ให้ AI ช่วย รพ.บำรุงราษฎร์ สุดล้ำ เปิดระบบตรวจสุขภาพอัจฉริยะ

[แม่นยำระดับยีน] เคยไหม ? อยากตรวจสุขภาพ แต่กลับไปยืนงงหน้าเคาน์เตอร์โรงพยาบาล เพราเจอแพ็กเกจตรวจสุขภาพให้เลือกเป็นร้อย จนไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนดี เลือกถูกไปก็กลัวไม่ครอบคลุม เลือกแพงไปก็ได้ตรวจอะไรไม่รู้ที่ไม่ได้เสี่ยง

ล่าสุดทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ประกาศแก้ Pain Point ดังกล่าว ด้วยการเปิดตัว “Smart Personalized HealthMatch” และ “Biological Age” ชูเทคโนโลยีสร้างเส้นทางสุขภาพเฉพาะบุคคล เปลี่ยนโลกการตรวจสุขภาพเดิม ๆ ให้กลายเป็นเรื่องของ Big Data และ Algorithm พร้อมดันประเทศไทย ให้กลายเป็น Medical Hub หรือศูนย์กลางด้านการแพทย์ขั้นสูงของภูมิภาคในระดับโลก

“ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยระบบการดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิม มักมุ่งเน้นการตรวจเพื่อหาโรค หลังจากอาการปรากฏ”

ดร.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้กล่าวถึงสถิติของการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก พบมีมากกว่า 70% มาจากโรคเรื้อรังไม่ติดต่อ และกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคร้าย ก็มารู้หลังมีอาการปรากฏแล้วนั้นเอง จนสายเกินกว่าจะรักษาได้แล้ว

ด้วยเหตุนี้เอง ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในฐานะผู้นำด้าน Smart Preventive Health หรือการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน จึงประกาศใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง Big Data และ Algorithm เข้ามาช่วยในการตรวจจับความเสี่ยง เพื่อวางแผนสุขภาพ และป้องกันก่อนเกิดโรค

Smart Personalized HealthMatch ระบบช่วยเลือกแพ็กเกจตรวจสุขภาพ

ประเดิมด้วยการใช้ Data Science ที่ทางโรงพยาบาลเก็บสะสมมากว่า 45 ปี มาพัฒนาเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่สามารถคัดกรองแพ็กเกจตรวจสุขภาพที่เหมาะกับเราจริง ๆ โดยนำข้อมูลส่วนตัวทั้งอายุ , เพศ , กรรมพันธุ์ และไลฟ์สไตล์ มาร่วมประมวลผลแบบ Real-time เพื่อลดความซับซ้อนให้เสร็จสิ้นในไม่กี่นาที

จากนั้นก็ใช้หลักการทางการแพทย์ มาจับคู่ความเสี่ยง จนได้แพ็กเกจตรวจสุขภาพที่ตรงจุด ประหยัดเวลา และคุ้มค่าเงินที่สุด

Biological Age วิเคราะห์อายุที่ร่างกายในระดับเซลล์

หากถามถึงอายุ หลายคนสามารถตอบได้แน่นอน (ถ้าหมอถามอ่านะ..) แต่ก็ถามถึงอายุเซลล์ แน่นอนว่าไม่รู้ หรือไม่ก็คิดว่ามันมีด้วยหรือ ? จุดนี้ทางโรงพยาบาลเผยเลยว่าร่างกายคนเรามีอายุที่แท้จริง และสามารถตรวจได้ผ่านระบบ AI ขั้นสูง ที่ช่วยค้นหาอายุทางชีวภาพของร่างกาย

ทั้งนี้ก็เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง (โรคหัวใจ , มะเร็ง , สมองเสื่อม) และวางแผนการดูแลสุขภาพในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจุดนี้ก็มีการใช้ฐานข้อมูลผู้ป่วยกว่า 200,000 ราย นับเป็นการวัดผลแบบวิทยาศาสตร์ที่จับต้องได้นั้นเอง

Medical Hub ในไทย

สำหรับการผลักดันไทยให้เป็น Medical Hub ของภูมิภาคนั้น ทาง ดร.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ได้กล่าวต่อเลยว่า ตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลกคาดว่าจะโตถึง 704.8 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2033 โดยโตเฉลี่ยถึงปีละ 19%

ในขณะที่ Medical Tourism ในไทยเติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี กับมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพคิดเป็นประมาณ 5% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP ไทยที่เฉลี่ยเพียง 2 – 3% จึงเห็นได้ชัดว่ามูลค่าเม็ดเงินใน Sector สุขภาพ เติบโตมากกว่าเศรษฐกิจไทยเกือบ 3-5 เท่า ทำให้ธุรกิจ Healthcare เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจระยะยาว

การขยับตัวของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ครั้งนี้ น่าสนใจตรงที่การเปลี่ยน Healthcare ให้กลายเป็น Data-Driven อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อไปนี้การดูแลตัวเองจะไม่ใช่เรื่องของความรู้สึก แต่เป็นเรื่องของตัวเลขและสถิติที่ AI บอกเราล่วงหน้าก่อนที่โรคจะถามหา