ขยายฐาน Garmin ปักหมุดไทย ตั้งโรงงานผลิตสมาร์ทวอทช์

[ไทยโตแรง] ดูเหมือนประเทศไทย กลายเป็นตลาดสำคัญของทาง Garmin แบรนด์อุปกรณ์ GPS และสมาร์ทวอทช์ชื่อดัง จนถึงขั้นประกาศขยายฐานการผลิตครั้งใหญ่ ด้วยการตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดชลบุรี พร้อมเผยข้อมูลพฤติกรรมที่น่าสนใจของคนไทย พบทำกิจกรรมการฝึกความแข็งแรง (Strength Training) เพิ่มขึ้นมากที่สุด

เมื่อไม่นานมานี้ Garmin ได้เปิดตัว Fenix 8 Pro สมาร์ทวอทช์ตัวแรกของโลก ที่มาพร้อมหน้าจอ MicroLED สุดคมชัด ให้ความสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา อ่านข้อมูลง่ายแม้อยู่กลางแดดจ้า และยังทนทานกว่าเดิมถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมสำหรับนักดำน้ำอย่าง Descent S1 ที่ช่วยสื่อสารและนำทางแบบเรียลไทม์ระหว่างนักดำน้ำกับทีมงานบนผิวน้ำได้ด้วย

แต่พร้อมกันนี้เอง ทาง Garmin ก็ได้ประกาศเลยว่าบริษัทมีผลประกอบการสูงขึ้น 16% โดยทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 3.34 พันล้านดอลลาร์ฯ ฝั่งประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้า พบโตแรงกว่า 35% สะท้อนเทรนด์สุขภาพที่ยังคงบูมต่อเนื่อง

และเพื่อรองรับการเติบโตนี้เอง ทาง Garmin ก็ได้ประกาศตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทยที่จังหวัดชลบุรี ภายใต้มาตรฐานจัดการพลังงานสากล (ISO 50001) และใช้ระบบโซลาเซลล์ พร้อมโชว์นวัตกรรมใหม่ที่จะยกระดับการใช้ชีวิตไปอีกขั้น คาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2026 โดยจะคุมเองตั้งแต่การออกแบบ , พัฒนา , ผลิต , ไปจนถึงการตลาดเลย ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพได้ 100% และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคได้ทันที

ในส่วนเทรนด์สุขภาพที่กำลังเติบโตในไทยนั้น ทางคุณศุภรดา จรูญโรจน์ รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดฯ Garmin ระบุเลยว่า เทรนด์สุขภาพยุคนี้คือ “Longevity” ที่ไม่ได้แปลว่าอายุยืนอย่างเดียว แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปด้วย Garmin จึงพัฒนานวัตกรรมใหม่ 2 แกนหลักตามนี้

Technology That Empowers Life : ยกระดับจากการเป็นแค่ ‘ผู้ติดตาม’ สู่การเป็น ‘โค้ชสุขภาพส่วนตัว’ ที่ให้คำแนะนำเชิงลึก เช่น Sleep Alignment (ใน Venu 4): ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่วิเคราะห์ว่าการนอนของเราตรงกับจังหวะชีวภาพ (Circadian Rhythm) ของร่างกายหรือไม่ เพื่อให้เราปรับเวลานอนได้อย่างเหมาะสม

Lifestyle Logging : ให้ผู้ใช้บันทึกพฤติกรรม เช่น การดื่มกาแฟ หรือแอลกอฮอล์ เพื่อดูว่ามันส่งผลต่อการนอนหรือความเครียดของเราอย่างไร

Innovation That Protects : เพิ่มความปลอดภัยในการผจญภัย ด้วย เทคโนโลยี inReach ที่สามารถส่งข้อความผ่านดาวเทียมและกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือได้ แม้ในจุดที่ไม่มีสัญญาณมือถือ

ท้ายนี้คุณศุภรดา ยอมรับว่า แม้เทคโนโลยี inReach และ SOS จะมีในสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่แล้ว แต่สำหรับในประเทศไทย ฟังก์ชันนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ (ณ ปัจจุบัน) เนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแล ซึ่ง Garmin กำลังเร่งผลักดันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้คนไทยได้ใช้ในอนาคตอันใกล้

การเติบโตแบบก้าวกระโดด , การตัดสินใจตั้งฐานการผลิตในไทย , และการปล่อยนวัตกรรมสุดล้ำอย่างจอ MicroLED ออกมา สะท้อนให้เห็นว่า Garmin ไม่ได้มองแค่การเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทวอทช์ แต่กำลังมุ่งสู่การเป็นแบรนด์เทคโนโลยีสุขภาพที่เข้าใจทุกจังหวะของชีวิตอย่างแท้จริง

ที่มา : Garmin Thailand