เอเซอร์เสริมทัพผลิตภัณฑ์กลุ่มเกมมิ่ง ‘พรีเดเตอร์’ เดสก์ท็อปและมอนิเตอร์ Predator X32 เกมมิ่งมอนิเตอร์ คว้ารางวัล CES Innovation Award

  • Predator Orion 5000 เกมมิ่งเดสก์ท็อปสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ตัวจริง มาพร้อมพลังประมวลผลของโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel® Core i7 จับคู่กับชิปเซ็ต Intel H670 รองรับการ์ดจอได้สูงสุด NVIDIA® GeForce RTX 3080 GPU, 64GB DDR5 4,000 MHz
  • Predator Orion 3000 เกมมิ่งเดสก์ท็อปพลังประมวลผล 12th Gen Intel® Core™ i7 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Intel B660 รองรับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 GPU พร้อมหน่วยความจำ DDR4 64 GB 3200 MHz
  • Predator Orion 5000 และ Orion 3000 โดดเด่นด้วยรูปโฉมใหม่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ด้วยส่วนประกอบกระจกสีเข้ม พลาสติก โลหะและตาข่าย
  • Predator X32 และ X32 FP เกมมิ่งมอนิเตอร์ เทคโนโลยี IPS[1] ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน VESA DisplayHDRTM 1000 และหลอดไฟแบบ Mini Led ให้ความส่องสว่างได้ทั่วจอถึง 576 โซน, รีเฟรชเรท 160 – 165 Hz (overclocked) นอกจากนี้ Predator X32 ยังได้รับรางวัล CES Innovation Award ในหมวด “อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ & อุปกรณ์เสริม”
  • Predator CG48 เกมมิ่งมอนิเตอร์ 4K OLED 138 Hz ขนาด 48” ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AMD FreeSyncTM Premium Pro[2, 3]™ Predator CG48 ออกแบบสำหรับคอเกมที่ชื่นชอบการเล่นเกมส์บนเดสก์ท็อปและเครื่องเล่นเกมแบบจริงจัง เพื่อความสนุกสมจริงกับภาพที่เหนือระดับอีกขึ้น

เอเซอร์ อัพเดทไลน์ผลิตภัณฑ์เกมมิ่งเดสก์ท็อป Predator Orion 5000 เอาใจคอเกมที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถอัพเกรดได้อย่างต่อเนื่อง และ Predator Orion 3000 เกมมิ่งเดสก์ท็อประดับกลาง และมอนิเตอร์ Predator จอแสดงผลคุณสมบัติ OLED IPS[1] มาพร้อมระบบภาพระดับ VESA DisplayHDR™ 1000 และอัตรารีเฟรชสูงน่าประทับใจ นอกจากนี้แล้วยังประกาศถึงการคว้ารางวัล CES Innovation Award ของมอนิเตอร์ Predator X32 ในหมวด “อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ & อุปกรณ์เสริม”

Predator Orion 5000เกมมิ่งเดสก์ท็อปสายโหด คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะสำหรับเล่นเกมเน้น ๆ

Predator Orion 5000 ครบครันทั้งพลังประมวลผลล่าสุดอย่าง 12th Gen Intel® Core i7 processor[4] พร้อมชิปเซ็ต Intel H670 และหน่วยประมวลผลกราฟิกจาก NVIDIA® GeForce RTX 3080 GPU เติมเต็มอรรถรสของการเล่นเกมแม้ในเวลาที่กราฟิกอัดแน่นแบบสุดๆ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11, 64GB DDR5 4,000 MHz, SSD M.2 PCIe 4.0 สูงสุด 2TB[5] ช่วยรักษาเฟรมและควบคุมอุณหภูมิด้วย Predator FrostBlade™ 2.0 พัดลมระบายอากาศที่มีไฟ LED แบบ ARGB ออกแบบแรงดันคงที่เพื่อประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศและลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนด้วยแบริ่งไรเฟิลแบบปิดและการออกแบบรูปทรงโค้งใหม่ที่ปลายใบพัด

พลังประมวลผลที่ทรงพลังและ ARGB ถูกอัดแน่นอยู่ใน Predator Orion 5000 ที่ตัวเครื่องประกอบด้วยกระจกสีเข้ม ตาข่ายโลหะ ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน EMI ช่วยปกป้องผู้ใช้งานและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ จากการรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้า. ดีไซน์ของ Predator Orion 5000 ช่วยให้การเข้าถึงภายในตัวเครื่องและการอัพเกรดทำได้ง่ายขึ้นโดยแทบไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดระบบระบายความร้อนด้วยอากาศของ CPU มาเป็นเครื่องทำความเย็นด้วยของเหลวขนาด 240 มม. ก็สามารถทำได้ง่าย ที่สำคัญการตั้งค่าของฮาร์ดแวร์ยังยืดหยุ่นพร้อมรองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมในอนาคตอย่างเต็มพิกัด

เอาชนะทุกสนามลดปัญหาความหน่วงด้วย Killer E3100G 2.5G Ethernet Controller และ Intel Wi-Fi 6E[4] เพื่อการแข่งขันออนไลน์ที่ต่อเนื่อง เติมเต็มอรรถรสความบันเทิงด้วย DTS:X® Ultra ที่เปลี่ยนหูฟังหรือลำโพงให้เป็นเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ 360 องศา พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x Type-A และ 1x Type-C รวมถึง audio-jack  ที่มีให้พร้อมสรรพและสะดวกในการใช้งานด้วยตำแหน่งด้านบนของตัวเครื่องที่ โดยที่ยังคงพอร์ตด้านหลังของตัวเครื่องเพื่อช่วยป้องกันสายเคเบิลที่ย้ายไม่บ่อยนักให้พ้นสายตา

Predator Orion 3000เกมมิ่งเดสก์ท็อปขนาดกลางกับสเปคที่ไม่ธรรมดา

Predator Orion 3000 ได้รับการออกแบบมาเพื่อคอเกมที่แสวงหาประสบการณ์เล่นเกมที่เยี่ยมยอดที่สุดจากคอมพิวเตอร์ระดับกลาง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ภายในที่ทรงพลังไต่ระดับไปได้ถึงโปรเซสเซอร์รุ่น 12th Gen Intel Core i7 processor (บนชิปเซ็ท Intel B660) และหน่วยประมวลกราฟฟิกแบบ NVIDIA GeForce RTX 3070 GPU เรียกได้ว่าคอเกมจะได้สนุกกับเกมโปรด ตลอดจนใช้งานบริการสตรีมมิ่งหรือตัดต่อวิดีโอได้แบบไร้จุดสะดุด ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีหน่วยความจำ 64GB DDR4 3,200 MHz, SSD PCIe NVMe 2TB ช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองและโหลดข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ผู้ใช้งานเคลื่อนไหวในเกมได้เร็วราวสายฟ้าฟาด หากใครยังคิดว่าความจุ 2 เทราไบต์ไม่จุใจ ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบ SATA3 HDD ขนาด 6TB ติดตั้งมาให้ด้วย. Predator Orion 3000 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 ตัวเครื่องดีไซน์สวยงามสะดุดตาเหมือน Orion 5000 ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจกสีเข้ม ตาข่ายโลหะ แผงด้านข่าวที่โปร่งใสเป็นไปตามข้อกำหนดของ EMI ติดตั้ง Predator FrostBladeTM 2.0 มาถึง 3 ตัว ช่วยปรับการไหลเวียนของอากาศภายในให้เย็นลง นอกจากนี้แล้วตรงกลางของพัดลมด้านหน้าและด้านหลังติดตั้งไฟ LED RGB ติดอยู่ในตัว ผู้ใช้งานสามารถเลือกสีที่ต้องการได้ผ่านซอฟต์แวร์ PredatorSense

มั่นใจในการต่อสู้ทุกสนามออนไลน์ไม่หน่วง ไม่ขาดตอนด้วย Intel Killer E2600 Ethernet controller, Intel Wi-Fi 6E AX211 (Gig+)[4] และ Control Center 2.0 พร้อมเต็มอิ่มกับพลังเสียงเหมือนนั่งอยู่ในสนามรบออนไลน์จริงๆ หรือจะเพลิดพลินกับภาพยนตร์ เพลงและเกมโปรดด้วย DTS: X Ultra

Predator X32 และ X32 FP: เกมมิ่งมอนิเตอร์

Predator X32 และ X32 FP เกมมิ่งมอนิเตอร์รุ่นใหม่ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อความสมดุลของประสิทธิภาพที่เกมเมอร์ต้องการกับคุณสมบัติด้านการแสดงผลที่ครีเอเตอร์ต้องการ ด้วยอัตรารีเฟรซเรท 160Hz และ165 Hz  โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดหน้าจอ 32 นิ้วแบบ UHD (3,840 x 2,160) ได้รับการรับรองมาตรฐาน VESA DisplayHDRTM 1000  จอผ่านมาตรฐาน IPS รองรับการหรี่แสงเฉพาะจุดแบบ 576-zone miniLED ความแม่นยำของสีแตะระดับ Delta E<2 color และสามารถแสดงสีได้มากถึง 99% ของจานสี AdobeRGB เรียกได้ว่าภาพบนหน้าจอทั้งแจ่ม ทั้งไหลลื่น ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติจำเป็นสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องคอยดูวัตถุที่อาจจะโผล่พรวดมาจากมุมใดมุมหนึ่งของหน้าจอขณะที่พวกเขากำลังเล่นเกม

Predator X32 ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมด้วยคุณสมบัติของ NVIDIA G-SYNC® ULTIMATE เป็นส่วนประกอบ ภาพที่ปรากฎบนหน้าจอจึงสมจริงให้ความละเอียดระดับ HDR และมีอัตราความหน่วงต่ำสุด ๆ ช่วยให้สนุกกับการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น สำหรับการเล่นเกมหรือการแข่งขันที่ต้องมีผู้เล่นหลายคน เกมเมอร์จะต้องชื่นชอบ NVIDIA Reflex ชุดเทคโนโลยีที่ช่วยลดความหน่วงของระบบ (click-to-display latency) ในเกมออนไลน์ และช่วยเปิดทางให้ผู้เล่นเกมเข้าถึงเป้าหมายและตอบสนองกับเกมได้เร็วกว่าที่เคย รวมถึงยังเล็งเป้าได้อย่างแม่นยำด้วย ที่สำคัญ จอรุ่นนี้คว้ารางวัล CES Innovation Award เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จอ Predator X32 FP มาพร้อมช่อง HDMI 2.1 พร้อมให้ผู้ใช้งานสนุกกับการเล่นเกมพร้อมประสบการณ์ภาพความละเอียดระดับ 4k ไม่ว่าจะเป็นการเล่นจากตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เองหรือจากเครื่องเล่นเกม ด้วยอัตราการรีเฟรชที่สูงถึง 165 Hz (ตั้งค่าสูงกว่าค่าเริ่มต้นจากโรงงาน) และอัตราตอบสนองที่รวดเร็วภายใน 1 มิลลิวินาที จอสำหรับเล่นเกมรุ่นนี้เป็นจอความละเอียดระดับ 4K ที่ทำงานได้เร็วที่สุดในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน แถมยังมีเทคโนโลยี AMD FreeSyncPremium Pro ช่วยเสริมประสบการณ์การเล่นเกมให้เต็มอิ่ม รองรับระบบภาพแบบ HDR ภาพชัดนวลเนียน อัตราความหน่วงต่ำตลอดการทำงานแม้แต่ในช่วงฉากเกมที่มีภาพกราฟฟิกเยอะเต็มพิกัด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มีช่องยูเอสบีแบบ Type-C มาให้ด้วย รองรับการชาร์จไฟถึง 90 วัตต์

Predator CG48: มอนิเตอร์สำหรับคอเกม

Predator CG48 เกมมิ่งมอนิเตอร์หน้าจอขนาด 48” ให้ภาพคมชัดด้วยความละอียด 4K อัตรารีเฟชภาพ 138 Hz  มาพร้อม HDMI 2.1[6] และ DisplayPort 1.4 ที่เกมเมอร์สามารถมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การเล่นจะดีขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอนแม้จะเป็นการเล่นเกมจากเครื่องเล่นเกมก็ตาม Predator CG48 มาพร้อมพอร์ท และยังมี USB 3.2 มาถึง 4 ช่อง แถมด้วยช่องยูเอสบี Type-C อีกหนึ่ง เรียกได้ว่ามีช่องทางเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงมากมายตอบสนองความต้องการใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้แล้ว เทคโนโลยี AMD FreeSync Premium Pro[3] และอัตราการตอบสนองการเปลี่ยนสีที่ไวถึง 0.1 มิลลิวินาที ช่วยให้การเล่นเกมที่ภาพความละเอียดระดับ 4K แบบรวดเร็วเป็นอันดับต้นๆ เป็นไปได้จริง[[1]] ทั้งนี้ AMD รับประกันว่าจอแสดงผลที่ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium Pro ทุกชิ้นสามารถปรับอัตรารีเฟรชได้อย่างอิสระเพื่อการแสดงภาพอย่างไร้จุดสะดุด ลดปัญหาภาพเหลื่อมเคลื่อนแตก กระตุก แสดงภาพผิดปกติ หรือภาพสั่นให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด

Predator CG48 OLED ให้ค่าคอนทาสต์ที่ 135K:1 ความละเอียดระดับ HDR10 แสดงสีได้มากถึง 98% ของจานสี DCI-P3 พร้อมส่งมอบภาพในระดับที่โดดเด่นเป็นอับดับต้น ๆ ของวงการในยุคปัจจุบัน จอแบบ OLED ของผลิตภัณฑ์นี้สามารถสั่งระงับการแสดงสีบางจุดได้ ช่วยให้เกิดภาพที่ดำสนิทอย่างแท้จริง ทั้งนี้ Predator CG48 ไม่ต้องใช้ระบบไฟหลัง จึงมีประสิทธิภาพการใช้งานในภาพรวมมากยิ่งขึ้นไปอีก

ราคาและการวางจำหน่าย

Predator Orion 5000 เริ่มจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 2,599 เหรียญสหรัฐ สำหรับยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,999 ยูโร ส่วนในตลาดประเทศจีนนั้น จะจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม ราคาเริ่มต้นที่ 14,999 หยวน

Predator Orion 3000 เริ่มจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,999.99 เหรียญสหรัฐ สำหรับยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,299 ยูโร ส่วนในตลาดประเทศจีนนั้น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม ราคาเริ่มต้นที่ 11,999 หยวน

Predator X32 เกมมิ่งมอนิเตอร์ เริ่มจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,999.99 เหรียญสหรัฐ และจะวางขายในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี พ.ศ. 2565 เช่นกัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,899 ยูโร ส่วนในตลาดประเทศจีนนั้น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2565 ราคาเริ่มต้นที่ 12,999 หยวน

Predator X32 FP เกมมิ่งมอนิเตอร์ เริ่มจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1,799.99 เหรียญสหรัฐ และจะวางขายในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2565 เช่นกัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,599 ยูโร ส่วนในตลาดประเทศจีนนั้น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม ราคาเริ่มต้นที่ 10,999 หยวน

Predator CG48 เกมมิ่งมอนิตเตอร์ เริ่มจำหน่ายในอเมริกาเหนือตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 2,499.99 เหรียญสหรัฐ และจะวางขายในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี พ.ศ. 2565 เช่นกัน ราคาเริ่มต้นที่ 2,199 ยูโร ส่วนในตลาดประเทศจีนนั้น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2565 ราคาเริ่มต้นที่ 14,999 หยวน

ข้อมูลจำเพาะ ราคาและการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้อาจจะแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค หากต้องการทราบข้อมูลการวางจำหน่าย ข้อมูลจำเพาะและราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดเฉพาะแห่ง กรุณาติดต่อสำนักงานเอเซอร์หรือผู้ค้าปลีกที่อยู่ใกล้ที่สุดของท่านผ่าน www.acer.com.