ในยุคดิจิทัลที่แข่งขันดุเดือด ธุรกิจต้องวิ่งแข่งกับเวลาด้วยสถาปัตยกรรมล้ำสมัยอย่าง Cloud-Native, Microservices และ Containerized Applications แต่เบื้องหลังความคล่องตัวสุดล้ำนี้ กลับซ่อนความซับซ้อนมหาศาล! ระบบได้แปรสภาพเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ นับพันที่พลิกผันตัวเองทุกวินาที สร้าง Ephemeral System ที่คอนเทนเนอร์เกิดและดับได้ในพริบตา
แต่นี่คือวิกฤต! เครื่องมือ APM แบบเก่าพังทลายอย่างสิ้นเชิง ไม่อาจตามทันโลกที่หมุนไวเหมือนพายุ ช่องว่างอันตรายปรากฏขึ้นทุกที่ เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมระเบิดทุกวินาที!
แต่ IBM Instana Observability มาถึงแล้ว! ไม่ใช่แค่แดชบอร์ดธรรมดา แต่เป็นอาวุธลับที่ขับเคลื่อนด้วย AI/ML อันทรงพลัง มันล่า ติดตาม และถอดรหัสปัญหาแบบเรียลไทม์ ด้วยความแม่นยำสุดเฉียบคม! รองรับทุกมิติ ตั้งแต่ Gen AI Monitoring ไปจนถึง Root Cause Analysis ที่ทะลุทะลวงถึงแก่นของปัญหา ก่อนที่มันจะทำลายประสบการณ์ลูกค้า
Instana คือผู้พิทักษ์ที่ไม่หลับไม่นอน พร้อมกำจัดภัยคุกคามก่อนลูกค้าจะรู้ตัว! และเมื่อคู่กับ Ingram Micro ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่พิสูจน์ตัวเองมา 30 ปีในไทยและ 57 ประเทศ พร้อมรางวัล Top Partner มากมาย คุณจะได้ Infrastructure ที่แกร่งสุดจาก IBM มาครองในมือ! พร้อมพิชิตทุกความท้าทายแล้ว!
IBM Instana เครื่องมือสังเกตการณ์โดย AI

IBM Instana Observability คือ แพลตฟอร์มการสังเกตการณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับโลกยุคใหม่ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนี้โดยเฉพาะ
หัวใจของ Instana ไม่ใช่แค่การเป็นแดชบอร์ดที่รอให้คนมานั่งดู แต่เป็นระบบอัตโนมัติ ที่เข้าใจแอปพลิเคชันต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง เป็นแพลตฟอร์มที่ฝังระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์ (Gen AI performance monitoring) เข้าไปในทุกส่วนของกระบวนการสังเกตการณ์
ตั้งแต่การตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน (APM) การตรวจสอบประสบการณ์ของผู้ใช้ปลายทาง (End-User Experience Monitoring) ไปจนถึงการวิเคราะห์สาเหตุหลักของปัญหา (Root Cause Analysis) และการตรวจจับความผิดปกติ (Anomaly Detection)
พูดง่ายๆ คือ Instana ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดและแก้ไขปัญหาต่างๆ ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อลูกค้า
5 เสาหลักที่ทำให้ IBM Instana แตกต่างจาก Observability ทั่วไป
1.ความละเอียดสูงสุด 1 วินาที และข้อมูลครบ 100%
โดยเครื่องมือมอนิเตอร์ส่วนใหญ่ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างเพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ลองนึกภาพว่า เรากำลังตรวจสอบการจราจรบนทางด่วนโดยการดูภาพทุกๆ 1 นาที เราอาจจะเห็นภาพรวมว่าการจราจรโดยเฉลี่ยเป็นอย่างไร แต่อาจจะพลาดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและจบลงภายใน 10 วินาที ซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริงของรถติด
Instana ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม โดยการไม่สุ่มตัวอย่าง แต่จะทำการติดตามแบบกระจายของทุกคำขอ และเก็บข้อมูลที่ความละเอียดระดับ 1 วินาที เปรียบเสมือนการมีกล้องวิดีโอความละเอียดสูงติดอยู่ที่รถทุกคันบนทางด่วนตลอดเวลา
ทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญ? เพราะข้อมูลที่มีความเที่ยงตรงสูงสุดนี้ คือเชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับ AI ในการวิเคราะห์หาต้นตอของปัญหา ซึ่ง AI ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากมันได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และการมีข้อมูลที่ละเอียดระดับ 1 วินาที ทำให้ Instana หมดปัญหาช่องว่างข้อมูลและมั่นใจได้ว่าจะไม่พลาดปัญหาใดๆ แม้จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา
2.อัตโนมัติเต็มวงจร (ค้นหา-แม็ป-มอนิเตอร์)
ในโลกของ Ephemeral System ที่เซอร์วิสใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นตลอดเวลา การที่นักพัฒนาต้องมานั่งกำหนดค่า Configure เครื่องมือมอนิเตอร์ด้วยตนเองทุกครั้งถือเรื่องที่สร้างภาระอย่างหนัก
ลองนึกภาพว่า หากเป็นวิธีเก่า นักพัฒนา Deploy ไมโครเซอร์วิสตัวใหม่ จากนั้นต้องไปที่เครื่องมือมอนิเตอร์, เพิ่มเซอร์วิสใหม่, ตั้งค่าว่าจะวัดผลอะไร, และลากไปใส่ในแดชบอร์ด (ยุ่งยากสุดๆ )
วิธีของ Instana คือ เมื่อนักพัฒนา Deploy ไมโครเซอร์วิสตัวใหม่ ทันทีที่เซอร์วิสเริ่มทำงาน Instana จะค้นพบมันโดยอัตโนมัติ จากนั้นจะทำแผนที่ ว่ามันเชื่อมต่อและพูดคุยกับเซอร์วิสอื่นใดบ้าง, สุดท้ายคือ เริ่มตรวจสอบทันที โดยไม่ต้องให้มนุษย์เข้ามาแทรกแซง
ความสามารถในการทำแผนที่นี้คืออาวุธลับของ Instana มันไม่ได้แค่เห็นว่ามีเซอร์วิสใดบ้าง แต่ยังสร้างบริบทของแอปพลิเคชัน ที่เป็นโมเดลสดๆ ว่าทุกส่วนประกอบเชื่อมโยงกันอย่างไร
เมื่อเกิดปัญหา Instana จึงไม่ได้เห็นแค่ว่าฐานข้อมูลช้า แต่จะเห็นว่าฐานข้อมูลของเซอร์วิสการชำระเงินกำลังช้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อเซอร์วิสจัดการสินค้าคงคลังด้วย บริบทนี้เองที่ทำให้ AI ในเสาหลักถัดไปทำงานได้อย่างแม่นยำ

3.ผู้ช่วยอัจฉริยะ AI วิเคราะห์สาเหตุอัตโนมัติ
นี่คือจุดที่ข้อมูลแบบละเอียดจากเสาหลักข้อ 1 และบริบทจากเสาหลักที่ 2 ถูกนำมาใช้งานจริง
เมื่อระบบล่มด้วยวิธีเก่า ทีมงานจะเจอกับพายุการแจ้งเตือน เช่น ฐานข้อมูลล่ม ทำให้เกิดการแจ้งเตือน 50 รายการพร้อมกัน ซึ่งอาจทำให้เกิด การใช้งาน CPU สูง, หน่วยความจำต่ำ, แอปช้า, ผู้ใช้เข้าไม่ได้ บลา บลา และทีมงานต้องมานั่งวิเคราะห์ด้วยตนเองว่าการแจ้งเตือนใดคือสาเหตุและอันไหนเป็นแค่อาการ
Instana ทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ที่ทำงาน 24/7 ด้วยการใช้ Machine Learning และ Generative AI ที่ติดตั้งมาในตัว มันจะย่อยข้อมูล 1 วินาทีทั้งหมด, เปรียบเทียบกับแผนที่ของระบบ, และทำการวิเคราะห์สาเหตุหลักที่น่าจะเป็น โดยอัตโนมัติ แต่แทนที่จะส่ง 50 การแจ้งเตือน Instana จะส่งเหตุการณ์ เพียงหนึ่งเดียวที่สรุปมาแล้วว่าปัญหาคืออะไร และต้นตอมาจากไหน ทำให้ช่วยลดเวลาแก้ปัญหา MTTR (Mean Time To Repair/Resolve) ลงถึง 70%
4.ตอบสนองต่อเหตุการณ์เร็วขึ้น 75% ด้วยการแนะนำการแก้ไขอัตโนมัติ
Instana ไม่ได้หยุดแค่การบอกว่าอะไรคือปัญหา แต่แนะนำด้วยว่า ควรแก้ไขอย่างไร
นี่คือการทำงานในฐานะ ผู้ช่วยอัจฉริยะ โดยระบบจะดำเนินการสิ่งต่าง ๆ อย่างชาญฉลาด โดยอิงจากสาเหตุหลักที่วิเคราะห์ได้จากเสาหลักที่ 3 ซึ่งหมายความว่า Instana ไม่เพียงแค่แนะนำแต่ยังสามารถสั่งการระบบอื่นๆ ให้ทำการแก้ไขอัตโนมัติได้ (Automated incident remediation) เช่น การรีสตาร์ทเซอร์วิสที่ล่ม, การขยายขนาด หรือแม้แต่การสั่ง Rollback โค้ดที่เพิ่งปล่อยออกไป
5.คืนเวลาให้นักพัฒนา 90%
นี่คือผลลัพธ์ทางธุรกิจสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อมนุษย์ที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกันของ 4 เสาหลักแรก
ตัวเลข 90% ไม่ใช่การปรับปรุงที่ดูเล็กน้อยเลย แต่มันคือการปฏิรูป นี่คือการแก้ปัญหา วงจรปัญหาแบบเดิมที่เราพูดถึงในตอนต้นได้อย่างสมบูรณ์
Instana ช่วยปลดปล่อยนักพัฒนาจากการเป็นทีมสนับสนุน ให้กลับไปเป็น นักพัฒนานวัตกรรม โดยองค์กรสามารถนำเวลานี้ไปใช้สร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อแข่งขันในตลาดได้เร็วขึ้น โดยเป็นเป้าหมายดั้งเดิมของการนำสถาปัตยกรรมยุคใหม่มาใช้ตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ เครื่องมือที่ทรงพลังอย่าง IBM Instana ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการรับมือกับความซับซ้อนของสถาปัตยกรรมยุคใหม่ แต่การนำแพลตฟอร์ม Observability อัจฉริยะนี้มาปรับใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย
โดยการติดตั้งและเชื่อมต่อ Instana ให้เข้ากับระบบเดิม หรือโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ซับซ้อน ไม่ใช่แค่เรื่องทางเทคนิค แต่คือการวางกลยุทธ์เพื่อให้ได้มาซึ่งการสังเกตการณ์ที่ไร้รอยต่อ
และนี่คือจุดที่บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องมี Partner ที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในระบบนิเวศของเทคโนโลยีทั้งหมดเข้ามามีบทบาทสำคัญ

Ingram Micro (Thailand) ในฐานะตัวแทนจำหน่ายโซลูชันไอทีชั้นนำที่ดำเนินงานในประเทศไทยมากว่า 30 ปี ไม่ได้มอง Instana เป็นเพียงผลิตภัณฑ์เดี่ยวๆ แต่มองเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันที่ครบวงจร ด้วยความเชี่ยวชาญในการวางระบบของ IBM ทั้งด้าน Data Management ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Infrastructure ที่ปลอดภัย Ingram Micro มีความพร้อมในการทำให้เรื่องซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่าย โดยผสาน Instana เข้ากับเทคโนโลยีหลักขององค์กรได้อย่างลงตัว
ฉะนั้นการเลือกพันธมิตรที่เหมาะสม คือการรับประกันว่าองค์กรจะสามารถปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของ Instana ได้สำเร็จครับ โดยทีมงานมืออาชีพที่ได้รับการรับรอง และการันตีด้วยรางวัลจากแบรนด์ชั้นนำ จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงการฝึกอบรม เพื่อให้องค์กรสามารถเปลี่ยนเวลาที่เคยใช้ดับไฟกลับไปสู่การสร้างนวัตกรรม ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก
ดูข้อมูลเพิ่มเติม : >>> https://now.ingrammicro.com/th-ibm-solutions








