ให้ AI ช่วย Google ใช้ DeepMind คุมเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น

DeepMind

Google DeepMind หน่วยงานวิจัย AI ขั้นเทพของ Google ประกาศความร่วมมือกับ Commonwealth Fusion Systems (CFS) สตาร์ทอัปด้านพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่น เพื่อสร้างพลังงานสะอาดที่ทำได้แบบไม่จำกัด

พูดง่ายๆ คือ DeepMind จะใช้ AI โมเดลที่ล้ำที่สุดของตัวเอง เข้าไปช่วยควบคุม เตาปฏิกรณ์ Sparc ที่จะสร้างเสร็จในปีหน้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตพลังงานฟิวชั่น

โดยปัญหาคอขวดที่ AI จะเข้ามาแก้คือ พลังงานฟิวชั่น ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่เกิดบนดวงอาทิตย์ ถือพลังงานสะอาดมาก ๆ เพราะมันให้พลังงานมหาศาล ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และเชื้อเพลิงหลักก็คือน้ำ

แต่การสร้างดวงอาทิตย์จำลองบนโลกนั้นยากแสนสาหัส ความท้าทายที่สุดคือ เราต้องควบคุมพลาสมาให้อยู่ในอุณหภูมิสูงจัดเป็นเวลานานๆ แต่ดวงอาทิตย์นั้น มีแรงโน้มถ่วงมหาศาลคอยกดพลาสมาไว้ แต่บนโลก CFS ต้องใช้แม่เหล็กพลังสูงทำหน้าที่แทน ซึ่งการควบคุมแม่เหล็กนี้ซับซ้อนสุดๆ เพราะมันต้องคอยปรับสมดุลพลาสมาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในระดับล้านครั้งต่อวินาทีซึ่งเป็นงานที่เกินความสามารถของมนุษย์ไปไกล

นี่คือจุดที่ AI ของ DeepMind จะเข้ามามีบทบาทครับ พวกเขาได้สร้างซอฟต์แวร์เฉพาะทางชื่อ Torax ขึ้นมา เพื่อจำลองการทำงานของพลาสมา และจะใช้ AI ประเภท Reinforcement Learning (การเรียนรู้แบบเสริมกำลัง คล้ายๆ AI ที่ใช้เล่นเกมที่เก่งกว่าคน) เพื่อทำหน้าที่เป็นนักบิน ควบคุมแม่เหล็กเหล่านั้นแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ปฏิกิริยาฟิวชั่นเดินหน้าต่อไปได้อย่างเสถียร

เป้าหมายของเตาปฏิกรณ์ Sparc คือการเป็นเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นเครื่องแรกของโลกที่สามารถผลิตพลังงานออกมาได้มากกว่า พลังงานที่ป้อนเข้าไป ซึ่งหากทำสำเร็จ นี่จะเป็นการพิสูจน์ว่า พลังงานฟิวชั่น สามารถเกิดขึ้นจริงได้

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การกุศล แต่เป็นเดิมพันที่ Google ให้ความสำคัญมาก เพราะ AI กินไฟมหาศาล และศูนย์ข้อมูล ที่ใช้รัน AI ของ Google เอง ก็ต้องการพลังงานจำนวนมหาศาลในอนาคต การมีแหล่ง พลังงานสะอาดไม่จำกัด จึงเป็นสิ่งจำเป็น

นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดว่า AI ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อแชทถามตอบหรือสร้างภาพสวยๆ เท่านั้น แต่กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการปลดล็อกปัญหาที่ ยากที่สุดของมนุษยชาติ
ปัญหาของพลังงานฟิวชั่น ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามแก้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ อาจกำลังถูกไขได้ด้วย AI

ที่น่าสนใจที่สุดคือวงจรที่กำลังเกิดขึ้นครับ หรือก็คือ AI ต้องการพลังงานมหาศาล เพื่อประมวลผล -> พลังงานฟิวชั่นคือคำตอบ ที่สะอาดและไม่จำกัด -> แต่ ฟิวชั่นทำยากมาก เพราะควบคุมพลาสมาไม่ได้ -> เลยต้อง ใช้ AI มาช่วยควบคุม

ที่มา

siliconangle