Microsoft ประกาศล่วงหน้าแบบข้ามปี ว่าเตรียมจะปรับโครงสร้างราคา Microsoft 365 สำหรับลูกค้าองค์กรใหม่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าด้วยการใส่เทคโนโลยี AI อย่าง Microsoft Copilot และระบบความปลอดภัยขั้นสูงเข้าไปในแพ็กเกจมาตรฐาน
การ ขึ้นราคา Microsoft 365 ครั้งนี้ ไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ Microsoft พยายามชูจุดขายเรื่อง AI-powered future โดยสิ่งที่ผู้ใช้งานจะได้รับเพิ่มขึ้นหลักๆ คือ
1.AI อยู่ทุกที่ Microsoft Copilot จะทำงานได้ลึกขึ้น เข้าใจบริบทใน Inbox และ Calendar ของเรา ทำให้การทำงานเอกสารบน Word หรือ Excel เชื่อมโยงกันได้แบบไร้รอยต่อ
2.ความปลอดภัยระดับองค์กร ใครที่กลัวเรื่อง Phishing หรือ Ransomware ทาง Microsoft จะเพิ่มฟีเจอร์ Microsoft Defender เข้ามาในแพ็กเกจ E3 และเพิ่มระบบเช็ก URL อันตรายให้แม้กระทั่งแพ็กเกจ Business ธรรมดา
3.เอาใจฝ่าย IT เพิ่มเครื่องมือจัดการอุปกรณ์ ให้แก้ปัญหาเครื่องพนักงานได้รวดเร็วขึ้น
ถึงแม้ ราคา Microsoft 365 ปี 2026 จะมีการปรับตัวสูงขึ้น (ซึ่งราคายังไม่ระบุชัดเจนในไทยนะ) แต่ Microsoft ก็ให้เวลาองค์กรต่างๆ เตรียมตัวนานกว่า 1 ปี เพื่อวางแผนงบประมาณ IT กันล่วงหน้า
การประกาศล่วงหน้านานขนาดนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับฝ่ายจัดซื้อและ IT ในองค์กรที่จะได้ไม่ช็อกตาตั้ง แต่คำถามสำคัญคือเราจำเป็นต้องใช้ทุกฟีเจอร์ที่เขาดารดาษใส่มาให้หรือเปล่า?
โดยเฉพาะฟีเจอร์ AI และ Copilot ที่ถูกจับมัดรวมเข้ามาเพื่ออัปราคา สำหรับองค์กรใหญ่ที่เน้นความปลอดภัยและ Productivity อาจจะมองว่าคุ้มค่า เพราะได้ Security ตัวท็อปมาด้วย แต่สำหรับ SME หรือองค์กรเล็กๆ ที่แค่อยากใช้ Word/Excel พิมพ์งาน การโดนบังคับจ่ายเพิ่มแลกกับฟีเจอร์ที่อาจไม่ได้ใช้ อาจจะเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่น้อยแหละนะ
ที่มา
Advancing Microsoft 365: New capabilities and pricing update








