที่จะอ่าน ‘ส่วนสรุป’ หน้าค้นหาของ Google จากฟีเจอร์ดังกล่าวมากกว่า
ทางศาลรัฐบาลกลางในวอชิงตัน ดี.ซี. เผย 20% ของการค้นหาบน Google ควรจะเชื่อมโยงไปยังหนึ่งในเว็บไซต์ของ Penske แต่ตอนนี้กลับมี AI Overviews ปรากฏขึ้นมาแทน ทางด้านบริษัทสื่อดังกล่าวก็บอกด้วยว่า ตัวเลขเปอร์เซ็นต์นี้จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป อีกทั้งรายได้จากพันธมิตรของตนตลอดปี 2024 ก็ลดลงมากกว่าหนึ่งในสามจากจุดสูงสุดแล้วด้วย
อย่างไรก็ตาม Jose Castaneda โฆษกของ Google กล่าวว่า “เป็นการกล่าวหาที่ไม่มีมูล” พร้อมจะต่อสู้ในเรื่องนี้ และยังบอกด้วยว่า AI Overviews ช่วยส่งทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ที่หลากหลายมากขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Google ก็เคยเผชิญคดีฟ้องร้องที่คล้ายกันนี้จาก Chegg บริษัทเทคโนโลยีด้านการศึกษา หรือเป็นที่รู้จักในบริการเช่าตำราเรียน ก็กล่าวหาว่าฟีเจอร์ AI นี้ได้ทำลายทราฟฟิกและรายได้ของบริษัท อย่างไรก็ตาม คดีของ Penske ถือเป็นครั้งแรกที่ Google ต้องเผชิญกับการดำเนินการทางกฎหมาย จากผู้จัดพิมพ์สื่อรายใหญ่ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับความสามารถในการค้นหาด้วย AI
คดีความจาก Penske Media อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ระหว่าง โมเดลธุรกิจดั้งเดิมของผู้สร้างคอนเทนต์ กับโมเดลใหม่ของ AI ที่รวบรวมและสรุปข้อมูล ซึ่งผลลัพธ์ของคดีนี้และคดีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน อาจเป็นตัวกำหนดกติกาใหม่ระหว่าง AI และผู้สร้างข้อมูลหลังจากนี้ก็เป็นได้
ที่มา : Engadget
