ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง การชาร์จก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปด้วย โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้ทำงานอยู่กับที่
ต้องยอมรับว่า เราผ่านยุคของการชาร์จแบบมีสายที่แข่งขันกันแบบทะลุ 100W มาแล้ว แต่สำหรับการชาร์จไร้สาย หรือ Wireless Charging เรากลับติดหล่มอยู่กับความเร็ว 15W มานานหลายปี
Techhub อยากพาทุกคนมาเจาะลึกเทคโนโลยีชาร์จภายในของ Ugreen หนึ่งในผลิตอุปกรณ์เสริมที่หลายคนน่าจะคุ้นตา เค้าเปิดตัว Ugreen MagFlow ที่มาพร้อมมาตรฐานใหม่ล่าสุด Qi2.2 25W ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดใหญ่ตั้งแต่ Apple เปิดตัว MagSafe
เค้าให้เรามาเทส 2 รุ่นครับ นั่นคือ Ugreen MagFlow 2-in-1 Magnetic Wireless Charger ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชาร์จตั้งโต๊ะแบบไร้สาย และ Ugreen MagFlow 10,000 mAh Magnetic Wireless Power Bank ซึ่งก็คือแบตสำรองตามชื่อเลย โดยทั้งสองรุ่น รองรับการชาร์จไร้สายเร็วถึง 25W ครับ
เราจะมาเจาะลึกกันว่า เทคโนโลยี 25W นี้เร็วจริงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ และ Ugreen ต้องแลกอะไรมาบ้างเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด 15W ที่เราคุ้นเคย
เดิมทีแล้ว โลกมีมาตรฐาน Qi ที่ชาร์จได้ 5W – 15W แต่มันมีปัญหาคลาสสิกคือการวางไม่ตรง ทำให้พลังงานสูญเสียไปมหาศาล จนกระทั่ง Apple เปิดตัว MagSafe (15W) พร้อม iPhone 12 มีการใช้แม่เหล็ก บังคับให้ขดลวดตรงกันเป๊ะ ทำให้การถ่ายโอนพลังงาน 15W เกิดขึ้นได้อย่างเสถียร แต่แน่นอนว่าเมื่อ Apple ทำ มันจะกลายเป็นเทคโนโลยีแบบปิดของ Apple
Wireless Power Consortium (WPC) หรือก็องค์กรกลุ่มความร่วมมือ ระหว่างประเทศที่ประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตชั้นนำหลายร้อยแห่ง ได้เห็นถึงศักยภาพนี้ จึงนำแนวคิดหลักของ MagSafe มาพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นมาตรฐานเปิด ในชื่อ Qi2 (Magnetic Power Profile (MPP) 15W) นี่คือการปลดล็อกให้ทั้ง Android และผู้ผลิตอุปกรณ์เสริม สามารถใช้เทคโนโลยีแม่เหล็กแบบเดียวกับ MagSafe ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แต่ Ugreen พัฒนาต่อยอดมากขึ้นด้วยมาตรฐาน Qi2.2 หรือที่ Ugreen เรียกในเชิงการตลาดว่า Qi2 25W
มันคือการอัปเกรดจาก WPC ที่เพิ่มกำลังขับไร้สายสูงสุดจาก 15W เป็น 25W นี่คืออนาคตที่แท้จริงของการชาร์จไร้สาย
แต่ความเร็ว 25W นี้ ต้องการฮาร์ดแวร์ที่รองรับ Qi2.2 โดยเฉพาะด้วยนะ ซึ่งในปัจจุบัน คือ iPhone 16/17 Series หรือ Google Pixel 10 Pro XL หากเราใช้กับ iPhone 12-15 อุปกรณ์ MagFlow 25W นี้ จะยังคงทำงานได้ แต่จะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 15W ตามมาตรฐาน MagSafe/Qi2 เดิมครับ
วัสดุและการออกแบบ
Ugreen MagFlow 2-in-1 Charger

นี่คือแท่นชาร์จสำหรับโต๊ะทำงานที่เน้นความพรีเมียมและอเนกประสงค์ที่สามารถพับเก็บและพกพาไปไหนก็ได้
- วัสดุ โครงสร้างหลักและบานพับใช้ Zinc Alloy ให้ความทนทานและสัมผัสที่เย็น ตัวฐานมีน้ำหนักถ่วง เพื่อความมั่นคง และตัวบอดี้ใช้พลาสติก PC ทนความร้อน
- ดีไซน์ ออกแบบให้สามารถพับเก็บได้ สามารถยุบตัวลงเป็นลูกบาศก์ขนาดเล็ก (ประมาณ 2.36 x 2.36 x 1.67 นิ้ว) ทำให้พกพาได้สะดวกกว่าที่คิด
- แรงดูด ใช้แม่เหล็ก 16 ตัว ให้แรงยึดเกาะที่ดีมาก เพียงพอต่อการยึด iPhone Pro Max ได้อย่างมั่นคง
Ugreen MagFlow 10,000 mAh Power Bank
นี่คือแบตเตอรี่สำรองที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริงจังนอกสถานที่

- วัสดุ บอดี้แข็งแกร่งทนทาน และมีจุดขายที่ชัดเจนคือ สาย USB-C ถัก ที่ติดมาในตัว
- ดีไซน์ สายที่ติดมานี้ทำหน้าที่ 2 อย่าง คือเป็นทั้งสายชาร์จ (Input/Output) และสายคล้อง ไปในตัว
- คุณสมบัติ มาพร้อมจอแสดงผลดิจิทัล บอกเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออย่างแม่นยำ และมีโหมด Trickle Charge สำหรับชาร์จอุปกรณ์กำลังไฟต่ำ เช่น หูฟัง ไฟฉายพกพา
ไขความเข้าใจผิด ทำไม 10,000 mAh ถึงชาร์จจริงไม่ได้ 10,000 mAh?
นี่คือประเด็นสำคัญที่เราอยากเน้นย้ำ และเป็นเรื่องที่เราค่อนข้างชื่นชม Ugreen ที่มีความโปร่งใสในทางเทคนิค
คนทั่วไปมักสับสนระหว่าง Cell Capacity (ความจุเซลล์) กับ Rated Capacity (ความจุจ่ายจริง)
- โดย 10,000 mAh ที่ระบุบน Power Bank คือความจุของเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์ที่อยู่ภายใน ซึ่งทำงานที่แรงดันไฟฟ้า 3.7V
- แต่เวลาที่เราชาร์จมือถือ เราไม่ได้ใช้ไฟ 3.7V นะ วงจรใน Power Bank ต้องทำการแปลงแรงดัน ขึ้นเป็น 5V, 9V, หรือ 12V เพื่อจ่ายไฟผ่านพอร์ต USB-C หรือขดลวดสำหรับชาร์จไร้สาย
ในกระบวนการแปลงแรงดันนี้ จะมีการสูญเสียพลังงานเกิดขึ้นในรูปแบบของ ความร้อน เสมอ
Ugreen จึงระบุ Rated Capacity หรือความจุที่ใช้งานได้จริง ของ Power Bank รุ่นนี้ไว้อย่างชัดเจนที่ 5,600 mAh
นี่หมายความว่า หากเราใช้ iPhone 16 Pro Max ที่คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ราว 4,500-5,000 mAh เราจะสามารถชาร์จมันได้ประมาณ 1.1 ถึง 1.2 รอบ เท่านั้น ไม่ใช่ 2 รอบเต็มอย่างที่หลายคนเข้าใจผิดจากการเห็นเลข 10,000 mAh
การที่ Ugreen ระบุตัวเลขนี้อย่างชัดเจน ช่วยให้เราประมาณการณ์ การชาร์จได้อย่างถูกต้อง และเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตทุกรายควรทำตาม เพราะ Power bank ทั่วไป ก็จะระบุแค่ว่า Cell Capacity
ประสิทธิภาพในการชาร์จ
MagFlow 2-in-1 Charger

ตัวเครื่องรับไฟรวม 35W แบ่งเป็น แท่นชาร์จหลัก (Magnetic Pad) 25W Max (มาตรฐาน Qi2.2) และแท่นชาร์จรอง (Base Pad) 5W Max (สำหรับหูฟัง) และมีช่อง USB-C แยกไว้สำหรับเสียบอุปกรณ์ชาร์จ Apple Watch เพิ่มเติม (เสียดายที่ไม่ได้มีมาให้ในกล่องด้วย)
การทดสอบ MagFlow 2-in-1 Charger
ตามข้อมูล Ugreen อ้างว่าชาร์จ iPhone 16 Pro Max 0-50% ได้ใน 30 นาที แต่ผลทดสอบจริงจากสื่อต่างประเทศ (MacSources) พบว่าสามารถชาร์จ iPhone จาก 15% เป็น 56% ภายใน 30 นาที ซึ่งใกล้เคียงมาก และ How-To Geek ก็ยืนยันว่าเร็วขึ้นประมาณ 60% เมื่อเทียบกับเครื่องชาร์จ 15W”
ผลลัพธ์นี้ยืนยันว่า แท่นชาร์จนี้ สามารถให้ประสิทธิภาพการชาร์จ 25W ได้จริงครับ
แต่แท่นชาร์จนี้ อาจจะมาพร้อมจุดสังเกตบางอย่างที่ทำให้บางคนไม่พอใจตอนใช้ คือ มันเป็นปัญหาในเชิงออกแบบที่ได้อย่าง เสียอย่างครับ
ด้วยการออกแบบที่เน้นความกะทัดรัด ทำให้เวลาใช้งานจริง ที่ต้องชาร์จมือถือไปพร้อมกับหูฟัง พื้นที่ในการใช้งานจะเหลือน้อยมาก ซึ่งหากเราต้องการจะเอาหูฟังออกจากแท่นชาร์จ ก็ต้องค่อย ๆ ผลักออกทางด้านข้างแทน แต่เรื่องนี้แก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการเปลี่ยนตั้งโทรศัพท์ให้ชาร์จในแนวนอนแทนครับ
MagFlow 10,000 mAh Power Bank
จากข้อมูลของ Ugreen รุ่นนี้สามารถชาร์จไร้สายจาก 0-50% ใน 30 นาที แต่ผลการทดสอบจริง ได้น้อยกว่าที่สเปคระบุครับ ซึ่งอาจมาจากสภาพแวดล้อมในการชาร์จที่แตกต่างกันจากห้องแล็ป และการใช้งานจริง

ความร้อนเป็นไงบ้าง
ต้องยอมรับว่า การชาร์จไร้สาย 25W สร้างความร้อน มหาศาล นี่คือโจทย์ที่ท้าทายที่สุด
Ugreen ใช้ระบบที่เรียกว่า ThermalGuard™” เป็นระบบ Passive Monitoring ที่ซับซ้อน ใช้เซ็นเซอร์ NTC (Thermistor) เพื่อวัดอุณหภูมิแบบถี่ยิบ ทำหน้าที่เป็นวงจรป้องกัน
ระบบนี้จะตัดการทำงานเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 70–80°C และจะกลับมาทำงาน เมื่ออุณหภูมิลดลงเหลือ 50–60°C
2 รุ่นนี้ ปลอดภัยแค่ไหน

แม้จะมีเรื่องการลดความเร็วในการชาร์จ แต่สิ่งหนึ่งที่ Ugreen ทำได้ดีคือ ความปลอดภัย พวกเขาได้ปรับแต่งวิศวกรรมความปลอดภัยให้เหมาะกับความเสี่ยงของแต่ละผลิตภัณฑ์
ในตัว Power Bank มีการออกแบบที่เรียกว่า 13-Layer Safety System ระบบนี้ครอบคลุมการป้องกันที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ โดยตรง เช่น การป้องกันอุณหภูมิสูง/ต่ำ, กระแสไฟเกิน/แรงดันไฟเกิน (Input/Output), การชาร์จไฟเกิน , การคายประจุจนหมด (Overdischarge) และการลัดวงจร
แท่นชาร์จ 2-in-1 Charger 8-Layer Safety System ระบบนี้เน้นการป้องกันที่เกี่ยวข้องกับแหล่งจ่ายไฟภายนอก และการชาร์จไร้สาย เช่น การป้องกันแรงดันไฟเข้าเกิน, ไฟฟ้าสถิต, และที่สำคัญคือ Foreign Object Detection หรือการตรวจจับวัตถุแปลกปลอม) เพื่อไม่ให้ขดลวดทำงานเมื่อมีโลหะมาวางขวาง
การที่ Power Bank มี 13 ชั้น และแท่นชาร์จมี 8 ชั้น ไม่ได้แปลว่าตัวใดปลอดภัยน้อยกว่านะครับ แต่แสดงให้เห็นว่า Ugreen ใส่ใจในรายละเอียดความเสี่ยงที่แตกต่างกันของผลิตภัณฑ์ทั้งสอง
สรุป
ต้องยอมรับว่า เจ้าซีรีส์ Ugreen MagFlow 25W คือหนึ่งในการการบุกเบิกมาตรฐาน Qi2.2 25W เข้าสู่ตลาดแมสมากขึ้น
Ugreen MagFlow 2-in-1 Charger
- จุดเด่น นี่คือผลิตภัณฑ์ที่พิสูจน์แล้วว่า 25W Qi2.2 ทำได้จริงและเสถียร การระบายความร้อนแบบพาสซีฟเพียงพอ วัสดุและการออกแบบพรีเมียม
- จุดสังเกต อาจจะมีปัญหาด้านการออกแบบ ที่ต้องหากต้องใช้คู่กับการชาร์จหูฟังมันอาจจะคับแคบไปนิดนึง แต่เราสามารถเปลี่ยนเป็นการชาร์จแบบแนวนอนได้
แต่หากเรามี Smartphone ที่รองรับ Qi2.2 ต้องยอมรับว่า นี่คือแท่นชาร์จ ที่ชาร์จได้เร็วที่สุดในตลาดแล้ว
Ugreen MagFlow 10,000 mAh Power Bank
- จุดเด่น นี่คือ Power Bank 30W แบบมีสาย ที่ออกแบบมาอย่างดี ตัวเล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย ตัวสายเป็นได้ทั้ง Input และ Output พร้อมจอดิจิทัลแสดงสถานะแบตเตอรี่คงเหลือ
- จุดสังเกต ด้วยประสิทธิภาพการชาร์จไร้สายระดับ 25W ทำให้เกิดความร้อนสะสมได้ง่าย ตัวเซนเซอร์ในแบต จึงต้องลดประสิทธิภาพลงเป็นบางครั้ง เพื่อรักษาระดับอุณหภูมิไม่ให้เยอะจนเกินไป จึงทำให้ ไม่ได้การชาร์จที่ 25W ตลอดเวลาในการชาร์จครับ
ถ้าต้องการ Power Bank ที่ใช้งานได้หลากหลาย, สามารถชาร์จผ่านสายได้สูงถึง 30W ตัวนี้ก็เหมาะสมอย่างมาก แต่หากคาดหวังจะได้ความเร็ว 25W ในการชาร์จไร้สายตลอดเวลา ก็ต้องบอกตามความจริงว่า มันอาจจะตอบโจทย์ได้ไม่ทั้งหมดนะ








